ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Burn After Reading (2008) ยกขบวนป่วนซีไอเอ เต็มเรื่อง

ดูหนัง Burn After Reading (2008) ยกขบวนป่วนซีไอเอ เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังอาชญากรรม , หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Burn After Reading (2008) ยกขบวนป่วนซีไอเอ เต็มเรื่อง

ดูหนัง Burn After Reading (2008) ยกขบวนป่วนซีไอเอ เต็มเรื่อง

 

 

 

เรื่องย่อ

ณ สำนักงานใหญ่ของซีไอเอ ในเมืองอาร์ลิงตั้น รัฐเวอร์จิเนีย ออสบอร์น ค็อกซ์ (จอห์น มัลโควิช) นักวิเคราะห์เพิ่งก้าวเข้ามาในที่ประชุมลับสุดยอด โชคร้ายไปนิดสำหรับ ค็อกซ์ เพราะข่าวรั่วออกมาแล้วว่า เขาจะถูกไล่ออก พอข่าวถึงหูเขาก็มึนตึ้บรีบกลับไปตั้งสติที่บ้านในเมืองจอร์จทาวน์ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ, ค่อย ๆ จิบทีละนิด แต่เขาก็ไม่ได้ค่อย ๆ ทำเรียงตามลำดับหรอกนะ เคธี่ (ทิลด้า สวินตัน) ภรรยาของเขาก็รันทดจะแย่ แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับเธอสักเท่าไหร่หรอก ก็เธอเตรียมทางหนีทีไล่ไว้กับชู้รักลับ ๆ ชื่อ แฮร์รี่ ฟาร์เรอร์ (จอร์จ คลูนีย์) นายทหารพระธรรมนูญที่มีครอบครัวแล้ว ก็เธอตั้งใจทิ้งค็อกซ์ไปอยู่กับแฮร์รี่

ณ อีกมุมหนึ่งของย่านชานเมืองของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ดูจะห่างไกลกันราวคนละโลก ลินดา ลิทซ์เก้ (ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์) พนักงานยิม Hardbodies Fitness Centers ที่ไม่ใส่ใจงานการเท่าไหร่ เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับแผนการสวยด้วยแพทย์ ที่จะช่วยศัลยกรรมชีวิตของเธอ ให้ชนะใจเพื่อนร่วมงานหนุ่มอย่าง แชด เฟลด์ไฮเมอร์ (แบรด พิตต์) โดยไม่แยแส เท็ด เทรฟฟอน (ริชาร์ด เจนกินส์) ผู้จัดการยิมที่หมายปองเธอชนิดออกนอกหน้า แม้เธอจะจัดตารางออกเดทกับหนุ่มบนอินเตอร์เน็ทไม่ซ้ำหน้าเย้ยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

เหตุการณ์ชุลมุนสุด ๆ เริ่มขึ้น เมื่อแผ่นดิสก์รวบรวมข้อมูลลับสุดของนักวิเคราะห์สติแตกแห่งซีไอเอ ดันจับพลัดจับผลูตกมาอยู่ในมือของลินดากับแชดโดยบังเอิญ แล้วทั้งคู่ก็เจตนาจะหาผลประโยชน์จากเหตุบังเอิญนี้เสียด้วยสิ ทั้ง ๆ ที่ เท็ด ก็ปรามแล้วเชียวนะว่า ไม่มีทางที่จะเป็นผลดีแน่ ๆ ทั้งต่อคนที่เกี่ยวข้องและคนที่ไม่ขอมีเอี่ยวด้วยแม้สักนิด เรื่องราวขำฮาเสียดสีได้อย่างแสบสันต์จึงหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ 

IMDB : tt0887883

คะแนน : 7

รับชม : 1516 ครั้ง

เล่น : 542 ครั้ง




Directors : Joel Coen, Ethan Coen

Actors : John Malkovich, Frances McDormand, George Clooney, Tilda Swinton, Richard Jenkins, Brad Pitt

หลังจากได้ดู Trailer ของหนังและเห็นใบปิดที่ทำ Artwork ออกมาง่ายๆ สนุกๆ และกับทรงผมของแบร็ด พิทท์ (เกี่ยวนะ) หนัง Burn After Reading ที่เปรียบเสมือนงานพักร้อนของสองผุ้กำกับหลังทำหนังที่คนดูต้องลุ้นลุ้นจนเครียดเรื่อง No Country For Old Men ก็ให้น่าสนใจว่าคราวนี้พวกเขาจะมาไม้ไหน

Burn After Reading ว่าด้วยเรื่องราวของคน 6 คนที่มีอันต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกัน และก็เป็นไปตามสูตรของสองพี่น้องโคเอ็น คนทั้ง 6 ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกันดีๆ อย่างแน่นอน

คนทั้ง 6 คน แบ่งเป็น 2 ฟากของเรื่องราว ฟากแรกมี 3 คน คือ Osbourne Cox (John Malkovich) เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของ CIA ที่พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกในทุกด้านของชีวิตกับ Katie เมียของเขาที่รับบทโดยดาราออสการ์คนล่าสุด Tilda Swinton ผู้ไปมีชู้กับ Harry (George Clooney)

อีกฟากก็คือเหล่าพนักงานในฟิตเนสสถาน Hard Bodies (ซับไทยแปลอย่างฮาว่า หุ่นเด้ง) มีครูฝึกจอมไฮเปอร์ชื่อ Chad (Brad Pitt) และ Linda (Frances Mcdormand) พนักงานหญิงวัยทองที่จิตตกกับความงามของตัวเองจนต้องการหาเงินมาทำศัลยกรรมเป็น 2 ตัวนำ และ Ted (Richard Jenkins) ผู้จัดการใจดีเป็นตัวเสริม

และมี CD ข้อมูลลับบางอย่างของ Cox เป็นตัวสร้างความอลหม่านให้ทั้งหมด

ด้วยบทที่ผูกโยงชีวิตผู้แพ้ในสังคมทั้ง 6 คนด้วยสถานการณ์ การกระทำที่เกิดจากความต้องการแปลกๆ และบทพูดที่แสนจะเสียดสีสังคมที่ในที่นี้คือวิถีบูชาความงามของสังคมเรา และที่ฮามากๆ ก็คือในเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยคำว่า “What the f**k?” (นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย?) ที่เหมือนพี่น้อง Coen คงไม่รู้จะเสียดสีอะไรแล้วเลยหันมาเสียดสีตัวเองซะเลย ทำให้หนังออกมาฮาจริงและโหดจัง ต้องตามมาตรฐานหนังพี่น้อง Coen ทุกอย่าง แถมเรื่องนี้ยังมีโบนัสที่การแสดงที่สบายตัว (นึกถึงหนังสบ้าย...สบายอย่าง Ocean’s Twelve ของ Steven Soderbergh) แต่เมื่อต้องถึงก็ถึงของเหล่านักแสดงคุณภาพ โดยเฉพาะ Frances McDormand ขาประจำคนหนึ่งของพี่น้อง Coen

เพื่อนๆ ที่ชอบหนังอาชญากรรมที่มีคนเล็กๆ ในสังคมที่แค่อยากให้ชีวิตของตัวดีขึ้นเป็นตัวเดินเรื่องตามสไตล์ของผู้กำกับคู่นี้อยู่แล้วก็คงจะไม่พลาด และชั่วโมงกว่าๆ ในโรงหนังก็คงเพลิดเพลินไป แต่กับผู้ที่ไม่ใช่คอหนังแบบนี้แล้วก็อาจจะหลับกันได้ง่ายๆ เหมือนกัน

สำหรับประเด็นเกี่ยวกับชีวิตดีๆ ที่ได้รับจากหนังเรื่องนี้...ประโยคว่า “What the f**k?” ที่มีให้ได้ยินอยู่ตลอดทั้งเรื่องก็เป็นตัวบอกชัดเจนแล้วว่าคนดูจะไม่ได้อะไรจากหนังเลยครับนอกจากความ ไร้สาระ หนัง Burn After Reading เป็นหนังที่ไร้สาระเหลือเกิน ไร้สาระจนต้องเผา (Burn) หลังจากได้ดู (Reading) สมชื่อเรื่อง

แต่ก็ด้วยประโยค “What the f**k?” ที่เสียดสีความไร้สาระของตัวเองอย่างหนักนี่แหละที่ทำให้หนังเรื่องนี้ของพี่น้อง Coen ซึ่งสำหรับผมแล้วพวกเขาทำหนังแบบมี Theme ที่ชัดเจนและหนักแน่นเป็นโครงทุกครั้ง มีสาระหรือ Message ชัดเหลือเกิน ชัดจนสะกิดเราให้คิดต่อ...

อะไรคือเรื่องสำคัญ? อะไรคือเรื่องไร้สาระ? 2 คำถามนี้เอาเข้าจริง เพื่อนๆ คงคิดอย่างผมว่า ตอบยาก ครับ เพราะมันช่างเป็นเรื่องส่วนตัวว่าใครจะมองอย่างไรเหลือเกิน

บางเรื่องอาจสำคัญกับบางคน แต่เรื่องเดียวกันนั้นเมื่อเกิดกับคนเดียวกันนั้นก็อาจจะกลายเป็นไร้สาระก็ได้เมื่อเปลี่ยนสถานการณ์รอบตัวไป อย่าว่าแต่กับคนอื่นๆ ที่อาจจะมองว่าไร้สาระเหลือเกินตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อเวลาเปลี่ยนไปเขาก็อาจจะเปลี่ยนไปมองว่าสำคัญบ้างก็ได้ 

ก็ถ้าเรื่องที่ว่า สำคัญ หรือ ไม่สำคัญหรือไร้สาระ มันยอกย้อนวกวน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างนั้น บางทีการไปจริงจังถามว่า อะไรคือเรื่องสำคัญ? อะไรคือเรื่องไร้สาระ? แล้วยึดติดกับมันมากไป อาจจะเป็นเรื่องไร้สาระอย่างแท้จริง (หรือสำคัญอย่างแท้จริง) ก็เป็นได้

เขียนไปก็งงไปว่านี่ผมเขียน “What the f**k? อะไรอยู่นี่ 555

บทสนทนาระหว่างหัวหน้าหน่วย CIA สองคนในตอนท้ายของหนังที่นอกจากจะสรุปตัวหนังและตัวผู้กำกับได้ฮาแตกฮาแตนเหลือเกินแล้ว ก็อาจจะจริงเหมือนกันว่า แม้แต่ เรื่องที่เราคิดว่าไร้สาระสุดๆ นั้นก็ยังมีข้อดี 1 ข้อให้เราได้เรียนรู้ ส่วนเราจะได้เรียนรู้อะไรนั้นไปหาจากหนังไร้สาระที่ชื่อ Burn After Reading เรื่องนี้กันเอาเองนะครับ 555