For the Emperor อีมินกิ (2014) [บรรยายไทย]

For the Emperor or To be an Emperor คำโปรยจากโปสเตอร์หนังเรื่องนี้ที่กำลังบอกว่า คนเราไม่ว่าจะทำงานหรือทำมาหากินอะไร  ทุกคนคงหวังที่จะก้าวหน้าในงานที่ทำด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นกระทั่งแก๊งค์มาเฟียที่ทุกคนต้องคอยรับฟังคำสั่งลูกพี่ใหญ่เพียงคนเดียว แต่ว่าใครมันจะอยากเป็นลูกน้องคนอื่นไปจนตาย หากมีโอกาสสอยลูกพี่ให้หล่นจากบัลลังก์สักครั้งจะไม่ลงมือทำอะไรสักหน่อยหรอ


ตัดสินใจดูตัวอย่างหนังก่อนก็รู้สึกว่าตัวอย่างตัดออกมาได้มันส์ สะใจ มีความเป็นแอคชั่นที่มันเดือด แต่พอได้ดูจริงๆแล้วหนังมันไปไม่สุดขั้นนั้น คือหนังออกมาอารมณ์ประมาณเดียวกับเรื่อง Monster (2014) ที่ อีมินกิ ปะทะกับ คิมโกอึน คือหนังมันมีฉากแอคชั่นที่ดุเดือด แต่บทและการเล่าเรื่องของหนังไม่ผ่านเอาซะเลย ความสนุกมันเลยดรอปไปเยอะ  แล้วเอาจริง For the Emperor (2014) เรื่องนี้ดูจะดรอปกว่า Monster (2014) เสียด้วยซ้ำ

ส่วนพระเอกของเรื่องอย่าง อีมินกิ ก็ได้รับบทคล้ายๆกันกับใน Monster (2014) อีกนั่นแหละเพียงแต่กับเรื่องนี้ไม่ได้เป็นฆาตกรโรคจิต แต่เป็นคนที่อาจจะนิยมเซ็กและความรุนแรงก็เท่านั้น ซึ่งเอาจริงก็บอกตรงๆเลยว่าด้วยผลงานที่ผ่านมา อีมินกิ ก็ดูจะเหมาะกับบทแนวจิตๆ ฆาตกรต่อเนื่อง หรือคนที่คลั่งความรุนแรงเอาซะด้วย

ส่วนคนที่อาจจะไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายในเรื่อง  แต่ขโมยซีนได้หลายๆครั้งคงจะเป็น อีแทอิม ที่เล่นเป็นผู้หญิงบริการคนรักของ ฮวาน ซึ่งสวยและเซ็กซี่มากในเรื่องนี้ แถมยังมีฉากเลิฟซีนเผ็ดร้อนกับ อีมินกิ อีกสองฉากซึ่งเจ้าตัวก็เปลือยจัดเต็มทีเดียว เลยขอยกให้เธอเป็นตัวละครขโมยซีนขโมยความน่าสนใจไปได้พอสมควรเลย 555

หนังเองบอกเล่าเรื่องราวของคนที่ทะเยอทะยานอยากได้อยากมี ซึ่งความรู้สึกแบบนี้แหละที่มันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกำจัดคนที่มีความทะเยอทะยานเหมือนๆกัน ไม่ต่างจากคลื่นลูกใหม่ที่ต้องซัดกลบคลื่นลูกเก่าไป เพียงแต่ว่าเกลียวคลื่นที่ซัดใส่กันบางครั้งอาจจะหลงลืมไปว่า  คลื่นมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีใครหรือปัจจัยอื่นมาสนับสนุนคลื่นลูกใหม่ที่ว่า ก็อาจจะโดนคลื่นลูกใหม่กว่าซัดเข้าให้อีกก็ได้ 

      สรุปแล้วส่วนตัวมองว่าหนังมีข้อดีตรงฉากแอคชั่นที่พอไปวัดวาได้ ฉากเลิฟซีนที่ฮอตพอตัว และความซับซ้อนหักเหลี่ยมเฉือนคมประมาณนึงตามประสาหนัง Gangster แต่รวมๆหนังยังดูประดักประเดิดขาดความลงตัว

ซึ่งพอเข้าไปดูเครดิตผู้กำกับก็ไม่น่าแปลกใจเพราะว่าผู้กำกับ Sang Jun Park เพิ่งมีผลงานกำกับหนังเพียงแค่สองเรื่องเอง เรื่องแรก Bank Attack ตั้งแต่ปี 2007 เรื่องที่สอง For the Emperor นี้ก็ตามออกมาเอาจนปี 2014 เว้นระยะห่างการกำกับนานถึง 7 ปีเลยทีเดียว