ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง The Dinosaur Project (2012) ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Dinosaur Project (2012) ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังดราม่า , หนังสยองขวัญ , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง The Dinosaur Project (2012) ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Dinosaur Project (2012) ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก เต็มเรื่อง

 

เรื่องย่อ

ทีมสำรวจได้เดินทางไปยังประเทศคองโก ใจกลางทวีปแอฟริกา เพื่อตามหาสัตว์น้ำประเภทหนึ่งที่ปรากฏอยูในเรื่องเล่าและตำนานพื้นบ้านของคนท้องถิ่นมานานหลายชั่วคน แต่แล้วแผนการที่จะสรา้งชื่อเสียงจากการค้นพบอันยิ่งใหญ่ของหัวหน้าทีม (ริชาร์ด ดิลเลน) ก็เกือบล่มไม่เป็นท่า เมื่อเฮลิคอปเตอร์ที่ทีมของเขาเดินทางมาเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับนกประหลาดขนาดใหญ่จนเครื่องตก และยังพบว่า ลุก(แมตต์ เคน) ลูกชายของเขาแอบอยู่ในเฮลิคอปเตอร์เพื่อติดตามการเดินทางของเขาอย่างลับๆ ลุก เป็นชายหนุ่มที่หลงใหลในเทคโนโลยี เขาจึงบันทึกทุกเหตุการณ์ผ่านกล้องวิดีโอที่เขานำติดตัวไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่ากล้องนั้นจะเป็นพยานหลักฐาน ที่จะยืนยันการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่คนทั้งโลกคิดว่าสูญพันธู์ไปนับล้านปีแล้ว

IMDB : tt1907779

คะแนน : 4.6

รับชม : 3739 ครั้ง

เล่น : 1443 ครั้ง



The Dinosaur Project (2012) ไดโนซอร์ เจาะแดนลี้ลับช็อกโลก

The Dinosaur Project

ห่างหายไปนานพอสมควรสำหรับบทความในบล็อกนี้ ครั้งหลังสุดก็ห่างจากครั้งนี้เกือบเดือน มาในครั้งนี้ผมขออัพเดต 2 บทความรวด เริ่มจากหนังเรื่องนี้ The Dinosaur Project และอีกเรื่อง The Possession ที่จะตามมาติดๆ ทั้ง 2 เรื่องผมไปดูที่ Terminal 21 ติดกัน 2 วันรวด มาเริ่มกันเลยกับเรื่องแรกครับ

The Dinosaur Project เป็นหนังเนื้อหาเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ดูไปก็คล้ายกับหนังแนวๆนี้สมัยก่อนเรื่อง Jurassic Park เพียงแต่ว่าวิธีการดำเนินเรื่องของหนัง The Dinosaur Project ใช้มุมมองกล้องของตัวละคร และไม่ได้มีการทดลองทางพันธุวิศวะกรรมเพื่อให้สิ่งมีชีวิตในอดีตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่เป็นการผจญภัยเข้าไปในป่าของทวีปแอฟริกาตอนกลาง และไปเจอกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กันเอง

ด้วยมุมกล้องของหนังที่ตัวละครจะเป็นคนถ่ายทอดเรื่องราวในหนังให้คนดูได้ดู รูปแบบการนำเสนอก็จะซ้ำๆเดิมจากที่เคยเห็นกันมาแล้วในหนังสยองขวัญหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะเดาเรื่องได้ง่ายมาก แต่ที่มาดูก็เพราะว่าอยากรู้ว่าหนังจะเล่นประเด็นไดโนเสาร์อย่างไร ซึ่งหลังจากที่ดูจบ ประเด็นหลักของหนังได้อ้างอิงจากเรื่องจริงของสัตว์ลึกลับที่พบในแม่น้ำคองโก แถบป่าตอนกลางของทวีปแอฟริกา สัตว์ลึกลับนี้ภาษาถิ่นเรียกว่า Mokele-mbembe (อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของสัตว์ลึกลับนี้ได้ในวิกิพีเดีย อังกฤษ / ไทย) เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายกับไดโนเสาร์จำพวกซอโรพอด หรือพวกที่มีคอยาว โดยมีหลักฐานการค้นพบสัตว์ตัวนี้อยู่มากมาย และในหนังก็สร้างเรื่องราวการเข้าไปสำรวจความลึกลับของป่าแถบนี้ผ่านการถ่ายทำของตัวละครทั้งหลาย

เรื่องราวความตื่นเต้นของหนังเริ่มตั้งแต่การโดนไดโนเสาร์พันธุ์มีปีกโจมตีเครื่องบินที่นักสำรวจจากอังกฤษบินเข้าไปสำรวจแถบแม่น้ำคองโก จนทำให้เครื่องบินตกกลางป่า และการค้นพบไดโนเสาร์อีกหลากหลายพันธุ์ก็เริ่มหลังจากนั้น โดยมุมกล้องของหนังก็จะมีแบบมุมกล้องนิ่งจากการติดกล้องไว้ตามสถานที่ต่างๆ และมุมกล้องส่ายจากการถือของตัวละครเอง

ยอมรับได้ว่าหนังมีความตื่นเต้นในระดับหนึ่ง เพราะไดโนเสาร์ที่ตัวละครเจอแต่ละตัว ล้วนแต่มีอันตรายด้วยกันทั้งนั้น ยกเว้นไดโนเสาร์เพียงพันธุ์เดียวของเรื่องที่ค่อนข้างน่ารัก ซึ่งเป็นเหมือนอีกหนึ่งตัวละครของหนังเพราะพกกล้องเคลื่อนที่ติดตัวไปด้วย ทำให้เราได้เห็นกล้องจากมุมมองคนถือ และจากมุมมองการเคลื่อนที่ของไดโนเสาร์พันธุ์นั้น

สิ่งหนึ่งที่ผมขัดใจก็คือ ผมไปดูหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะกินข้าวเย็น ความหมายก็คือท้องผมว่าง ยังไม่ได้กินอะไรลงไป การดูมุมกล้องที่ส่ายไปมาอย่างในหนัง ทำให้ผมเริ่มเวียนหัว และคลื่นไส้เล็กน้อย แต่ก็พยายามกลั้นๆไว้ เพราะเดี๋ยวโรงหนังจะสกปรก หุหุ.. มุมกล้องของหนังตอนแรกๆจะไม่ค่อยส่ายมาก แต่พอตอนท้ายๆ มุมกล้องส่ายไปส่ายมา ภาพล้มอยู่หลายครั้ง ปวดเศียรเวียนเกล้าจริงๆ แต่ก็นับว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับหนังได้ดีทีเดียว

สิ่งที่จะได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ นอกจากมุมกล้องที่เวียนหัวสร้างความตื่นเต้นแล้ว ยังได้เห็นไดโนเสาร์หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไดโนเสาร์คอยาวในน้ำ ซึ่งคล้ายๆกับพันธุ์เพลซิโอซอร์, พันธุ์เลโซโธซอรัส จากตัวละคร “คริปโต” ไดโนเสาร์ที่คล้องกล้องไว้ที่คอ, ไดโนเสาร์พันธุ์มีปีก ลักษณะคล้ายๆกับพันธุ์เทอโรแด๊กทิล ที่โจมตีเครื่องบิน รวมทั้งไล่ล่าในฉากนอนกระท่อม ทั้งสามสายพันธุ์นี้จะเห็นกันได้ชัดเจน ส่วนพันธุ์อื่นๆจะเห็นอยู่ในฉากระยะไกลตอนท้ายเรื่องฉากเดียว

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ คล้ายกับเป็นส่วนผสมระหว่างหนัง Jurassic Park และ Cloverfield ซึ่งเราจะได้เห็นความน่ากลัวของไดโนเสาร์และความน่ากลัวของมุมกล้องไปพร้อมๆกัน การดำเนินเรื่องนับว่าตื่นเต้นพอสมควร แต่การแสดงของตัวละครยังไม่สมบทบาท และเดาเนื้อหาของเรื่องได้ง่าย