ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง From a House on Willow Street (2016) จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่ เต็มเรื่อง

ดูหนัง From a House on Willow Street (2016) จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่ เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง From a House on Willow Street (2016) จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่ เต็มเรื่อง

ดูหนัง From a House on Willow Street (2016) จับปีศาจมาเรียกค่าไถ่ เต็มเรื่อง

 

 

 

เรื่องย่อ

เล่าเรื่องของกลุ่มโจรเรียกค่าไถ่ 4 คนที่วางแผนการเป็นอย่างดี ศึกษาเหยื่อเป้าหมาย ลู่ทาง และเวลา ก่อนบุกเข้าบ้านหรูหลังหนึ่งบนถนนวิลโลว์ในยามวิกาลเพื่อลักพาตัวเด็กสาวที่พวกเขาคิดว่าจะนำมาซึ่งเงินค่าไถ่ก้อนงาม เมื่อแผนการทุกอย่างทำท่าว่าจะไปได้สวย ....แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร! เมื่อพวกเขาทั้งสี่กลับต้องกลายเป็นเหยื่อสยองที่ติดอยู่ในบ้านหลังนี้ที่ไม่ต่างอะไรจากขุมนรกโดยไม่คาดฝัน ระดับความกลัวยิ่งทวีคูณ ความลับขนหัวลุกยิ่งถูกเปิดเผย ตัวตนที่แท้จริงของเด็กสาวกำลังจะช็อคทั้งสี่โจรและผู้ชมทุกคน

IMDB : tt4961380

คะแนน : 4.9

รับชม : 614 ครั้ง

เล่น : 130 ครั้ง



From a House on Willow Street (2016)

ผมไอเดียหลายอย่างของเรื่องนี้ มันชวนให้ผมนึกถึง The Autopsy of Jane Doe คือเริ่มต้นช้าๆ ค่อยๆเซ็ทอัพอารมณ์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งวินาทีนรกแตก ผมชอบคอนเซ็ปท์ที่กลุ่มผู้ลักพาตัวต้องมาเผชิญหน้ากับหญิงสาวผู้ลึกลับ ซึ่งมีอะไรบางอย่างผิดปกติเกี่ยวเธอ ผมคิดว่ามันมีศักยภาพจะกลายเป็นอะไรที่โคตรเจ๋งได้

คือเรื่องนี้มันมีฉากผีหลอกหลายฉาก ซึ่งตอนแรกผมก็รู้สึกเซ็งที่มุกหลายอย่างมันซ้ำซากจำเจ คือผมสงสัยว่าถ้าผีมันจะฆ่าใครสักคน ทำไมต้องโผล่มาแวบหนึ่งแล้วหายไป แล้วก็โผล่มาอีกแวบแล้วหายไป อะไรทำนองนี้

แต่พอหลังจากดูไปเรื่อยๆ ผมถึงได้เข้าใจว่า อ้อ! แบบนี้นี่เอง ผีพวกนี้ล้วนสะท้อนถึงความรู้สึกผิดอะไรสักอย่างในตัวของผู้ลักพาตัวทั้งสี่คน และมันก็โผล่มาเพื่อจะเอามาใช้ชักจูงตัวละครหลักตามเป้าหมายของสิ่งลึกลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมด อืม เข้าท่า!

แต่ว่า แต่ว่า!

เมื่อหนังดำเนินมาถึงกลางเรื่อง ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างจะดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆจนกระทั่งตอนไคลแม็กซ์ มันมีฉากหลายฉากที่ซ้ำซากจำเจตามแบบฉบับหนังสยองขวัญทั่วไป ชนิดที่ว่าถ้าคุณดูหนังสยองขวัญมาสักสิบเรื่อง ก็แทบจะหาความแปลกใหม่อะไรไม่ได้เลย ทั้งมุมกล้อง การตัดต่อ และมุกตุ้งแช่ทั้งหลาย

ตัวละครภายในเรื่องก็แทบไม่มีอะไรน่าจดจำเลยสักนิด หนังพยายามสร้างให้ตัวละครทั้งสี่น่าสนใจ คือเป็นพวกที่ก่ออาชญากรรมอย่างการลักพาตัว แต่ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ยังดูเป็นผู้เป็นคนบ้าง ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ผมไม่รู้สึกอยากจะเอาใจช่วยใครเป็นหลักเลย แม้กระทั่งเฮเซล หญิงสาวที่เป็นผู้วางแผนการทั้งหมด หนังอุตส่าห์สร้างแง่มุมหลายแง่มุมให้ แต่สุดท้ายก็… ไม่มีอะไรน่าสนใจถึงขนาดต้องเอาใจช่วยอะไรมากมาย

มันมีผลต่อช่วงไคลแม็กซ์ของหนังมาก คือเวลาที่ตัวละครพวกนี้จะเปลี่ยนใจมาทำอะไรดีๆ อย่างเช่น ยอมช่วยเพื่อนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง มัน… มันไม่น่าเชื่อถือเสียเท่าไหร่ ผมอาจจะพลาดอะไรไปเอง แต่เท่าที่จำได้ มันไม่มีส่วนไหนที่บอกว่ากลุ่มคนสี่คนนี้จะมีมิตรภาพแน่นแฟ้นกันถึงขนาดยอมที่จะเอาตัวเข้าไปแลกเพื่อช่วยให้เพื่อนๆหนีไป…

ฉากสยองขวัญในช่วงท้ายๆ ผมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งดูซีรีส์ Supernatural คือเมื่อตัวร้ายของเรื่องอาละวาด มันใช้พลังในการยกร่างคนนั้นขึ้น เขวี้ยงร่างคนนี้ไปตรงกระแทกนู่นนี่นั่น คือ… ซีรีส์ Supernatural นั้นผมเข้าใจได้ เพราะมันเป็นซีรีส์ที่เหมือนเล่นกับโทนหนังสยองขวัญกึ่งแอ็กชั่น คือมันแค่เอาอารมณ์ของหนังสยองขวัญมาใช้ แต่โดยรวมแล้วมันออกไปในทางแอ็กชั่นมากกว่า ทว่าพอมาอยู่ในหนังที่ตั้งใจจะเป็นหนังสยองขวัญเต็มรูปแบบเหมือน From a House on Willow Street ผมรู้สึกเหมือนฉากสยองขวัญบางฉากมันดูผิดที่ผิดทาง!

ไม่ได้สปอยล์อะไรมาก แต่ขอเขียนให้เห็นภาพนิดนึง มันมีฉากหนึ่งที่เฮเซลยิงปืนลูกซองใส่ “วายร้าย” แต่ฝ่ายวายร้ายกลับ “สร้างบาเรีย” ขึ้นมาป้องกันลูกซอง! …5555555555555555555

แล้วฉากที่ว่านี่ ชวนให้นึกถึง Terminator 2: Judgement Day ที่ซาร่าห์ คอร์เนอร์ยิงลูกซองใส่ T-1000 ไม่มีผิด! …5555555555555555555

ไม่พอ มันมีฉากที่อาเด้ แฟนหนุ่มของเฮเซลยิงปืนใส่ “วายร้าย” แต่วายร้ายกลับหยุดกระสุนได้อย่างกับหนัง Matrix!… 55555555555555555555

แล้วยังมีฉากทำให้ผมเกือบจะร้อง WTF!? ออกมาดังๆ มันอยู่ในช่วงไคลแม็กซ์ซึ่งจะไม่สปอยล์อะไรอีกเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ผมชอบโทนของหนังโดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกมากๆ มันมีโทนที่เน้นบรรยากาศได้อย่างน่าสนใจ ให้อารมณ์เหมือนจะแตกต่างจากหนังสยองขวัญกากๆทั่วไป แล้วอย่างที่บอกไปแล้วข้างต้น หนังเรื่องนี้มีคอนเซ็ปท์และไอเดียที่ดี ตรงนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้ผมอยากจะดูจนกระทั่งถึงตอนจบ แม้ดูจบแล้วจะรู้สึกผิดหวังเพราะการดิ่งลงเหวของช่วงครึ่งท้าย แต่ผมก็ยังค่อนข้างจะประทับใจกับคอนเซ็ปท์ของหนังอยู่ดี น่าเสียดายเหลือเกิน… ถ้าเพียงแต่มันถูกพัฒนาไปในทางที่ดีละก็ มันจะกลายเป็นหนังสยองขวัญที่โดดเด่นของปีได้แน่นอน