Frankie and Johnny สั่งหัวใจ อย่าให้มีเครื่องหมายคำถา (1991) [บรรยายไทย]

อีกหนึ่งผลงานการกำกับของ Garry Marshall แห่ง Pretty Woman และ Runaway Bride โดยจับเอา 2 ดาราคุณภาพมาเล่นหนังคู่กัน นั่นคือ Al Pacino กับ Michelle Pfeiffer ในหนังโรแมนติกแบบผู้ใหญ่ครับ

ผมไม่ได้หมายถึงหนังผู้ใหญ่แบบนะครับ (5555) ความรักแบบผู้ใหญ่ที่ผมหมายถึงก็คือความรักของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านห้วงสุขและทุกข์ของชีวิตมาในระดับหนึ่ง อาจเคยมีรักแล้วเจ็บ หรือเคยมีรักแล้วผิดหวัง และดำเนินมาถึงระยะที่ต้องการแสวงหาคู่ชีวิตและความมั่นคง ไม่ได้ปิ๊งฉาบฉวยหวือหวาแบบหนุ่มสาว

ด้วยเหตุนี้หนังจึงจะไม่ได้มีความหวานแหววอะไรมากครับ เป็นหนังโรแมนติกแบบที่จะเน้นการพูดจาแลกเปลี่ยนความคิด เกี่ยวกับชีวิต มุมมองของหัวใจอะไรแบบนั้นมากกว่า ดังนั้นถ้าคุณคิดจะเลือกหนังดูสบายๆ ดูไปสวีทวี๊ดวิ่วไป เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์นั้นครับ มีแววว่าดูไปแล้วจะหันมาถกกันถึงประเด็นในหนังมากกว่าจะซบกันด้วยความหวาน (แต่ก็ไม่แน่ครับ ถ้าดูจนถึงช่วงท้ายๆ อาจยังมีโอกาสได้ซบอยู่)

หนังเลยเหมาะสำหรับใครก็ตามใฝ่หาหนังที่มีแง่คิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแง่มุมของหัวใจ เกี่ยวกับประสบการณ์ด้านมิติความรัก ผมเชื่อว่าเมื่อดูแล้ว ท่านจะได้มุมมองในเรื่องความรักแบบผู้ใหญ่ หรือมุมแบบคนที่เคยผ่านความเจ็บช้ำเพราะรักมาแล้วน่ะนะครับ

ถ้าหากสังเกตสักนิดจะรู้สึกได้ครับว่าหนังมันมีอยู่แค่ไม่กี่ฉาก ตัวละครก็ไม่กี่ตัว ซึ่งนั่นก็เพราะว่า หนังดัดแปลงมาจากบทละครเวทีของ Terrence McNally ซึ่งตอนฉบับละครเวทีนั้น แสดงโดย Kenneth Welsh กับ Kathy Bates (ใช่ครับ เจ๊คนที่เล่นเป็นแอนนี่ วิลค์ส แห่ง Misery ได้อย่างน่าขนลุกคนนั้นนั่นเอง) และตอนแรก Bates เองจะมารับบทเดิมครับ แต่สุดท้าย Pfeiffer ก็คว้าไปแทนครับ ซึ่งเธอก็แสดงบทนี้ได้ดีมากๆ เข้าคู่กับ Pacino ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะจริงๆ โดยเฉพาะยามที่ต้องรับส่งอารมณ์ซึ่งกันและกันครับ

เอาล่ะ ฝีมือนักแสดงก็เข้ม หนังก็ดีครับ ถ้าคิดว่าแนวหนังสไตล์นี้ เข้าทางกับคุณ ก็อย่ารอช้าครับ ดูได้เลย มันมีสาระและแง่มุมความรักของผู้ใหญ่ที่น่าสนใจ ดูแล้วก็ทำให้ตระหนักครับว่าความทรมานของผู้หญิงที่เคยโดนคนที่เธอรักและไว้ใจหักหลังเอานั้น มันฝังรากลึกใจจิตใจได้เพียงไหน ดูแล้วเข้าใจเลยว่า ทำไมผู้หญิงบางคนกลัวที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง การจะก้าวข้ามอดีตกันปวดร้าวนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากทีเดียว และชายหนุ่มคนไหนที่จะเอาชนะใจผู้หญิงที่เจอเรื่องรักร้าวมาก็ต้องใช้ความพยายามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

หนังดีครบเครื่อง ดาราดี บรรยากาศในหนังก็ดีครับ ง่ายๆ เหมือนเราตามดูชีวิตของสองคนนี้น่ะครับ ว่าพวกเขาจะลงเอยกันได้หรือไม่ บทก็ดีครับ แง่มุมความรักน่าสนใจ แต่ก็น่าเสียดายครับที่ตอนออกฉายหนังไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร หนังทำเงินไปราวๆ $22 ล้าน แต่ทุนสร้างน่ะปาเข้าไป $29 ล้านครับ เข้าข่ายหนังล่มอีกเรื่องหนึ่ง

แต่หากมองกันในแง่คุณภาพแล้ว หนังควรค่าแก่การลองรับชมสักครั้งครา เหมาะสำหรับท่านที่ชื่นชอบ 2 ดารานำ และชอบหนังรักที่มีตัวละครมาคุยแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตกันและกัน ฟังแล้วอาจจะคล้ายๆ กับ Before Sunrise แต่เรื่องนี้ก็ไม่คล้ายกันซะทีเดียวครับ