The Glass Castle วิมานอยู่ที่ใจ (2017) [พากย์ไทย บรรยายไทย]

The Glass Castle วิมานอยู่ที่ใจ (2017)

   พลิกชีวประวัติสู่ดราม่าหัวเราะร่าน้ำตารื้น

ด้วยเครดิตส่วนใหญ่ที่เป็นงานหนังสั้นและสารคดี ทำให้ เดสติน แดเนียล เครตตัน ผู้กำกับและร่วมเขียนบทกับ แอนดรู แลนแฮม หยิบหนังสืออัตชีวประวัติของ เจนเนต วอลส์ มาบอกเล่าด้วยลีลาคล้ายสารคดีเพียงแต่ตัดเสียงบรรยายเหตุการณ์ออก ทำให้ได้หนังดราม่าสะเทือนอารมณ์ที่เคลือบแฝงด้วยอารมณ์ขันและการผจญภัยแบบหนังโรดมูฟวี่ ซึ่งต้องบอกว่าตัวหนังทำออกมาผิดคาดจากที่เห็นในตัวอย่างแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะความยากลำบากในชีวิตของครอบครัววอลส์ถูกนำเสนอได้เปี่ยมอารมณ์ขัน แต่กลับทิ้งปมแต่ละฉากได้เจ็บจุกสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง โดยสิ่งที่ต้องชื่นชม เดสติน แดเนียล เครตตัน และแอนดรู แลนแฮม ในด้านบทคือการตัดสินใจใช้แฟลชแบ็คในการเล่าเรื่องราวของครอบครัว วอลส์ ทำให้เราได้เห็นรายละเอียดและปมปัญหาในชีวิตของ เจนเนต วอลส์ แบบทะลุปรุโปร่ง และส่งผลต่อตัวละครในเส้นเรื่องปัจจุบันที่กำลังจะแต่งงาน

ในแง่สัญญะแล้วการแต่งงานก็คือการสูญเสีย “ตัวตน” เพื่อไปสร้างครอบครัวอีกทีหนึ่ง โดยเรื่องของ “ตัวตน” นี้ยังถือเป็น ธีมหลักที่หนังใช้นำเสนอชีวิตตัวละครแต่ละตัว ตั้งแต่การอุปโลกชื่อเล่นเป็นสัตว์ป่าให้ลูกๆของเร็กซ์ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองพิเศษ และกำลังเดินทางเพื่อหาที่สร้าง  “ปราสาทแก้ว”  ที่เขาออกแบบไว้ เป็นการชดเชยความจริงอันน่าเย้ยหยันที่ว่าแม้เขาเป็นวิศวกรแต่กลับไม่สามารถสร้างอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ได้แต่เมาหัวราน้ำจนตกงานก็พาครอบครัวร่อนเร่พเนจร มีชีวิตยากลำบาก โดยเหตุการณ์ทั้งหมดถูกบอกเล่าผ่านสายตาเจนเนตในปัจจุบันที่ทำได้เพียงเขียนข่าวซุบซิบดารา ทั้งที่ฝันอยากเขียนเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงโลก และทีละน้อยเรื่องราวในอดีตก็ค่อยๆเผยให้เห็น “ตัวตน” ของเธอที่พ่อสร้างขึ้นจนยากปฏิเสธ โดยเฉพาะฉากสระว่ายน้ำที่ เร็กซ์ บังคับให้ เจนเนต ว่ายน้ำให้ได้ด้วยการปล่อยให้เธอจมน้ำกลางสระ แม้เป็นฉากเล็กๆแต่ก็ให้ข้อคิดอันยิ่งใหญ่จนเจนเนตกล้าที่จะออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ The Glass Castle ดูจะโดดเด่นกว่าหนังครอบครัวทั่วไปคงหนีไม่พ้นการสร้างตัวละครพ่อแม่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะทั้งเร็กซ์ และ โรสแมรี่ ไม่ใช่พ่อแม่ที่ดีเลิศ ซ้ำร้ายยังปล่อยให้ลูกหิวโซจนเกิดอุบัติเหตุขณะทำอาหารเอง แต่หนังก็เผยให้เห็นทัศนคติในการเลี้ยงดูลูกที่น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยสำหรับใครที่คิดมีลูกในเร็ววันนี้  เพราะพอลูกทักท้วงเรื่องที่หมออยากให้เด็กๆได้ไปโรงเรียน เร็กซ์ กลับให้เด็กๆเรียนรู้จากสิ่งที่ชีวิตพบเจอ และที่สำคัญที่สุดความคิดในการสร้าง “ปราสาทแก้ว” ของเขากลับเป็นแรงผลักดันช่วยให้ลูกๆกล้าที่จะฝันให้ยิ่งใหญ่และลงมือทำเพื่อฝันนั้นสำเร็จอย่างใจหมาย

  ลานประลอง ปล่อยของเหล่านักแสดงคุณภาพ

สำหรับนักแสดงที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น วูดดี ฮาเรลสัน ที่มารับบท เร็กซ์ วอลส์ ได้อย่างโดดเด่น เขาสามารถสร้างและถ่ายทอดสองบุคลิกที่ต่างกันสุดขั้วได้อย่างลงตัวทั้งพ่อผู้รักลูกสุดชีวิตและขี้เมาหยำเปจอมคุยโว ที่สำคัญเขาสามารถทำให้คนดูอย่างเราๆต่อติดกับตัวละครได้ แม้ไม่ได้มีประสบการณ์ร่วมโดยตรง อันเป็นผลมาจากการทำความเข้าใจกับคาแรกเตอร์และแสดงออกมาได้อย่างสมจริง จนน่าจะมีลุ้นบนเวทีออสการ์ปีหน้า ส่วน บรี ลาร์สัน แม้บท เจนเนต ของเธอจะต้องถูกเฉลี่ยเวลาไปให้นักแสดงในวัยอื่นๆ แต่พอถึงซีนที่เธอต้องปล่อยของ ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยทีเดียว เธอสามารถเป็น เจนเนต วอลส์ ที่ผ่านชีวิตครอบครัวทั้งดีและร้ายจนกลายเป็นตัวตนของเธอในปัจจุบันได้อย่างไม่มีสะดุดจนเวทีออสการ์อาจได้มอบรางวัลให้เธอปีหน้าอีกสมัยก็เป็นได้  ด้านนักแสดงคนอื่นๆก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กันทั้ง นาโอมิ วัตส์ ที่ต้องรับบทโรส แมรี่ ตั้งแต่สาวยันแก่ก็ถ่ายทอดบุคลิกความเป็นขบถของตัวละครได้เป็นอย่างดี และที่น่าจับตามองต่อไปคงหนีไม่พ้น เอลลา แอนเดอร์สัน ในบท เจนเนต วัยแรกรุ่นที่การแสดงโดดเด่นในทุกฉากที่เธอปรากฎตัวแม้กับรุ่นใหญ่อย่าง วูดดี ฮาเรลสัน ก็ตาม  นอกจากนี้หนังยังได้นักแสดงสาวดาวรุ่งอย่าง บริเจต ลันดี เพนน์ ที่กำลังโด่งดังจากซีรีส์ Atypical ทาง Netflix มารับบท มัวรีน น้องสาวคนเล็กในตอนโตอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่หนังไม่ได้เน้นคาแรกเตอร์ของเธอนัก

สรุปแล้ว The Glass Castle คือหนังดราม่าคุณภาพอีกเรื่องที่เล่าเรื่องครอบครัวพเนจรได้อย่างมีสีสัน เปี่ยมอารมณ์ขัน โดดเด่นด้วยการแสดงอันน่าเชื่อถือจาก วูดดี ฮาเรลสัน และ บรี ลาร์สัน จนต้องขอเตือนว่า อย่าดูหนังเรื่องนี้โดยไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าไปเตรียมซับน้ำตาเป็นอันขาด