หมวดหมู่ :
หนังตลก
,
หนังอาชญากรรม
,
หนังคาวบอย
,
หนัง Netflix
เรื่องย่อ : El Camino Christmas คริสต์มาสที่เอล คามิโน่ (2017) [บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : El Camino Christmas คริสต์มาสที่เอล คามิโน่
แนว/ประเภท : Western, Crime, Comedy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : David E. Talbert
บทภาพยนตร์ : Theodore Melfi, Christopher Wehner
นักแสดง : Dax Shepard, Kurtwood Smith, Luke Grimes
วันที่ออกฉาย : 8 December 2017
El Camino Christmas (2017) คริสต์มาสที่ เอล คามิโน่ หลังจากติดอยู่ในร้านขายเหล้าระหว่างเกิดการปล้น คนแปลกหน้ากลุ่มนี้จึงได้ร่วมแบ่งปันความลับและความผูกพันอย่างไม่คาดคิดในค่ำคืนคริสต์มาสอีฟ
IMDB : tt3255590
คะแนน : 5.6
รับชม : 904 ครั้ง
เล่น : 173 ครั้ง
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกหลากอารมณ์ผสมๆ กันครับ แม้หน้าหนังจะว่าด้วยวันคริสต์มาส แต่ตัวหนังไม่ได้มาในแนว Feel Good ไม่ได้เต็มไปด้วยความแฮ้ปปี้แบบหนังเทศกาลทั่วๆ ไป แต่มันออกมาแนวตลกร้ายน่ะครับ
แลร์รี่ (Tim Allen) ชายขี้เมาที่เอริคได้พบเจอระหว่างตามหาคน และ เบธ (Jessica Alba) นักข่าวสาวที่กำลังท้องแก่ แต่ก็จำต้องตระเวนหาข่าวตามหน้าที่ ซึ่งชีวิตพวกเขาจะมาเกี่ยวกันแบบไหน และเรื่องจะลงเอยอย่างไร คำตอบอยู่ในหนังแล้วครับ
หนังมีทั้งส่วนที่ผมชอบและส่วนที่เฉยครับ แต่ดูจะมีส่วนที่ผมชอบอยู่เยอะกว่าหน่อย อย่างแรกคือเหล่าดาราในเรื่องทำหน้าที่ได้ดีครับ แม้จะไม่ได้สุดยอดหนักๆ แต่ก็ถือว่าเล่นกันได้ดีและเป็นพลังสำคัญที่ทำให้หนังน่าติดตาม จนผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ถือว่าเข้าท่าเกินมาตรฐานหนังทั่วๆ ไปหลายๆ เรื่องของ Netflix ครับ
ตัวพล็อตมันก็เหมือน Pulp Fiction มาเจอกับ Love Actually น่ะครับ จากเรื่องที่เริ่มเรื่อยๆ แล้วก็มีปมโผล่มาทีละนิด จนพอความเข้าใจผิดมันเลยเถิด อะไรๆ ก็เลยลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งจุดนี้หนังก็ทำได้ไม่เลวครับ แต่อาจจะยังไม่ลงล็อคหรือเนียนแบบเต็มๆ ในบางประเด็น
จุดที่ผมชอบอีกอย่างคือ หนังยังคงได้บรรยากาศวันคริสต์มาสอยู่ ไม่ว่าจะบรรยากาศหรือตอนตัวละครร้องเพลงกันทั้งที่เกิดเรื่อง มันดูพอดีครับสำหรับอะไรเหล่านี้ มันไม่ได้ดูเสแสร้งหรือยัดเยียด มันเหมือนพอตัวละครเจอเรื่องร้ายและเรื่องวุ่นวายเข้าเยอะๆ ก็เลยขอร้องเพลงผ่อนคลายสักหน่อย ใช้บรรยากาศวันคริสต์มาสช่วยบรรเทา มันก็ได้อารมณ์เข้ากันไปอีกแบบ
บทสรุปของหนังถือว่ากำลังดีครับ จะว่าจบดีก็ได้ แต่ก็ยังแฝงด้วยความเศร้าอยู่ ผมถึงบอกน่ะครับว่าความรู้สึกผมมันกลั้วๆ กันระหว่างชอบกับเฉย เพราะหลายอย่างทำได้ดี แต่มันอาจจะไม่สุดแบบเต็มๆ เท่านั้นเอง
ซึ่งจุดนี้ผมไม่โทษคนทำนะ เพราะการทำหนังตลกร้ายนี่มันเป็นอะไรที่ยากที่สุดแล้วครับ มันไม่ได้ฮาอย่างเดียว แต่มันเป็นความฮาแบบเสียดสี ฮาแบบเจ็บแสบ บางครั้งก็ฮาอาบเลือด ยิ่งเส้นกับจริตของแต่ละคนต่างกันด้วยแล้ว เลยทำให้การจะทำหนังตลกร้ายให้ถูกเส้นทุกๆ คนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะบางอย่างหนักไปก็ไม่ได้ แต่ถ้าเบาไปก็กลายเป็นไม่ถึง
ผมว่าหนังเหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังวันคริสต์มาสที่สนใจจะลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เพราะนี่มันหนังวันคริสต์มาสแท้ๆ แต่ไม่ได้มีความโรแมนติก ไม่ได้เน้นความอบอุ่น แต่กระนั้นมันก็ยังมีไออุ่นและความ Feel Good แฝงอยู่ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมว่าตอนจบแบบนี้ เป็นอะไรที่พอเหมาะแล้วล่ะครับ
อย่างน้อยถ้าถามว่าหนังมีประเด็นครอบครัว, การให้อภัย, การรำลึกอดีตที่แสนหวาน หรือเรื่องของความหวังชีวิตแบบที่หนังวันคริสต์มาสชอบเอามาอดแทรกอยู่ไหม ผมว่าก็มีครบน่ะครับ เพียงแต่รสมันออกแนวร้ายๆ แสบๆ เท่านั้นเอง