หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังตลก , หนังอาชญากรรม
เรื่องย่อ : ดูหนัง Baywatch (2017) ไลฟ์การ์ดฮอตพิทักษ์หาด เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ
เรื่องราววีรกรรมของไลฟ์การ์ดผู้เสียสละทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ มิตช์ บูแชนน่อน (ดเวย์น จอห์นสัน) ที่ไม่ค่อยลงรอยกับลูกทีมคนใหม่ แมตต์ โบรดี้ (แซค เอฟรอน) แต่ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งอาชญากรรมท้องถิ่นที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อชายหาดแห่งนี้ในอนาคต
IMDB : tt1469304
คะแนน : 5.5
รับชม : 2562 ครั้ง
เล่น : 738 ครั้ง
ที่หาดเอมเมอรัลด์เบย์ไม่มีภัยใดเกินฝีมือหัวหน้าทีมไลฟ์การ์ดเบย์วอชอย่าง ผู้หมวดมิตช์ บูแคนนอน (ดเวย์น จอห์นสัน) และลูกทีมไปได้ แต่ตำแหน่งขาใหญ่กลับสั่นคลอนหลังการมาถึงของ แมทท์ โบรดี้ (แซค เอฟรอน) เงือกหนุ่มดีกรีแชมป์ตกอับที่คอยงัดข้อกับเขาแทบทุกเรื่อง แต่เมื่อพบว่ายาซอมบี้ ยานรกตัวใหม่กำลังระบาดทั่วหาด คู่กัดจึงขอสงบศึกชั่วคราวเพื่อมาต่อกรกับ วิคตอเรีย ลีดส์ (ปรียันก้า โชปรา) อาชญากรสาวพราวสเน่ห์ ในภารกิจที่จะสอนให้พวกเขาร่วมใจกันกำจัดภัยพร้อมทีมไลฟ์การ์ดสุดฮอตระห่ำในนามเบย์วอช
Baywatch เจ้าเดิมเพิ่มเติมคือบู๊+ทะลึ่ง
เป็นที่ชัดเจนว่า เซธ กอร์ดอน ผู้กำกับ ตั้งใจจะปรับโทนให้หนังต่างจากซีรีส์ โดยเพิ่มความเข้มข้นในฉากแอ็คชั่นผสมมุกตลกสัปดนที่เขาถนัดดีดังที่ปรากฎใน Horrible Bosses (2011) โดยหยิบตัวละครจากซีรีส์ Baywatch จากซีซั่นที่1-3 ซึ่งเป็นที่จดจำของแฟนๆ ทั่วโลก แต่สิ่งที่กอร์ดอนเลือกจะละเลยคือความเป็นดราม่าความสัมพันธ์ในทีมไลฟ์การ์ดที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์ โดยแทนที่ด้วยมุกใต้สะดือเพื่อให้หนังเป็นเรตอาร
แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังกลับไปไม่ถึงเป้าหมายเหมือนไลฟ์การ์ดออกตัวแรงแต่ช่วยใครไม่ได้เลย ตั้งแต่พลอตที่ทิ้งช่องโหว่มโหฬารอย่างการคัดเลือกไลฟ์การ์ดที่หนังไม่ได้แสดงชัดเจนเหมือนซีรีส์ว่าต้องผ่านด่านอะไรบ้าง ยากแค่ไหน แต่เลือกตัดสลับไปนำเสนอการต่อปากต่อคำที่น่ารำคาญระหว่าง มิตช์ กับ แมต ที่มีเหตุคนจมน้ำแบบไร้เหตุผลแล้วจึงประกาศผล ซึ่งก็ทำให้เกิดช่องโหว่ต่อมาว่าทำไมถึงเลือกหนุ่มตุ้ยนุ้ยอย่าง รอนนี่ (จอห์น แบสส์) ที่แค่หลงรักซีเจ (เคลลี่ โรห์บัค) และทำดุ้นติดเก้าอี้ต่อหน้าประชาชีก็ได้รับเลือกให้มาเป็นไลฟ์การ์ด รวมถึงความพังพินาศด้านความสมเหตุสมผลของเรื่องที่อยู่ๆ ก็ดันรู้ข้อมูลว่าผู้ตายเกี่ยวข้องกับอาชญากรแบบบทจับยัดกันหน้าด้านๆ อีก
ส่วนตัวละครสมทบก็ไม่ได้มีหน้าที่มากไปกว่าทำสถิติหน้าอกกระเพื่อมให้มากที่สุดตอนปรากฎตัว ดังนั้นตัวละครฝ่ายพระเอกเลยแทบไม่มีช่วงเวลาทำให้คนดูผูกพันเห็นใจเลยทำให้ดราม่าช่วงท้ายไม่นำพาให้เราเอาใจช่วย แม้หนังจะสร้างตัวละครผู้ร้ายอย่างวิคตอเรียให้แบนราบและไร้ที่มาแค่ไหนก็ตาม.
ปล่อยมุขกระจาย แต่ฮากริบ
พ้นจากเรื่องบทภาพยนตร์แล้วเราจะมาว่ากันถึงความเป็นหนังตลกซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของหนังเรื่องนี้ก็นับว่าน่าผิดหวัง ลำพังแค่คนดูต้องทนกับอาการสำลักมุกฝืดสารพัดก็เกินทนแล้ว หนังยังเดินหน้าถาโถมคนดูด้วยสถานการณ์ชวนคลื่นไส้น่ารำคาญสารพัด
มุกชวนคลื่นใส้! คลิกเพื่ออ่าน (อาจจะสปอย)
ทั้งมุกเก้าอี้ชายหาดหนีบไข่ มุกน้ำเหลืองศพหยดใส่หน้า หรือกระทั่งฉากที่ผู้สร้างมั่นใจเหลือเกินว่าคนดูจะฮาปัสสาวะราดอย่าง ฉากพลิกดุ้นศพในตัวอย่างก็ไม่อาจทำใจง้างขากรรไกรได้เลยสักนิด
แต่คนดูกับปล่อยก๊ากโดยไม่ตั้งใจกับการปรากฎตัวของดารานำอย่าง เดวิด ฮาเซลฮอฟฟ์ ที่โผล่มาพล่ามปลุกใจตัวละครมิตช์คนใหม่แบบไม่มีเหตุผลแต่หนังกลับตัดสลับไปที่ตัวประกอบที่ทำหน้างงว่าตาลุงนี่คือใครเลยทำให้ฉากเอาใจแฟนฉบับซีรีส์กลายเป็นเรื่องผิดคิวแบบช่วยไม่ได้
บู๊ทั้งทีทำไมซีจีดูอ่อนแอ
หรือแม้แต่ฉากแอ็คชั่นที่ผู้สร้างโม้นักโม้หนาว่าจะใหญ่โต ตื่นเต้นขึ้นกว่าฉบับซีรีส์ที่ไม่ค่อยมีฉากบู๊หรือระเบิดตูมตามเท่าใดนัก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูแพงทีเดียว..ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นนะ…ราคาคุยน่ะครับ ขนาดซีจีสเก็ดระเบิดในซีรีส์ยังแนบเนียนกว่าอีก มิหนำซ้ำหนังเองก็ไม่ได้ทำให้ตัวละครวิคตอเรียทำอะไรมากไปกว่าใส่ชุดเดรสแหวกอก ทำหน้าสวยๆ แล้วสั่งฆ่าคน ทำให้ฉากการเผชิญหน้าระหว่างเหล่าไลฟ์การ์ด เบย์วอชกับวิคตอเรีย เราเลยไม่รู้สึกอยากเอาใจช่วยตามสถานการณ์ที่เหล่าตัวละครเอกต้องเผชิญแม้แต่นิดเดียว ที่เลวร้ายที่สุดคือเวลาตัวเอกเพลี่ยงพล้ำคนดูกลับสมน้ำหน้าเพราะส่วนมากมักเกิดจากความเลินเล่อ ซึ่งต่างจากฉบับซีรีส์ที่ตัวเอกประสบเคราะห์กรรมจากการช่วยเหลือคนอื่น สร้างความผูกพันและเอาใจช่วยให้คนดูได้มากกว่าทั้งที่ไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมากนัก
ซิกส์แพ็คแน่นไม่ช่วยอะไร
ว่ากันถึงนักแสดงนำ ถ้าว่าถึงฝ่ายชายที่เป็นจุดขายอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อค ก็ยังทำหน้าที่นักแสดงได้ดีและยังสร้างตัวละคร มิตช์ บูแคนนอนในแบบตัวเองแถมยังสามารถพูดไดอาล็อคเลี่ยนๆ ให้ฟังดูเข้าท่าได้อีก แม้มุขล้อตัวละครแมตต์โดยเปรียบเทียบกับ บอยแบนด์ต่างยุคทั้ง วันไดเร็คชั่น เอ็นซิงค์ จัสติน บีเบอร์ โจนาสบราเธอร์ หรือแม้แต่ล้อซีรีส์ High School Musical จะน่ารำคาญแค่ไหนก็ตาม ต่างจาก แซค แอฟรอน ที่ต้องบอกตามตรงว่า เขาคือของค้างตกยุคที่พยายามเอาชีวิตรอดด้วยการฟิตหุ่นแล้วมาเล่นบทแบดบอยแต่ทว่าคราวนี้เขาไม่ได้โชคดีเหมือนตอนเล่นหนังตลกป่วนข้างบ้านอย่าง Neighbors (2014,2016) นัก เพราะตัวละครแมตต์กลับขี้เก๊กแบบไร้มิติ แถมล้มเหลวในการรับส่งมุขกับเพื่อนร่วมจอ เลยทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่การเป็นอายแคนดี้ให้สายตาสาวๆได้โลมเลียหรือแม้กระทั่งจะไปเป็นหล่อสายฮาก็ไม่รอดเท่าใดนัก
หนักอกหนักใจกับเหล่าสาวไลฟ์การ์ด
ว่ากันถึงตัวละครสาวๆสุดเซ็กซี่ที่เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่เวอร์ชั่นซีรีส์ แน่นอนว่ามีทั้งตัวละครระดับไอคอนจากซีซั่นที่สามของซีรีส์อย่าง ซีเจ บทเดิมของพาเมล่า แอนเดอร์สัน ที่คราวนี้ได้ เคลลี่ โรห์บัค สาวผู้โดดเด่นด้านไฟหน้าไม่แพ้กันมาสานต่อตำนานวิ่งกระเพื่อมหาด ก็ทำหน้าที่ในฐานะอาหารตาของหนุ่มได้ดีและเหมือนผู้สร้างจะรู้งานเลยจัดทั้งฉากปั๊มหัวใจ ฉากกระทุ้งของติดคอรอนนี่ที่จงใจถ่ายบั้นท้ายกระเพื่อมเป็นแฟนเซอร์วิสให้ชื่นใจ
ต่างกับ อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ ที่มารับบท ซัมเมอร์ ควินน์ ตัวละครเซ็กซี่มีปัญญาจาก Baywatch Hawaii ซีรีส์ส่งท้ายตำนาน Baywatch ที่ต้องบอกว่าทำเสียของเป็นอย่างมากทั้งที่ แดดดาริโอ มีส่วนผสมทั้งใบหน้าน่ารักชวนเคลิ้มกับหุ่นสุดสะบึมส์ ที่สามารถทำให้พาร์ทโรแมนติก ระหว่างซัมเมอร์กับแมตต์ดูฟินจิกเบาะได้แต่บทกลับให้เธอหมกมุ่นกับการอวดนมเด้งกับแมตต์ จนขัดแย้งกับความเจ้าปัญญาในฐานะผู้มีความรู้ด้านชีววิทยาทางทะเลคนเดียวในทีม
ส่วนตัวละครอย่างผู้หมวดสเตฟานี่ โฮลเด้น สาวผมสั้นสุดแกร่งจากซีซั่นที่ 4 ของซีรีส์ที่คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นสาวสวยผิวสีอย่าง อิลเฟเนซ ฮาเดรา แต่คาแรคเตอร์ของเธอกลับเป็นเพียงลูกคู่ให้ มิตช์ บูแคนนอน แถมหนังยังเปิดประเด็นโรแมนซ์ระหว่างเธอกับมิตช์แต่กลับทิ้งไปดื้อๆซะงั้น และท้ายสุดแม้จะไม่ใช่ครัวคุณต๋อยแต่ถ้าเราไม่พูดถึงตัวแทนจากบอลลีวูดอย่าง ปริยันกา โชปรา อดีตมิสเวิล์ดปี 2000 ก็ถือว่าผิด! โดยปริยันกา รับบท วิคตอเรีย ลีดส์ เจ้าแม่ค้ายาตัวแสบได้ดีมากทั้งสายตาทั้งน้ำเสียงคือนิยามสวยอำมหิตจริงๆ แต่เสียดายที่บทหนังให้โอกาสเธอปล่อยของน้อยเกินไป แม้กระทั่งฉากเต้นในงานปาร์ตี้ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสให้เธอโชว์สเต็ปในฐานะนักร้องเพลงฮิตสุดเซ็กซี่อย่าง Exotic หนังก็ยังละเลยโอกาสที่จะแสดงสเน่ห์ของนักแสดงจากเอเชียเพียงคนเดียวไปอย่างน่าเสียดาย