หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังสงคราม
เรื่องย่อ : Where Eagles Dare อินทรีผยอง (1968) พากย์ไทย
IMDB : tt0065207
คะแนน : 7.7
รับชม : 3120 ครั้ง
เล่น : 898 ครั้ง
Where Eagles Dare เป็นหนังสงครามในแนวสายลับครับ โดยอ้างอิงถึงหน่วยสืบราชการลับของสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอังกฤษ นั่นคือ หน่วยงาน MI - 6 ใช่ครับ ที่ มิสเตอร์ เจมส์ บอนด์ ที่เรารู้จักกันดีสังกัดอยู่นั่นแหละครับ เหตุการณ์ย่อ ๆ คือ ในตอนประมาณกลาง ๆ ของสงครามโลกครั้งที่2 หน่วยงาน MI - 6 มีความสงสัยว่า เกลือจะเป็นหนอน และอาจมีสายลับของเยอรมันนีเข้ามาแทรกแซงอยู่ จึงมีการวางแผนการสืบหาสายลับที่แฝงตัวอยู่ในหน่วยงานของตน โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน OSS ของสหรัฐอเมริกา ขั้นตอนการปฏิบัติงานและวางแผน ปฏิบัติการกันที่นอกประเทศตัวเองครับ ลงทุนกันน่าดู ลองมาดูรายละเอียดในเนื้อเรื่องกันนะครับ
ประมาณว่า ก่อนจะถึงวัน D - Day นายพลคาร์เนบี้ แห่งกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางโดยเครื่องบินเพื่อไปร่วมประชุมในการวางแผนการบุกยุโรป แต่เครื่องบินถูกยิงตก นายพล คาร์เนบี้ ถูกจับเป็นเชลยของเยอรมันที่ ค่าย ชลอสแอ๊ตเลอร์ ซึ่งเป็นปราสาทโบราณตั้งอยู่บนยอดเขาในเมือง เวอเฟน ในแคว้นบาวาเรีย เพื่อป้องกันการถูกสอบสวนจนความลับของการวางแผนบุกยุโรปรั่วไหล ฝ่ายพันธมิตรจึงจะต้องหาทางบุกเข้าไปช่วยเหลือชิงตัวนายพล คาร์เนบี้ ออกมาให้ได้ นายพลโรแลนด์ หัวหน้าหน่วย MI - 6 เป็นผู้ได้รับหน้าที่นี้ ได้ร่วมวางแผนกับผู้ช่วยคือ พันเอก เทอร์เนอร์ จัดส่งทีมปฏิบัติงานเข้าไปเพื่อชิงตัวเชลย โดยจัดทีมขึ้นมาทั้งหมด 7 คนด้วยกัน นำทีมโดย ผู้พัน สมิธ และทหารอังกฤษที่ทำงานอยู่ในหน่วย MI - 6 อีก 5 คนรวมเป็นหกคน และ มีหมวด เชเฟอร์ ซึ่งเป็นนายทหารจากหน่วยพิเศษ OSS ของสหรัฐอเมริกาเข้ามาร่วมทีมอีก 1 คนเป็น 7 คนด้วยกัน
ทีมช่วยเหลือได้โดดร่มลงใกล้ที่หมายที่ต้องการบุก และยังมีสายลับหญิงอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนของผู้พันสมิธซึ่งแอบซ่อนมาในเครื่องด้วยโดยไม่มีใครรู้โดดตามมาด้วยอีก 1 คนโดยโดดลงยังอีกที่หมายหนึ่ง ทันทีที่ทีมลงถึงพื้น ก็ต้องสูญเสีย จ่าแฮร็อด ไปทันที 1 คนจากการลอบฆาตรกรรมของคนในทีมซึ่งเป็นสายลับสองหน้าที่ร่วมทางมาด้วยโดยยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร จากนั้น ทีมที่เหลือจึงได้เดินเท้าไปยังจุดพัก และเป็นจุดนัดพบของผู้พันสมิธกับสายลับหญิงที่ชื่อ แมรี่ ที่โดดร่มตามมาทีหลังโดยไม่มีใครรู้
หลังจากวางแผนการนัดแนะกับแมรี่แล้ว ผู้พันสมิธก็พาทีมเดินทางเข้าเมือง เวอเฟนและปลอมตัวเป็นทหารเยอรมัน โดยการปล่อยข่าวลวงให้ลูกทีมทราบเพียงว่า เพื่อเข้าไปสืบข่าวนายพลคาร์เนบี้ แต่ความจริงแล้ว เพื่อต้องการพบกับ ไฮดี้ สายลับของตัวเองอีกคนหนึ่งที่เข้ามาฝังตัวอยู่ในพื้นที่นี้นานแล้วและเป็นการประสานงานให้ ไฮดี้ และ แมรี่ ได้รู้จักกันและทำงานร่วมกันในการขึ้นสู่ฐานบัญชาการของเยอรมันที่ปราสาทชลอสแอ๊ตเลอร์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โดยการใช้เอกสารปลอมที่ สมิธ ได้จัดเตรียมมาแล้วท่ามกลางความสงสัยของสายลับสาวทั้ง 2 ที่งุนงงต่อการเตรียมการมาพร้อมเสร็จของสมิธ
หลังจากนั้น ผู้พันสมิธ ก็เจอศพของลูกทีมอีก 1 คน คือ แม็คเพียร์สัน ถูกฆ่าตายอีกคนหนึ่ง นั่นหมายถึงลูกน้องของเขาหนึ่งใน 3 คนที่เหลือน่าจะเป็นสายลับสองหน้า แต่ก่อนที่ สมิธ จะค้นหาความจริงได้ ทีมของเขาทั้งหมดก็ถูกจับกุมโดยทหารเยอรมัน ผู้พันสมิธ และ หมวด เชเฟอร์ ถูกควบคุมตัวแยกไปทางหนึ่ง ลูกทีมที่เหลืออีก 3 คน คือ โทมัส คริสเตียนเซ็น และ เบอร์คลี่ ถูกควบคุมตัวแยกไปต่างหาก
ในระหว่างการถูกควบคุมตัว สมิธ และ เชเฟอร์ สามารถเอาตัวรอดมาจากการควบคุมของเยอรมันมาได้ แล้วหลังจากนั้น ก็แอบแวะกลับไปขนวัตถุระเบิดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ซ่อนเอาไว้ในเมืองติดหลังมาอีก พร้อมทั้งสร้างความพินาศไว้กับหน่วยทหารในเมืองอีกต่างหากแบบพระเอกต้องเก่งเสมอ รวมทั้งยังใช้วัตถุระเบิดส่วนหนึ่งออกไปวางกับดักเอาไว้ระหว่างเส้นทางจากเมืองสู่สนามบินไว้ล่วงหน้าอีกด้วย แล้วจึงย้อนกลับเข้าเมืองเพื่อไปเจอกับหนทางหลบขึ้นสู่ยอดเขาที่ตั้งของฐานบัญชาการที่ขึ้นลงด้วยการใช้รถเคเบิลคาร์ หรือ รถกระเช้าที่ใช้สลิงลากขึ้นไปนั่นแหละครับ แล้วก็เจอซะด้วย เจอเอาแบบง่าย ๆ เหมือนในหนังเลยครับ....(อืม ก็หนังนี่นา) เพราะขณะที่เคเบิลคาร์กำลังจะนำลูกทีมทั้ง 3 ของสมิธที่ถูกควบคุมตัวโดยทหารเยอรมันจำนวนหนึ่งขึ้นสู่ยอดเขา สมิธ และ เชเฟอร์ ก็ได้แอบโดดเกาะมาบนหลังคาของเคเบิลคาร์ด้วยทั้ง 2 คน....โดยที่ทหารเยอรมันในนั้นไม่มีใครรู้เลย....โห
เมื่อขึ้นไปบนปราสาทได้โดยการช่วยเหลือของ แมรี่ ที่ขึ้นไปคอยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้ง สมิธ และ เชเฟอร์ ก็วางแผนก่อกวนในทันที เริ่มตั้งแต่การเก็บเงียบนักบินเฮลิคอปเตอร์ของนายพลโรสมายเยอร์ ที่บินมาทำการสอบสวนนายพล คาร์นาบี้ ด้วยตนเอง เฮลิคอปเตอร์จริง ๆ นะครับ ผมไม่ทราบว่ารุ่นไหนแบบไหน ต้องรบกวนท่านผู้รู้ด้านอากาศยานรบมาช่วยอธิบายด้วยละครับ ว่าตอนนั้น เอาเป็นว่าก่อนวัน ดี - เดย์ กองทัพเยอรมันใช้ ฮ. รุ่นไหนแบบไหนกัน นอกจากนั้น ก็มีการวางระเบิดเวลาเอาไว้เป็นจุด ๆ พูดถึงเจ้าระเบิดนี่ ผมว่า น่าจะเป็นพระเอกของเรื่องเลยนะ มัดนึงประมาณ 8 - 10 แท่ง ทั้ง 2 คนใช้กันไม่รู้ว่ากี่สิบมัดผมขี้เกียจจะนับ ดู ๆ แล้วน่าจะเป็นขนาด 1 X 8 นิ้ว เหมือนกับที่เคยใช้ระเบิดหินสมัยยังหนุ่ม ไม่รู้ว่า ขนกันมากี่หีบ เห็นใช้ไม่หมดซักที
หลังจากนั้น สมิธ และ เชเฟอร์ ก็ลอบเข้ามายังห้องสอบสวนเชลย ซึ่งตอนนี้ รู้แล้วว่าลูกทีมที่เหลือทั้ง 3 คนของ สมิธ ที่โดนจับมาก่อนหน้านั้นคือสายลับสองหน้า แต่แล้ว สมิธ ก็สร้างความงุนงงให้กับทุกคนอีกครั้ง ด้วยการประกาศตัวเองว่า เป็นสายลับของเยอรมัน และควบคุมให้ทุกคนวางอาวุธรวมทั้ง หมวด เชเฟอร์ ด้วย อีกทั้งยังเปิดเผยด้วยว่า นายพล คาร์เนบี้ นั้น แท้จริงคือ สิบโท คาร์ทไร้ท์ โจนส์ ที่ปลอมตัวมา และที่ตัวเองมาในวันนี้ เพื่อจะเปิดเผยตัวสายลับสองหน้าทั้ง 3 คนว่า ไม่ได้เป็นสายลับจริงของเยอรมันที่แฝงตัวอยู่ในอังกฤษ
หลังจากการพิสูจน์จนนายพลโรสมายเยอร์ และ พันเอกคราเมอร์ ผู้บังคับการค่ายเชื่อว่าเขาคือสายลับตัวจริงที่ภักดีต่ออาณาจักร์ไรซ์แล้ว สมิธ ก็ได้รายชื่อสายลับของเยอรมันที่เหลืออยู่ในอังกฤษตั้งแต่ระดับสูงลงมาจนหมดจากการเปิดเผยของ โทมัส คริสเตียนเซ็น และ เบอร์คลี่ ที่ไม่ทันเหลี่ยมคูของอดีตหัวหน้าของตัวเอง สมิธ จึงบอกความจริงว่า แท้จริงแล้ว ตัวเองคือสายลับของอังกฤษตัวจริงที่ต้องการหลักฐานรายชื่อสายลับสองหน้าที่แฝงตัวอยู่ในหน่วย MI - 6 โดยการสร้างแผนการนี้ขึ้น ขณะที่เหตุการณ์กำลังจะจบลงด้วยดี ก็มีพันตรี วอนฮาเฟน นายทหารขี้หลีโผล่เข้ามาในเหตุการณ์ หมอนี่ผมไม่แน่ใจครับว่าจะสังกัดหน่วยไหน ระหว่าง หน่วย เอสเอส กับ หน่วยแกสตาโป แต่ตัวพันตรี วอนฮาเฟน นี่หมอแต่งชุดดำมีปลอกแขนสีแดงติดเครื่องหมายสวัสดิกะด้วยไว้ที่แขนซ้าย ที่ปกเสื้อก็มีเครื่องหมายที่พอมองออกว่า SS แต่บทบรรยายไทยเรียก แกสตาโป ครับ แต่ที่แน่ ๆ นั้น หน้าตาหมอเหมือนกับฟิกเกอร์ทหารเยอรมันที่ผมเคยเห็นมาเลยละ
เมื่อพันตรี วอนฮาเฟน โผล่เข้ามา สถานการณ์ทำท่าว่า สมิธ จะอับจน แมรี่ก็โผล่เข้ามาอีกคนทำให้เกิดการต่อสู้กันชุลมุนขึ้น แน่นอน ฝ่ายเยอรมันตายหมดไม่เหลือแม้แต่ผู้หญิงยกเว้นสายลับ 2 หน้าอดีตลูกน้องของ สมิธ ทั้ง 3 คน ทั้ง 3 คนถูกควบคุมตัวไปด้วย การหลบหนีออกจากรังอินทรีเริ่มขึ้นด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือด หมวด เชเฟอร์ ได้แสดงความสามารถในการต้านทานเยอรมันแบบพระเอกคนเดียวผู้ร้ายตั้งพันได้อย่างน่าตบมือกระทืบเท้าให้ด้วยความมัน ขนาดยิงปืนกลมือสองกระบอกกระบอกละมือพร้อมกันสู้กับปืนกลหนักเลยละครับ แถมยังใจเย็นหยิบระเบิดขว้างที่เยอรมันขว้างเข้าใส่ตั้งสองสามลูกขว้างกลับคืนได้ซะอีกด้วย...และแล้ว น้าคลิ้นท์ แกก็ต้านทานจนพระเอกตัวจริงของเรื่อง คือ เจ้า ไดนาไม้ท์ นั่นสำแดงเดชขึ้นทุกจุดตามเวลาและกับดักที่วางเอาไว้ ทำให้เหล่าทหารเยอรมันพะวกพะวงเป็นยิ่งนัก แถมยังหลงเชื่ออีกด้วยว่า โทมัส ที่สมิธวางแผนตบตาเยอรมันด้วยการสั่งให้โรยตัวด้วยเชือกหนีออกจากปราสาทและถูกยิงตายนั้นคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีการตามหาพวกที่เหลืออีกระยะหนึ่ง
สมิธ จึงพาทีมที่เหลือซึ่งประกอบด้วยตัวเอง หมวด เชเฟอร์ สายลับแมรี่ สิบโทโจนส์ และสายลับสองหน้าที่เหลืออีก 2 คน คือ คริสเตียนเซ็น และ เบอร์คลี่ หลบหนีออกมาจนถึงสถานนีเคเบิลคาร์เพื่อลงมาจากยอดเขาได้โดยที่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว คือ ตัวของ สมิธ เอง ซึ่งถูกยิงที่หลังมือซ้ายเป็นแผลแค่ถลอก ๆ มั้ง เพราะพอเอาผ้าเช็ดหน้ามัดไว้ก็รบต่อได้แล้ว.....เก่งจริง ๆ ครับ
มีเหตุการณ์ตื่นเต้นอีกเล็กน้อยตอนกำลังจะหลบหนีด้วยเคเบิลคาร์ นั่นคือ คริสเตียนเซ็น และ เบอร์คลี่ ได้ใช้ชั้นเชิงของ MI - 6 ควบคุมตัวหมวด เชเฟอร์ แห่งหน่วย OSS ของอเมริกันไว้ได้ แถมยังรุมซ้อมซะน้าคลิ้นท์แกน่าจะเจ็บตัวมากกว่าผู้พัน สมิธ ซะอีก พอพวกเค้าได้ตัว เชเฟอร์ แล้วก็ขอต่อรองด้วยการแลกกับการหลบหนีไปด้วยเคเบิลคาร์ ซึ่ง สมิธ ก็ต้องยอมปล่อยให้ไป จากนั้น ก็ใช้ชั้นเชิงของพระเอกโดดเกาะหลังคาไปด้วย แล้วก็จัดการทิ้งลงมาซะคนกลางอากาศนั่นแหละ ส่วนอีกคนก็วานพระเอกตัวจริงคือเจ้า ไดนาไม้ท์ 1 X 8 นั่นระเบิดทิ้งซะเช่นกันหลังจากที่แกกระโดดข้ามมาเกาะเคเบิลคาร์อีกคันที่ผู้กำกับสั่งปล่อย เอ๊ยไม่ใช่ ที่กำลังสับเปลี่ยนขึ้นมาพอดีครับ
ก่อนถึงปลายทางของเคเบิลคาร์ สมิธ ก็สั่งให้ทีมที่เหลือโดดออกมาซะก่อน โดยมีที่หมายเป็นลำธารเล็ก ๆ ก่อนที่ระเบิดเวลาในเคเบิลคาร์จะทำงานขึ้นเพื่อให้เชื่อว่าทุกคนตายหมด จากนั้น ด้วยการเตรียมการไว้ก่อนของ ไฮดี้ ทีมทั้งหมดซึ่งเพิ่มมาเป็น 5 คนก็ใช้รถโดยสารหนีออกจากเมืองเพื่อไปยังจุดนัดพบกับเครื่องบินที่สนามบิน โอเบอร์เฮาเซ็น ท่ามกลางการไล่ล่าของเยอรมัน ซึ่งกับระเบิดที่วางไว้ก่อนหน้าที่จะขึ้นปราสาทนั้นก็ทำงานตอนนี้แหละครับ ทั้งระเบิดเสาที่ติดตั้งสายโทรศัพท์ไว้ ทั้งระเบิดต้นไม้มาขวางทางเยอรมันไม่ให้ตามมาใกล้ เพื่อจะได้มีเวลาระเบิดสะพานทิ้งอีกแห่งหนึ่งเป็นการยุติการไล่ล่าของเยอรมันไม่ให้ตามมาได้ งานนี้ รถโดยสารที่ขับหนีมาเจ็บคันเดียวครับ โดนยิงทั้งคันพรุนไปหมด คนไม่เป็นไรเลย
เมื่อมาถึงสนามบิน ทันทีที่เครื่องบินที่ยึดมาได้จากเยอรมันแล้วปลอมตัวเข้ามารับโผล่มาให้เห็น ทีมของ MI - 6 ก็แสดงความสามารถในการต่อสู้กับทหารรักษาการณ์ที่สนามบินด้วยความเก่งกาจอีกครั้ง เครื่องขับไล่ถูกทำลายไม่มีเหลือ ทหารเยอรมันหลายสิบคนต้องตายไป รวมทั้งคนที่ทำหน้าที่อยู่ใน คอนโทรลเทาเออร์สูง ๆ ที่ดันยืนขึ้นใช้วิทยุเรียกไปยังสนามบินใกล้เคียงให้ช่วยส่งเครื่องขึ้นขัดขวางก็ยังถูกยิงตายไปด้วย เก้าอี้มีไม่รู้จักนั่ง....สงสัยว่า อยากรู้อยากเห็นมากไปหน่อยครับ
บนเครื่องบิน ผู้พันเทอร์เนอร์ ผู้ช่วยของนายพลโรแลนด์เดินทางมารับด้วยตนเอง และทำให้รู้ว่า ที่แท้จริงแล้ว เค้าคือหัวหน้าสายลับของเยอรมันที่แฝงตัวอยู่ในหน่วย MI- 6 เทอร์เนอร์ ขอเลือกจุดจบของตนเองโดยที่ไม่ต้องการกลับไปรับโทษด้วยการแขวนคอด้วยการโดดลงไปจากเครื่องบินเพื่อฆ่าตัวตาย นับว่าเป็นเยอรมันที่ใจเด็ดมากครับ