ดูหนัง The Ward (2010) หวีดลั่นวอร์ด เต็มเรื่อง

The Ward (2010) หวีดลั่นวอร์ด

ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่รอบสื่อ ต้องขอขอบคุณ M-Thai เหมือนเดิมที่ทำให้ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ก่อนใคร แต่เผอิญพอหลังจากดูหนังจบดันป่วยซะก่อน วันนี้จึงเพิ่งได้มารีวิวหนัง สยองขวัญ ที่มาจากการกำกับของ ปู่ Classic อย่าง John Carpenter หนังจะเป็นอย่างไรบางนั้นลองไปอ่านดูเลยครับThe Ward เรื่องราวของสาวน้อย คริสเต็น ที่เธอดันเกิดอาการ จิต อย่างรุนแรง เมื่อวันดีคืนดีเธอนั้นดัน จุดไฟ และ เผาบ้านตัวเอง จึงทำให้ ตำรวจ นั้นต้องจับเธอมาส่งที่ โรงพยาบาลบ้า แห่งนึง ซึ่งที่นั้น เธอได้ถูกคุมขังอยู่ในส่วนนึงของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่เรียกว่า เดอะ วอร์ด ซึ่งเป็นห้องสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการออกแนวเป็นพวก โรคจิต ซึ่งที่นั้นเธอได้พบกับสาวงามมากมายไม่ว่าจะเป็น ไอริส , ซาร่าห์ , เอมิลี่ และ แทมมี่ ซึ่งเธอก็ได้รับรู้กฎ และ เรื่องราวต่างๆที่ เดอะ วอร์ด ได้ตั้งเอาไว้มากมาย แต่แล้วจนกระทั่งคืนนึง เธอได้ยินเสียงกรีด ร้อง มาจากห้องชั้นใต้ดินของ เดอะ วอร์ด ที่มาพร้อมกับการหายไปของเพื่อนเธอ ทีละคน ทีละคน ซึ่งเธอนั้นจะหนีรอดจาก เดอะ วอร์ด ที่มีแต่ความโรคจิต และ สยดสยอง น่ากลัวได้หรือไม่ติดตามชมได้ในโรงภาพยนตร์เลยครับ

The Ward ผลงานชิ้นล่าสุดของผู้กำกับ John Carpenter ที่หลังจากทิ้งหนังใหญ่มาเกือบ 9 ปี (หันไปทำหนังเล็กให้กับรายการทีวีมา 1-2 ปี) เขาผู้นี้ได้กลับมาแล้วกับหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ของเขา ที่หลายคนเห็นตัวอย่างคงคิดได้เหมือนผมเลยว่า 'นี้มันหนังเกรดบีลงแผ่นรึปล่าว' แต่พอทุกคนได้เห็นชื่อของ John Carpenter ก็คงเพิ่มความอยากดูขึ้นมานิดนึง + คำโปรยบนโปสเตอร์ของหนังต่างๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้เอาจริงๆคือ มีส่วนที่ไม่ชอบ เยอะ มากมาย แต่ขอบอกส่วนที่ชอบ และ น่าจะเป็นจุดขายได้ดีของหนังก่อนดีกว่า ซึ่งอย่างแรกเลยคงหนีไม่พ้น ฉากตุ้งแช่ และ การออกแบบผีของปู่จอห์นเขาที่ถือว่า...

ทำออกมาได้น่ากลัวเช่นเดิม + จังหวะฉากตกใจต่างๆของหนังถือว่าลงตัวทีเดียว ถึงแม้จะไม่น่าตกใจมากเท่ากับ Drag Me To Hell (บางฉากดันเล่นใช้มุขเก่าๆด้วยซ้ำ) แต่อย่างน้อยก็ถือว่าทำออกมาเพื่อให้ ป๊อปคอร์นหก กันได้เลยทีเดียว + นักแสดงสาวสวย Sexy อย่าง Amber Heard ที่เพิ่งเห็นหน้าเห็นตากันไปไม่ถึงเดือน หลังจากหนังเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายอย่าง Drive Angry 3D ที่คราวนี้พอมาเรื่องนี้ก็ยังความ Sexy มาเต็มตัว ถึงแม้ว่าบางฉากอาจจะเล่นเหมือนอ่านบท + เคมี ต่างๆไม่ค่อยสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ก็ตามที และนอกจากนั้น สิ่งที่ชอบอย่างสุดท้ายคงหนีไม่พ้น ฉากเปิดตัวหนัง..

ที่อาจจะซ้ำซาก + ดันไปคล้ายๆกับ Final Destination ภาคที่เป็นกระจกอยู่บ้าง แต่ถือว่าหนังสามารถบิ้วอารมณ์ของคนดูให้เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่กับหนังได้อย่างดีเยี่ยม + บรรยากาศตึก เดอะ วอร์ด ถือว่าทำออกได้ดีเลยทีเดียว แต่น่าเสียดาย เมื่อลองมองในข้อเสีย ที่ไม่น่าให้อภัยจริงๆกับคุณปู่ จอห์น คาร์เพ็นเตอร์ ซึ่งอย่างแรกเลยคือ ตอนจบ ของหนัง ที่พยายามทำให้หักมุม และ ทำให้คนดูเอ๋อ แต่ขอโทษที่ตอนจบอันนี้นั้น เราได้เห็นไปแล้วในหนังฝรั่งเรื่องนึง และ หนังไทยก็มีตอนจบแบบนี้ด้วยเรื่องนึง ซึ่งเป็นตอนจบที่ทำเอาคนดู ส่ายหน้า กันเลยก็ว่าได้ เพราะว่ามีให้เห็นในหนังไทยดังๆเรื่องนึง

(โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบตอนจบที่ หักมุม แบบชนิดในหนังเรื่องนี้ เพราะจุดโหว่เยอะมากมายแน่นอน) และนอกจากตอนจบที่ไม่ชอบนั้น ยังมีส่วนที่ไม่คิดว่าหนังน่าจะทำพลาดเลยคือ การกระทำ ของตัวละคร ที่เหมือนกับว่ารู้อยู่แล้วว่าไปตรงนั้นตายนะ ตรงนี้ตายนะ แต่ก็ยังจะทำ (ไม่เหมือน Scream 4 ทีออกมาด่าการกระทำชนิดนี้แบบเละเทะ) และนอกนั้นแล้วสิ่งสุดท้ายที่ยังไม่ชอบคงหนีไม่พ้น ฉากโหด ของหนังที่ผิดแบบฉบับของ John Carpenter ไปนิดนึง เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าใช้ Rated R ยังไม่คุ้มมากนัก ฉากโหดต่างๆยังถือว่า เบาๆ ไปด้วยซ้ำสำหรับหนังสยองขวัญเรื่องนึงนะครับทุกท่าน

แต่ยังไงซะ สรุปแล้วสำหรับคนที่หาหนังผี หนังสยองขวัญ ที่มาแนว ตุ้งแช่ ทำให้เราตกใจได้นั้น เรื่องนี้ขอแนะนำเต็มที่ แต่สำหรับใครที่รับไม่ได้กับบทการกระทำออกแนวไร้สาระของตัวละคร + ตอนจบของหนังที่ไปซ้ำกับเรื่องอื่นนั้น เรื่องนี้เป็นหนังที่ต้องควรหลีกเลี่ยงกันเลยทีเดียวหละครับ (เรื่องนี้ฉายเงียบๆ)