ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Anonymous (2011) นามปากกาลวงโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Anonymous (2011) นามปากกาลวงโลก เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Anonymous (2011) นามปากกาลวงโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Anonymous (2011) นามปากกาลวงโลก เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ

Anonymous เล่าถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า... ถ้าหากผลงานของ Shakespeare ไม่ใช่ฝีมือของเขาเองจริง ๆ ล่ะ? หนังเล่าถึงว่า ผลงานการแต่งนวนิยายชื่อดังก้องโลกชิ้นต่าง ๆ ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ไม่ใช่ฝีมือการเขียนของเขาเอง แต่หากเป็นฝีมือของนักเขียนเงาอย่าง เอ็ดเวิร์ด เดอ เวียร์ ที่ 17 แห่งออกซ์ฟอร์ด ชายผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระราชินีอลิซาเบธ... เรื่องราวทั้งหมดจะกลับตาลปัตรอย่างไรกัน!!

IMDB : tt1521197

คะแนน : 6.9

รับชม : 360 ครั้ง

เล่น : 62 ครั้ง



Anonymous (2011) นามปากกาลวงโลก

ผลงานย้อนยุคตีความท้าทายข้อเท็จจริงของกวีชื่อดัง อย่าง William Shakespeare โดย Roland Emmerich กับภาพยนตร์ Anonymous นามปากกาลวงโลกก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อน สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า หลังจากที่ผมได้ดูแล้ว ผมแบ่งความชอบ และไม่ชอบออกเป็นสองส่วน แต่โดยรวมคือหนังนำเสนอได้ดี ดังนั้นขอพูดในส่วนที่ไม่ชอบก่อน

Anonymous_2011_film_poster

สิ่งที่ไม่ชอบสำหรับ Anonymous

คือการแสดงของนักแสดง และพลังของของนักแสดงตัวเด่นๆ ที่ไม่สามารถเค้นพลังให้เห็นมิติของตัวละครได้ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นเหตุให้หลายคนที่ไม่ชอบหนังแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มานั่งดูอย่างไม่ตั้งใจก็ อาจจะมีอาการเซ็ง หลับไปได้ง่ายๆ เพราะพลังการแสดงที่แสนธรรมดา นั่นคือข้อเดียวที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้

Screen Shot 2556-10-27 at 5.08.52 PM

ส่วนที่ชอบของหนังเรื่องนี้คือ

แนวคิดการตีความใหม่ที่ไม่สนใจข้อเท็จจริง ใดๆ ของประวัติศาสตร์ ประหนึ่งนักวิชาการจะว่าบิดเบือนยังไง “กูไม่สน” เพราะนี่คือหนัง ไม่ใช่ตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ อารยธรรม และวรรณกรรม ดังนั้นความกล้าที่จะยกประเด็นเกี่ยวกับ กวีชื่อดังอย่าง William Shakespeare มายำเละแบบตั้งใจไม่อายฟ้าดินและนักวิชาการ เลยกลายเป็นความท้าทายที่แสนสนุกให้กับคนดูที่ชอบขวางโลกได้อย่างดี ตามมาด้วยเรื่องราวของการชิงไหวพริบ เล่ห์กล วางแผน ความรัก และการเล่าเรื่องซับซ้อนไล่ลำดับเหตุการณ์ตัดสลับไปมาให้น่าติดตาม ทำให้ความต่อเนื่องของเรื่องราวนั้นไม่สะดุดและเข้มข้นในปริมาณพอดีๆ ไปจนจบเรื่อง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ปัจจุบัน มีการเล่าเรื่องตำนวน ตีแผ่ย้อนยุคไปยังสมัยโบราณกาลเกี่ยวกับกวีนิพนต์ที่มาของ Shakespeare ที่เอาเข้าจริง เราไม่เคยเห็นต้นฉบับที่เกิดขึ้นจากลายมือของเค้าแต่อย่างใด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แท้จริงนั้น Shakespeare มีตัวตนจริงหรือไม่? หรือเป็นแค่นามปากกาของใครสักคนที่ต้องการแทรกศาสน์ หรือประเด็นของเหตุบ้านการเมืองในเวลานั้นลงในวรรณกรรมแต่ละเรื่อง

เปิดเรื่องที่การถูกไล่ลาของชายที่ชื่อ Ben Jonson นำแสดงโดย Sebastian Armesto ที่มีการซ่อนต้นฉบับของวรรณกรรมบางอย่างไว้ใต้โรงละคร จนกระทั่งถูกจับกุมไปสอบปากคำ พร้อมกับเห็นโรงละครถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน การสอบปากคำของ Ben Jonson ก็ได้เล่าถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ ย้อนหลังกลับไปอีก

Screen Shot 2556-10-27 at 5.04.38 PM

ในยุคของ Queen Elizabeth ที่หนึ่งรับบทโดย Vanessa Redgrave ในวัยชราต้องเลือกกษัตริย์ใหม่แห่ง Tudors โดยขั้วการเมืองในขณะถูกแบ่งออกเป็นการสนับสนุน 2 ฝ่ายคือฝั่งบุตรของ Mary แห่ง สก๊อตต และ โอรสลับของ Queen Elizabeth โดยมีพื้นฐานของสงครามกลางเมือง และการสนับสนุนฝ่านสเปน และสงครามของฝรั่งเศสเป็นเรื่องราวซ้อนอยู่ข้างหลัง ในขณะนั้นบ้านเมืองแม้จะปกครองโดย Queen Elizabeth ที่หนึ่ง ก็ตามแต่เอาเข้าจริง แล้วทุกการปกครองนั้นมาจาก ข้าหลวงตระกูล Cecil อย่าง William Cecil รับบทโดย David Thewlis ที่ปกครองประชาชนแบบกดขี่ข่มเห่ง ต่ำช้า ซ้ำยังมีแนวคิดที่ว่า วรรณกรรม นิยาย โคลง กลอน โศลก ทั้งหลายนั้นคือสิ่งมอมเมาผู้คน ซ้ำเนื้อหาของวรรณกรรมมีแต่จะสั่นคลอนความเชื่อ และความศรัทธาของผู้ชม ผู้อ่าน จึงมีข้อห้ามในการเล่นละคร บทประพันธ์ กวี ในเมือง จะมีเพียงแค่ในวังหลวงเท่านั้นเพราะ Queen Elizabeth ที่หนึ่ง นั้นโปรดปรานเรื่องเหล่านี้ ทำให้ในเมือง โรงละครต้องแอบเล่น แอบแสดง เพราะเนื้อหามีการอ้างอิงและผิดกฏหมาย

ในโรงละครกลางเมืองของชาวบ้านแห่งหนึ่ง ขณะที่ ละครตลกล้อเลียนการเมืองของ Ben Jonson กำลังแสดง ก็ได้มีชายในตระกูลสูงศักดิ์ Earl of Oxford (เอิร์ลแห่งอ็อกฟอร์ด) รับบทโดย Rhys Ifans มาชม พร้อมกับเอิร์ลอีกคนที่หนุ่มกว่า Earl of Southampton รับบทโดย Xavier Samuel รู้สึกชื่นอกชื่นในบทละคร จนกระทั่ง Robert Cecil ลูกชายหลังค่อมพิกลพิกาลของ William Cecil สั่งให้ออกจับกุม และปิดการแสดงนี้ไปเพราะมีการพาดพิงการเมือง และเป็นภัยต่อการปกครอง (คล้ายๆ ประเทศอะไรนะ?)

Screen Shot 2556-10-27 at 5.05.38 PM

Earl of Oxford ได้ประกันตัวโดยใช้สิทธิของพ่อตาตนเองนั่นคือ William Cecil ปล่อยตัวให้ Ben Jonson ออกมาพบเป็นการส่วนตัว พร้อมทั้งยื่นบทละครให้บทหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า เดิมทีตัวเองชอบบทละคร ชอบเขียนกวี แต่เพราะเป็นเอิร์ลจึงแสดงตัวไม่ได้ จึงอยากให้ Ben นำบทนี้ไปแสดงให้คนได้ดูกัน และบอกว่าเจ้าจะดัง พร้อมทั้งจ่ายเงินค่าปิดปากเกี่ยวกับที่มาของ ละครเรื่องนี้ได้ โดยนามปากกานั้นให้ชื่อว่า นิรนาม (Anonymous)

Screen Shot 2556-10-27 at 5.07.21 PM

เมื่อละครเล่นไป ได้กินใจคนดู เกิดความผิดพลาดเมื่อจู่ๆ มีคำสั่งของ Queen Elizabeth ให้ส่ง Earl of Essex รับบทโดย Sam Reid เพื่อนสนิทของ Earl of Southampton ไปแนวหน้า ทำให้สมาธิของ Earl of Oxford นั้นไม่ได้เจาะจงในขณะที่คนเฮชอบใจ ประกอบกับ Ben ก็กำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของโรงละครคนหนึ่งรับโดย Rafe Spall ก็ได้เข้ามาแฝงตัวเป็นเจ้าของบทประพันธ์ซะเอง

Screen Shot 2556-10-27 at 5.07.03 PM

เหตุการณ์นี้ จึงทำให้ Earl of Oxford และ Ben ต้องทำใจรับ เจ้าของโรงละครคนนี้เป็นเจ้าของบทประพันธ์แทนโดยจำใจ จนภายหลังได้เปลี่ยนนามปากกาจาก Anonymous เป็น William Shakespeare เจ้าของโรงละครคนนั้นเลยได้ชื่อว่า William Shakespeare ไปแทน (ทั้งที่ตัวตนจริงเขียนหนังสือไม่เป็นเลย)

Screen Shot 2556-10-27 at 5.04.56 PM

ละครหลายเรื่องอย่าง Hamlet, Romeo and Juliet และ Macbeth มีการสอดแทรกศาสน์บางอย่างในเนื้อหา ตลอด ทั้งเรื่องนี้จะเห็นการเล่าย้อนเรื่องราวไปยังสมัย Earl of Oxford ตอนหนุ่มรับบทโดย Jamie Campbell Bower เติบโดจากตระกุลของนักรบ และนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบรบ ไม่ชอบจับดาบต่อสู้ เบื่อหน่ายการเมือง ชอบเรื่องของกวี โคลงกลอน ละคร วรรณกรรม ที่ต้องพบกับการรับมาดูแลภายใต้ความควบคุมของ William Cecil ที่บังคับฝืนใจไม่ให้เรียนในวรรณกรรมเพราะเป็นการมอมเมา ซ้ำยังหาเรื่องกดดันเรืองฐานะ อุบัติเหตุสั่งให้คนไปขโมยหนังสือไปเผา แต่ Earl of Oxford เข้ามาทันเห็นคนซ่อนหลังผ้าม่านเลยเอาดาบแทง (เหมือนหลายๆ ตอนจะอยู่ในวรรณกรรมของ Shakespeare)

Screen Shot 2556-10-27 at 5.08.08 PM

ก็ต้องปิดข่าวโดยการจำใจแต่งงานกับลูกสาวของ Cecil ทั้งๆ ที่ตนเองหลงรัก Queen Elizabeth สมัยตอนสาว รับบทโดย Joely Richardson ซึ่งภายหลังแอบมี โอรสลับ ซึ่งจะเป็นกษัตริย์ได้ (หักมุมซ่อนเงื่อน) โอรสองค์นั้นก็คือ Earl of Southampton อีกนั่นแหละ

Screen Shot 2556-10-27 at 5.07.09 PM

Screen Shot 2556-10-27 at 5.07.55 PM

Screen Shot 2556-10-27 at 5.06.23 PM

หนังยัง เล่นกับเรื่องราวชะตาชีวิต ความรักบน โคลงกลอน และความเศร้า ที่ต้องถูกจำใจแยกตัวออกห่างจาก Queen Elizabeth เพราะเหตุผลทางการเมือง และการกลั่นแกล้งของ Wiliam Cecil ในช่วงที่ เสียใจ Earl of Oxford ได้แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ กับนางสนมคนหนึ่ง จนถูก ภรรยาจับได้ สั่งให้แยกห้ามเห็นหน้ากัน ทั้งๆ ที่ทราบว่า นางสนมคนนั้นตั้งครรภ์ ความเจ็บช้ำที่ Earl of Oxford ต้องพบ และต่อสู้คือ ไม่รู้ว่าลูกของตนที่เกิดกับสาวทั้ง 2 คนนั้นคือใคร

Screen Shot 2556-10-27 at 5.06.36 PM

จนกระทั่งเหตุการก่อ กบฏ การปลุกพลังของมวลชน การเอาชนะสงครามด้วยปลายปากกามากกว่า ดาบก็ได้เกิดขึ้น เหตุการณ์เล่าเรื่อง หักเห ต่อเนื่องมาสิ้นสุดลงที่ วันสุดท้ายของ Earl of Oxford ที่กำลังจะสิ้นใจ และเรียก Ben Jonson มาเข้าพบ พูดคุยกันสั่งเสียบางอย่าง

Screen Shot 2556-10-27 at 5.07.40 PM

หนังอาจจะไม่ได้บอกว่า Ben Jonson นั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เพราะ เอาเข้าจริงก็เด่นอยู่ประมาณนึง ในข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์ เค้าคือคนที่ตีพิมพ์วรรณกรรมของ Shakespear ทั้งหมดจนตัวเองโด่งดัง

Screen Shot 2556-10-27 at 5.04.47 PM

ซึ่งในหนังก็จะมีการบอกใบ้เป็นนัยๆ ว่าความสัมพันธ์ของ Earl of Oxford และ Ben Jonson นั้นคือพ่อ และลูก กันซึ่งเป็นไปได้ว่า นางสนมกลางเรื่องที่ตั้งครรภ์และโดนเนรเทศไปนั้นคือแม่ของ Ben Jonson เพราะบทสนทนาสุดท้ายนั้นคือการที่ Earl of Oxford บอกว่า “ทุกคนปรบมือชื่นชนทั่วทั้งโรงละคร ข้ายินดีปรีดากับสิ่งเหล่านั้น แต่ในความเป็นจริง เสียงปรบมือและความยินดีที่ข้าต้องการจริงๆ คือเสียงปรบมือจาก 2 มือ และ 1 ปากจากคำชมของเจ้า Ben jonson” ทำให้พอจะทราบว่า แท้จริง แล้วหนังต้องการสื่อเหตุการณ์นี้จริงๆ ก็ได้

Screen Shot 2556-10-27 at 5.05.16 PM

ตอนจบแม้ว่า Ben Jonson จะถูก Robert Cecil ปล่อยตัวออกมา เพราะหลักฐานถูกเผา ไปแล้ว ในซากของโรงละคร Ben ก็ได้พบว่า ต้นฉบับนั้นถูกเผาไปเล็กน้อย ทุกอย่างยังคงเอามาตีพิมพ์ได้

Screen Shot 2556-10-27 at 5.04.00 PM

และ ตอนจบก็ได้เล่นงานตัวร้ายอย่าง Robert Cecil ได้อย่างแสบๆ คันๆ กับสิ่งที่ตัวเองเกลียดที่สุดอย่าง วรรณกรรม และละครนั่นเอง

Ben Jonson ได้กลายเป็นคนดัง และเป็นผู้ตีพิมพ์กวีของ Shakespeare แห่งยุคไป
Shakespeare หรือเจ้าของโรงละครก็ได้หายตัวไปเป็นชายขาย เมล็ดพืชในบ้านนอก
การปกครอง ก็ได้เปิดเผยการแสดง โรงละคร ทั้งหลายให้กลายเป็นศิลปะไป

คะแนนสำหรับ ไอเดียการดำเนินเรื่อง 6.8/10
เอาไว้ดูยามที่พักผ่อน จริงๆ เพราะต้องใช้สมาธิในการดูเล็กน้อย รายละเอียด