นำแสดงโดย
เจอราร์ด บัตเลอร์ (Gerard Butler) รับบทเป็น ไคลด์ เชลตัน
เจมี ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx) รับบทเป็น นิค ไรซ์
กำกับโดย เอฟ แกรี เกรย์ (F. Gary Gray)
ค่าย overture films
ฉายเมื่อปี พ.ศ. 2552
เป็นเรื่องของ ไคลด์ วิศวกรที่มีครอบครัวแสนอบอุ่น จนวันนึงมีโจร 2 คนบุกมาที่บ้าน เพื่อขโมยของ แต่โจรคนนึงได้ฆ่าข่มขืนภรรยา และลูกของไคลด์ แต่สุดท้ายก็จับโจรขึ้นศาลได้ โดยมีนิค เป็นทนายให้ไคลด์ ผลการตัดสินออกมาว่า โจรคนนึงถูกประหารชีวิต แต่โจรอีกคนศาลลดโทษให้เหลือกึ่งหนึ่งจาก 10 ปี เหลือ 5 ปี เพียงเพราะให้ความร่วมมือ และรับสารภาพ(อย่างไม่จริงใจ)
ไคลด์ไม่พอใจคำตัดสินของศาลจึงแย้งคำตัดสิน และให้นิคช่วยพูด แต่นิคเพิกเฉย บอกไคลด์ให้น้อมรับคำตัดสินไปซะ ระบบยุติธรรมก็เป็นแบบนี้ล่ะ ไคลด์รู้สึกแค้นโจรและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาล อีกทั้งไคลด์เห็นโจรขอบคุณและจับมือนิค เลยยิ่งแค้นนิค และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดแผนการแก้แค้นอันแยบยล เพื่อทวงความยุติธรรมคืน
10 ปีต่อมา ไคลด์ได้ทำตามแผนที่วางไว้โดยฆ่าโจรเพื่อแก้แค้น สร้างเหตุจูงใจให้นิคเชื่อว่า เป็นฝีมือไคลด์ แต่ไม่ทิ้งหลักฐานไว้ เมื่อนิคตกหลุมพรางก็เข้าจับกุมไคลด์โดยไม่มีหลักฐาน สุดท้ายก็ขึ้นให้การในศาล เมื่อศาลเห็นว่า ไม่มีหลักฐานกอปรกับไคลด์ให้ความร่วมมือ ศาลจึงตัดสินปล่อยตัวไคลด์ และเมื่อไคลด์ ได้ยินเช่นนี้ จึงตะโกนท้าท้ายศาลว่า “ก็เพราะระบบความยุติธรรมมันเป็นแบบนี้ไง อ่อนแอ เน่าเฟะ เลยทำให้ลูกเมียเขาตายไปอย่างไม่ยุติธรรม” และจากนี้ก็เป็นการชิงไหวชิงพริบกันและ แสดงชั้นเชิงในการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเล่นงานกัน และด้วยการวางแผนที่ซับซ้อนก็ทำให้ไคลด์ได้เปรียบ จนกระทั่ง นิค มองเกมของไคลด์ออกหมดจึงสามารถยุติเหตุได้สำเร็จ และไคลด์ก็ตายด้วยระเบิดของตัวเองที่คิดจะเอาไปทำลายผู้บริสุทธิ์
จากเรื่องนี้ทำให้ได้มุมมองเรื่อง “ระบบความยุติธรรม” ที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้ร้ายจนเกินไป กฎหมายละหลวม การตีความที่กรอบเฉพาะตัวหนังสือ จนคนที่เป็น “เหยื่อ” รู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม และ ผู้ใช้กฎหมาย ตัดสินโดยยึดตัวหนังสือในกฎหมายมากเกินไป จนบางครั้งก็มองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ หากเหยื่อมีชีวิตก็อาจมาต่อสู้ความยุติธรรมได้ แต่หากเหยื่อเสียชีวิตใครจะให้ความเป็นธรรมในจุดนี้
หากใครสนใจเนื้อเรื่องที่แสดงถึงชั้นเชิง ความลึกลับซับซ้อน เชือดเฉือนอารมณ์ ของตัวละครแต่ละตัว แนะนำไปดูได้นะคะ สนุกมากจ้า