High & Low: The Movie โฮเซ็นยุคที่ดีที่สุด vs โอยะ (2016)

High & Low: The Movie (2016)

HiGH&LOW THE MOVIE เนื้อเรื่องจะต่อเนื่องจากซีรีส์ ซีซั่นสอง ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง ตัวซีรีส์ควรรวบกันให้เหลือซีซั่นเดียว แล้วเพิ่มจำนวนตอนหรือเวลาออกอากาศของแต่ละตอนแทน เพราะเนื้อหาในซีซั่นสอง มีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องในภาพยนตร์น้อยถึงน้อยที่สุด รายละเอียดหลักๆ ของซีรีส์ (ไม่นับช่วงเล่าความเป็นมาของตัวละคร หรือฉากโชว์เท่ต่างๆ) ในภาพยนตร์ จะมีฉากแฟลชแบ็คให้ดูเป็นระยะๆ แต่โดยส่วนตัว ไม่รู้สึกหงุดหงิดเท่าตัวซีรีส์ เพราะมันช่วยให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครในเรื่องได้ดียิ่งขึ้น (และจากใจ ใครที่เพิ่งเริ่มตาม ข้ามซีรีส์ ซีซั่นสองไปเลยก็ได้ครับ ถึงจะมีปูพื้นตัวละครใหม่ แต่พอมาในภาพยนตร์ ก็เข้าข่ายถูกทิ้งอยู่ดี)

ดังนั้น หากใครจะมองว่าซีซั่นสองเป็นแค่ตัวขัดตาทัพ ประหยัดงบ เพื่อที่จะได้จัดหนักในภาพยนตร์ทีเดียว ก็ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินเลยสักเท่าไหร่

หลายๆ คนจึงคาดหวังว่าตัวภาพยนตร์จะจัดเต็ม
ใครที่ห่วงเรื่องนี้ บอกได้เลยครับว่าไม่ผิดหวัง จัดเต็มทั้งฉาก ทั้งเอ็กซ์ตร้า ทั้งของประกอบฉากต่างๆ นานา รวมถึง CG ช่วงแนะนำกลุ่มต่างๆ ในเรื่อง ก็ทำได้สวยงามน่าตื่นตาไม่น้อยเลยทีเดียว
ภายในเรื่อง เราจะได้ฟังเพลงประจำกลุ่มเกือบทุกกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีโอกาสได้โชว์ศักยภาพและเอกลักษณ์กันเต็มๆ

ซึ่งใครที่อยากเห็นว่าไมตี้วอร์ริเออร์สร้ายการแค่ไหน เพราะในซีรีส์ นอกจากโชว์หล่อนิดๆ หน่อยๆ ก็มีแต่ร้องเพลงสังสรรค์ แต่ในฉบับภาพยตร์นี้ พวกเขาจัดเต็ม จัดหนักกันแบบสุดๆ ครับ
ชนิดที่ว่า ฉากฉลองในผับประจำกลุ่ม ถ้าบรรดาหัวหน้า G-SWORD มาเห็น มีอันได้เลือดขึ้นหน้ากันทุกคน
กลุ่มไมตี้ฯ ทำตัวได้สมกับเป็นโจรสลัดมากๆ คือทำเพื่อผลประโยชน์และความสนุกเท่านั้นเองจริงๆ

ส่วนอีกกลุ่มฝั่งร้ายอย่าง DOUBT ว่ากันตามตรง ไม่มีกลุ่มนี้ เส้นเรื่องไม่เสียเลยแม้แต่นิดเดียว และก็ทำให้ผมเดาบต์ (ฉงนสงสัย) มาจนถึงตอนนี้ว่าจะใส่มาทำไม่ครับ ใส่มาเพื่อจับราระงั้นหรือ ถ้าแค่นี้ให้ไมตี้ทำก็ได้นะ (คงไม่สปอยล์เนอะ เมื่อวานโพสต์คลิปสั้นๆ ของฉากลักตัวราระไปแล้ว)

หลายๆ คนน่าจะเป็นห่วงว่าตัวละครเยอะขนาดนี้ จะเกลี่ยบทให้สมดุลได้ยังไงในภาพยนตร์ที่มีเวลาเดินเรื่องแค่สองชั่วโมง
ทำใจได้เลยครับ HiGH&LOW THE MOVIE ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่หนีปัญหานี้ไม่พ้น คนที่เด่นๆ ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นหน้าเดิมๆ จากซีรีส์ทั้งสองซีซั่น

ตัว(เคย)หลักบางคนก็ออมาแป้บเดียว แล้วก็หายจ้อย (แต่มีเหตุผลรองรับ ก็พอเข้าใจได้) ส่วนตัวประกอบบางคน จู่ๆ ในภาพยนตร์ก็กลายมาเป็นแนวหน้า (หมายถึงได้ยืนในระดับเดียวกับตัวหลักๆ) แบบงงๆ (ถ้ามีโอกาสได้ดู สังเกตกลุ่มซังโนะให้ดี)

บางขณะ ผมก็รู้สึกว่าใช้ตัวละครไม่คุ้ม ดาราดังๆ นอกค่าย ที่เสียค่าจ้างมาแพงหูฉี่ ก็ใช้ไม่คุ้มเอาเสียเลย
บางตัวละคร ในเรื่องเราจะได้เห็นมุมน่ารักๆ ของเขา โดยเฉพาะพี่รองแห่ง "พี่น้องอามามิยะ" อย่างมาซากิ (TAKAHIRO) นี่มีฉากให้อมยิ้มเต็มๆ ฉากนึง ซึ่งต่างจากฮิโรโตะ (ฮิโระโอะมิ โทซากะ) อย่างสิ้นเชิง รายนี้มาหล่ออย่างเดียว และไม่เข้าใจ จะทำตัวน่าสงสัยไปทำไมครับ

สำหรับบางคน(หรือหลายๆ คน)ที่สนใจภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะได้ซึงรี (V.I. BIGBANG) มาเล่น น่าจะพอใจกันในระดับหนึ่ง แต่ผมไม่ชอบลีเลย ดูยังไงก็เด็กโดนสปอยล์ชัดๆ ร้ายแบบโดดเด่นมากๆ หล่อทุกฉากที่ออกจริงๆ แถมยังพูดภาษาเกาหลีด้วย พูดกับคนญี่ปุ่นนี่แหละครับ
และที่ทำผมงงนิดๆ คือในเรื่องมีตัวละครตัวนึงเป็นคนจีน พูดจีนเต็มๆ หนึ่งไดอะล็อก และท่วงท่าการต่อสู้ ก็จีนจ๋ามาก
(สรุป ภาพยนตร์เรื่องนี้มาครบทั้งจีน เกาหลีและญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว)

ด้านเนื้อหา โดยส่วนตัว มองว่าภาพยนตร์แนวนี้ ขอให้ดูเอามันอย่างเดียวก็พอครับ ตรรกะ เหตุผลต่างๆ ไม่ต้องเอามาใช้เยอะ คิดเสียว่าทุกๆ การกระทำของทุกๆ ตัวละคร ถ้าไม่ใช่เพราะมิตรภาพลูกผู้ชาย ก็เพื่อความสนุกส่วนตัวเท่านั้นพอ

ดูแล้วไม่งงครับ (และอย่างที่บอก ตัดซีรีส์ ซีซั่นสองออก ยังไม่งงเลยด้วยซ้ำ) เนื้อหาเชื่อมต่อกันได้ค่อนข้างดี มีการเปิดปมใหม่ๆ (อีกแล้ว) เพื่อปูทางสำหรับมูฟวี่ลำดับถัดๆ ไป (หรือถ้ามีโอกาส ก็คือซีรีส์ ซีซั่นใหม่ ///เดาเอง) ปมเก่าๆ บางปมก็ยังคงถูกทิ้งไว้กลางทาง (แต่ไม่เสียหายต่อเนื้อเรื่องมากนัก สามารถมองข้ามได้)

ภาพยนตร์ความยาว 2 ชั่วโมง 8 นาที
อุดมไปด้วยฉากต่อสู้เด็ดๆ สวยๆ ประมาณ 90% สู้กันตั้งแต่ฉากแรกของเรื่อง มีให้พักหายใจด้วยฉากพูดบ้างเป็นระยะ ก่อนจะให้พักกันยาวๆ ช่วงประมาณกลางๆ เรื่อง ด้วยพาร์ทดราม่า บทสนทนา
ก่อนที่จะไปจัดหนักสุดๆ ในฉากต่อสู้ที่ท่าเรือ ที่คุยกันด้วยหมัดเท้าเข่าศอกเน้นๆ ลากยาวไปประมาณยี่สิบนาที หลังจากที่ทำให้หัวใจผู้ชมเต้นระทึกจนอยู่ตัวแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงการต่อสู้ที่ดราม่าได้บีบหัวใจพอสมควร สำหรับคนที่รักตัวละครบางตัว ในฉากนี้มีจิกหมอนลุ้นแน่นอน

คงไม่ถือว่าเป็นสปอยล์ ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ก็จบได้แฮปปี้ตามสูตรสำเร็จ แต่ก็ใช่ว่าจะยิ้มได้เต็มที่ เพราะยังมีปริศนาหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้รับการเฉลย บางตัวละครก็ไปเข้ากับอีกฝ่ายแบบงงๆ (หรือว่าจะเป็นของกลุ่มนั้นๆ อยู่แล้ว ผมก็ไม่แน่ใจ) และก็จบแบบเปิดปลายเอาไว้ยาวมากๆ เลยทีเดียว

สรุป หากมีใจรักในโปรเจ็คต์ HiGH&LOW อยู่แล้ว นี่คือภาพยนตร์ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ทุกกลุ่มของ G-SWORD ทำหน้าที่ในฐานะผู้คุมกฎได้ดี หลายคนมีบทเด่น มีฉากเด่นๆ
ทุกคนนำเสนอคาแรคเตอร์ของตัวเองกันได้ดี ยังคงเอกลักษณ์อันดีงามของตัวเองเอาไว้ได้กันเป็นอย่างดี
การแทรกเพลงเข้ามาในแต่ละฉาก ก็ถือว่าใส่เข้ามาได้ถูกจังหวะ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ของแต่ละกลุ่ม ที่เปิดเพลงประจำกลุ่มคลอไป ช่วยเสริมความสนุกได้ดีมากๆ
พาร์ทดราม่าก็ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะโคฮาคุ (AKIRA) ที่ดูแล้วรู้เลยว่าคนที่จมปรักอยู่กับอดีตชนิดโงหัวไม่ขึ้นนั้นเป็นอย่างไร
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา แนะนำให้ดูครับทั้งขาประจำและผู้ที่เพิ่งเริ่มติดตาม

ส่วนซับไทย อย่างที่บอกไป ถ้าซับมาเร็ว (ภาษาอะไรก็ได้) จะพยายามเข็นออกมาให้ทันวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนนี้ เพื่อที่จะได้มารับชมและพูดคุยแบบสดๆ พร้อมกัน

ป.ล.ตอนนี้มีใครหาไฟล์ clean RAW เจอบ้างครับ