ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Gangnam Blues (2015) โอปป้า ซ่ายึดเมือง เต็มเรื่อง

ดูหนัง Gangnam Blues (2015) โอปป้า ซ่ายึดเมือง เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังดราม่า , หนังอาชญากรรม , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Gangnam Blues (2015) โอปป้า ซ่ายึดเมือง เต็มเรื่อง

ดูหนัง Gangnam Blues (2015) โอปป้า ซ่ายึดเมือง เต็มเรื่อง

 

ปี 1970 เริ่มแผนระห่ำยึดครองถิ่นกังนัม จองแด (ลีมินโฮ) และยองกี (คิมแรวอน) เป็นเด็กกำพร้าที่่กลายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปจากความยากจนและเมืองโกโรโกโสที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ แต่เมื่อที่อยู่ของพวกเขากำลังจะถูกรื้อจากแผนการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนกลายเป็นคนไร้บ้าน เมื่อแก๊งค์มาเฟียแถวนั้นขาดคน จองแดและยองกีจึงเข้าร่วมแก๊งค์ โดยงานของพวกเขาคือการไปทำลายการชุมนุมทางการเมือง แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย จองแดกับยองกีก็พลัดจากกัน
 
 
3 ปีต่อมา จองแดได้เข้าร่วมเข้าแก๊งค์มาเฟีย เขาและพวกเริ่มกว้านซื่อที่นาในกังนัมก่อนที่พื้นที่นี้จะกลายเป็นเมืองสำคัญเมืองใหม่ของเกาหลี เมื่อแก๊งค์คู่อริล่วงรู้ถึงแผนนี้ จองแดจึงได้พบกับศัตรูของเขา ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็นยองกีนั่นเอง 

IMDB : tt3698118

คะแนน : 6.3

รับชม : 12474 ครั้ง

เล่น : 5849 ครั้ง




หลายคนอาจสงสัยว่านี่คือหนังอะไรกัน ได้พระเอกหล่อขั้นเทพมารับบทนำ ตัวอย่างหนังดูบู๊ดราม่า แต่ชื่อหนังชวนตลก? ด้วยการที่หนังมี 'ลีมินโฮ' พระเอกซีรีย์ขวัญใจสาวๆมารับบทนำ แค่นี้ก็อาจทำให้คอหนังเบือนหน้าหนีเพราะคิดว่าคงเป็นหนังตลาดขายดาราหล่อๆแค่นั้น ผมขอบอกพวกคุณเลยว่าคิดผิดอย่างมหันต์!!

ในตอนแรกที่ได้ชมก็ไม่ได้คาดหวังอะไร และก็คิดแบบที่พวกคุณคิดนั่นแหละว่านี่คงเป็นหนังตลาดขายดาราเอาใจแฟนคลับ แต่ผิดคาดครับพี่น้องนี่เป็นหนังที่เกินคาดมากๆ เนื้อเรื่องเข้มข้นดูสนุก ฉากแอ๊คชั่นโหดสะใจ และบทแฝงไปด้วยการเสียดสีสังคม และนักการเมืองเกาหลีอย่างหนักเลยทีเดียว (แม้ตอนต้นเรื่องจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริงก็เถอะ)

หนังเป็นเรื่องราวของสองพี่น้องร่วมสาบานยากจก(ลีมินโฮ และคิมแรวอน) ที่โชคชะตาทำให้พวกเขาต้องแยกจากและดิ้นรน และสุดท้ายก็มาเจอกันในช่วงที่ทั้งคู่ต่างอยู่ในวงการนักเลงมาเฟีย ด้วยความใฝ่ฝันที่อยากมีชีวิตอย่างสุขสบายของทั้งสอง ทำให้พวกเขาถลำลึกไปในวังวนของอำนาจและเงินตราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อพวกเขาเลือกเดินเส้นทางนี้ ทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ พวกเขาจะทำสำเร็จได้อย่างที่ฝันหรือไม่ต้องติดตาม

โทนของหนังเรื่องนี้อยู่ในอารมณ์ประมาณ 2499 อันธพาลครองเมือง(นนทรีย์ นิมิบุตร) และเรื่องอันธพาล(ก้องเกียรติ โขมศิริ) ที่เป็นเรื่องราวของนักเลงลูกผู้ชายแล้วก้าวขึ้นไปเป็นมาเฟียเหมือนๆกัน อีกทั้งเป็นหนังย้อนยุคเหมือนกันด้วย โดยเรื่องนี้ได้ย้อนไปในยุคที่เมืองกังนัมยังไม่เจริญ แต่นักการเมืองใหญ่เริ่มเห็นช่องทางว่าจะรุ่งทำให้เกิดศึกแย่งชิงที่ดินผืนนี้กัน โดยมีพระเอกของเราเป็นลูกน้องของนักการเมืองฝ่ายหนึ่งที่ต้องทำการไล่ล่าเช็คบิลฝ่ายตรงข้าม จนเกิดสงครามย่อมๆในการแย่งชิงพื้นที่แห่งนี้

แม้หนังจะได้พระเอกหน้าหล่อมาดคุณชายมานำแสดง แต่ตัวหนังไม่ได้หล่อผู้ดีแบบนั้น เพราะทั้งโหดและรุนแรงใช้ได้เลย ฉากแอ๊คชั่นนี่เอามีดไล่แทง เอาขวานไล่จามกันเลือดสาดแบบสะใจมากๆ บางฉากถึงกับเสียวตัวเกร็งไปด้วยเลย แต่ถึงแม้จะมีเลือดพุ่งสาดกระเซ็น แต่ก็เป็นหยดเลือดที่สวยงามอยู่ไม่น้อย ออกไปในทางอาร์ตสวยๆไม่ใช่เลือดเละเทะแบบหนังโรคจิต นอกจากนี้ยังมีฉากเปลือยกายบรรเลงเพลงรักแบบถึงพริกถึงขิง ร้อนแรงไม่เสียชื่อที่เป็นหนังเกาหลีจริงๆ

ลีมินโฮ เรื่องนี้พลิกบทบาทมากๆ จากมาดคุณชายต้องมารับบทเป็นคนจนไม่มีอันจะกิน(ส่วนตัวไม่ชอบลุคพระเอกในบทนี้เลย หล่อเกินไปไม่สมจริงเป็นจุดที่ทำให้หนังเสียคะแนนแบบไม่สมควรเลย) ที่ก้าวมาเป็นนักเลงรุ่นใหญ่ ซึ่งถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากๆ เห็นแล้วนึกถึงแดง ไบเล่(ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี จาก 2499)  ส่วนคิมแรวอน นี่ก็แสดงได้ดีสมบทบาทมาก ไม่ได้หล่ออย่างเดียวจริงๆ ส่วนนักแสดงอื่นๆก็ทำหน้าที่ได้ดีทุกคน ทางด้านฉากก็เซ็ทโลเกชั่นได้สมจริงและสวยงาม ชอบมากที่สุดคือฉากแอ๊คชั่นกลางสายฝนที่ยกพวกตีกัน มันมาก และงดงามมาก เนื้อเรื่องก็ดราม่าเข้มข้นแบบหนังนักเลงลูกผู้ชาย ที่มีประเด็นทางการเมืองและสังคมที่สะท้อนออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา(เป็นบ้านเราทำนี่อาจโดนแบนห้ามฉายได้เลย) แต่โดยรวมตัวหนังถือว่ายาวไปอย่างไม่จำเป็น โดยเฉพาะช่วงแรกที่เนือยไปหน่อย และใส่ตัวละครมาเยอะไปดูแรกๆงงพอสมควรใครเป็นใคร แต่พอเริ่มเข้มข้นแล้วมันน่าติดตามจนไม่อยากกระพริบตา ฉากแอ๊คชั่นทำได้สวยมากๆ เนื้อหาก็เข้มข้นสุดๆ จนไม่คิดว่าจะกล้าเอาลีมินโฮมาเล่นหนังแนวนี้ แต่พอมารวมกันแล้วมันช่างลงตัว

สรุป Gangnam Blues เป็นหนังแอ๊คชั่นดราม่าที่มีดีมากกว่าขายหน้าดารา และไม่ได้หน่อมแน้มแบบบรรดาซีรีย์ที่ลีมินโฮเคยแสดง ฉากแอ๊คชั่นรุนแรง และมีเลิฟซีนที่เผ็ดร้อนพอสมควร (พ่อแม่ที่จะพาเด็กๆไปดูก็ควรพิจารณาก่อนนิดนึง) ประเด็นทางสังคมและการเมืองก็เล่นหนัก ใครที่ชอบหนังแนวแก๊งสเตอร์รับรองไม่ผิดหวัง และแฟนลีมินโฮ เจอในมาดเข้มแบบนี้รับรองกรี๊ดสลบแน่นอน

และสุดท้ายที่อยากบอก                                              

"เกลียดชื่อไทยมาก"