Security โคตรยามอันตราย (2017) [พากย์ไทย บรรยายไทย]

Security (2017) โคตรยามอันตราย

ท่านผู้มีอุปการคุณโปรดทราบ…ขณะนี้เกิดเกมไล่ล่าดุเดือดทั่วทุกแผนก

   หนังบู๊เกรดบีกับพลอตย่อยง่าย

จะว่าไปพลอตของ Security ก็ไม่ต่างจากหนังยุค80- 90 ทั้งหลายด้วยการคิดพลอตง่ายๆเพื่อรองรับฉากแอ็คชั่นทั้งหลาย โดยมีตัวเอกที่มีความเชี่ยวชาญในการรบเพราะเคยเป็นทหารมาก่อนจนจับพลัดจับผลูมาอยู่ในสนามรบกลางเมืองหลังปลดประจำการ  ซึ่งหนังก็เริ่มต้นด้วยฉากที่ เอ็ดดี้ ติดต่อกับสำนักงานจัดหางานเพื่อปูพื้นข้อมูลตัวละครคือ 1. เขาเคยเป็นทหารผ่านศึกและมียศในระดับผู้กองของหน่วย เพื่อเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถวางแผนการรบได้ 2. เจ้าหน้าที่เสนองานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้ห้างแห่งหนึ่งในชุมชน  3.เขามีปัญหาบางอย่างทำให้ช่องสภาพจิตปกติถูกเว้นว่างไว้  ซึ่งจากข้อมูลทั้ง 3 ข้อก็ทำให้คนดูคาดหวังกับเรื่องราวและความสนุกที่หนังจะมอบให้ไปต่างกรรมต่างวาระกันไป

แม้นี่จะเป็นเพียงหนังแอ็คชั่นเกรดบีเอามันแต่ด้วยการปูพื้นตัวละครเอ็ดดี้ว่าเป็นทหารปลดประจำการมา คนดูย่อมคาดหวังจะได้เห็นการวางแผนอันชาญฉลาดของ เอ็ดดี้  ซึ่งหนังก็พยายามใส่สถานการณ์เลวร้ายต่างๆทั้งการวางสไนเปอร์อยู่นอกห้าง กลุ่มผู้ร้ายอาวุธครบมือสุดโหดเหี้ยม เพื่อให้เอ็ดดี้ได้วางกลยุทธทางทหารให้ เหล่ายามขี้เก็ก ยามขี้กลัว  ยามสาวเซ็กซี่คลั่งอดรีนาลีน และยามหนุ่มบอยแบนด์หน้าตี๋ มารับมือเหล่าวายร้ายสุดโฉดในค่ำคืนหฤโหดนี้ แต่นอกจากเผาโซฟา กั้นประตูห้างด้วยของหนักแล้ว วีรกรรมของตัวละครแต่ละตัวกลับไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ซ้ำร้ายหนังยังไม่ได้ปูให้เราผูกพันธ์กับตัวละครไหนเป็นพิเศษ ทำให้เวลาใครตาย คนดูเลยไม่สะเทือนใจแม้แต่นิดเดียว น่าเสียดายที่หนังอุตส่าห์วางคาแรกเตอร์แต่ละคนมาแตกต่างกันแต่กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการสร้างความสนุกให้หนังนอกจากฉากยิงกันวินาศสันตะโรเพียงอย่างเดียว ยังดีที่คาแรกเตอร์ของเอ็ดดี้ แข็งแรงมากพอที่จะทำให้คนดูติดตามชะตากรรมและร่วมลุ้นให้เขาปกป้องพยานตัวน้อยได้สำเร็จ

และเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้าง สิ่งที่คนดูจะสังเกตต่อมาคืองานสร้าง ก็ต้องยอมรับว่าหนังมีงานสร้างที่ค่อนข้างประณีต แม้ตัวหนังจะมีทุนสร้างไม่มากนักแต่การออกแบบงานสร้างห้างสรรพสินค้าที่เกิดเรื่องก็อยู่ในจุดที่น่าพอใจ แม้บางจุดจะดูออกว่าเซ็ตในสตูดิโอก็เถอะแต่ด้วยเหตุการณ์เกิดในตอนกลางคืนและมักเป็นฉากวินาศสันตะโรก็เลยพอจะกลบข้อบกพร่องไปได้บ้าง แต่จุดบอดของหนังกลับกลายเป็นงานออกแบบเสื้อผ้าของเหล่า ผู้ตรวจการสหรัฐหรือ U.S.A.Marshall  ที่ดูเหมือนเสื้อแจ๊คเก็ตตลาดนัดแถวตลาดจตุจักรซะงั้น เลยกลายเป็นจุดบกพร่องเล็กๆในหนังไปโดยปริยาย

ในด้านบทหนัง เอาเฉพาะแค่การปูคาแรกเตอร์ของเอ็ดดี้ เอง ก็มีช่องโหว่รูเบ้อเร่อโดยเฉพาะการที่หนังพยายามให้เอ็ดดี้มีภาวะของโรค PTSD หรือ Posttraumatic Stress Disorder ซึ่งเป็นภาวะเหตุการณ์เลวร้ายฝังใจซึ่งมักปรากฏในหนังที่เล่าถึงทหารที่เพิ่งกลับจากสงคราม ตั้งแต่หนังแรมโบ้ภาคแรกอย่าง Rambo : First Blood (1982) มาจนถึง American Sniper (2014)ที่เคยชิงออสการ์ โดยใน Security ตั้งใจให้ เอ็ดดี้ มีปมเรื่องครอบครัวเพราะหลังกลับจากสงคราม ในตะวันออกกลาง เขาก็ไม่สามารถใช้ชีวิตกับภรรยาและลูกสาวได้ เลยต้องเนรเทศตัวเองมาอยู่ต่างเมืองและหางานทำ แต่พอเกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่ห้าง เรากลับไม่พบว่าเอ็ดดี้ มีอาการดังกล่าวแม้แต่น้อย แถมยังแทบจะไม่มีจุดอ่อนเหมือนคนเหล็กที่ไม่มีวันตาย เลยค่อนข้างน่าเสียดายที่บทหนังไม่ใช้ประโยชน์จากคาแรกเตอร์มาสร้างสถานกาณ์กดดันให้หนังดูสนุกและแตกต่างมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างน่าเสียดาย

เหล่ายามโคตรๆและผู้ร้ายที่ทิ้งออสการ์ไว้เบื้องหลัง

จุดขายของ Security คงหนีไม่พ้นการได้นักแสดงนำอย่าง อันโตนิโอ บันเดอราส อดีตนักแสดงหนุ่มหล่อเชื้อสายสเปนผู้เคยรับบท หน้ากากโซโร ใน The Mask of Zorror (1998) และเจ้าของบทมือปืนผู้ถือกระเป๋ากีตาร์ใน Desperado (1995)  โดยแม้อายุอานามจะไม่น้อยแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า บันเดอราส ยังคงรักษารูปร่างในวัย 57 ได้ฟิตปั๋งและยังมาดเท่มากพอในบทนำอย่าง เอ็ดดี้ ซึ่งแม้จะน่าเสียดายที่บทหนังไม่ได้เอื้ออำนวยให้เขาแสดงความสามารถทางการแสดงมากนัก แต่การได้เห็นลีลาพะบู๊กึ่งหนังจอห์น วู แบบที่เราคุ้นเคยก็พอให้หายคิดถึงอดีตดาราแอ็คชั่นแห่งยุค 90 คนนี้แล้ว ด้าน เลียม แมคอินไทร์ ที่โด่งดังจาก    ซีรีส์ Spartacus Blood and Sand (2012-2013) ก็ขยันขโมยซีนด้วยบท แวนซ์ หัวหน้าจอมโวที่สร้างสีสันให้เรื่องราวได้ไม่น้อย ส่วน เบน คิงส์ลีย์ ที่แม้หลายคนจะเสียดายฝีมือการแสดงระดับออสการ์ของเขา แต่ต้องยอมรับว่าแม้ปู่ คิงส์ลีย์ จะแสดงในหนังแอ็คชั่นเกรดบี ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งสายตาอำมหิต และน้ำเสียงเปี่ยมอำนาจคือเครื่องการันตีนักแสดงคุณภาพท่านนี้ได้เป็นอย่างดี

แม้หน้าหนังของ Security จะไม่ได้โดดเด่นนัก แต่ต้องยอมรับว่าการได้ อันโตนิโอ บันเดอราส และ เบน คิงส์ลีย์ ในบทนำช่วยให้หนังมีการแสดงที่น่าเชื่อถืออยู่บ้าง กอปรกับการดีไซน์ฉากแอ็คชั่นในห้างที่ทำได้น่าพอใจ ภายใต้พลอตเรื่องแบบหนังบู๊ยุค 80-90 ก็น่าจะพอทำให้คอหนังแอ็คชั่นเอามันส์แบบไม่เน้นซีจีหายคิดถึงกันได้บ้าง