ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001) เต็มเรื่อง

ดูหนัง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001) เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังดราม่า

เรื่องย่อ : ดูหนัง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001) เต็มเรื่อง

ดูหนัง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001) เต็มเรื่อง

 

เรื่อง My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001)

เรื่องย่อ เมื่อบุพเพอาละวาด ให้นายเจี๋ยมเจี๊ยม (ชาแทฮยอน) ต้องขึ้นรถไฟขบวนเดียวกันกับสาวใสยัยตัวร้าย (จอนจีฮยอน) ที่เมาแอ๋ไม่ได้สติ จึงทำให้เกิดเหตุที่ไมน่าจะเกิดกับสาวน่ารักอย่างเธอได้ นั่นคือเธออ๊วกรดหัวคนบนรถไฟแบบว่าเละ กามเทพแห่งความรักเลยแผลงศรให้นายเจี๊ยมเจี้ยมต้องยืนมือที่สุดแสนจะไม่เต็มใจเข้าช่วยเธอแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะยังวุ่นวายซะ

นับจากนายเจี๋ยมเจี้ยมต้องตกเป็นเบี้ยล่างของความแสบซ่าของเธอแต่แล้วไม่นานเขาก็พบว่าลึก ๆ ในความแสบซ่านั่นเธอกำลังเป็นทุกข์กับการที่เสียคนรักไป เธอก็พยายามทำให้นายเจี๋ยมเจี้ยมเป็นแบบเดียวกับคนรักเก่าของเธอ แล้วทั้งคู่ก็เลิกคบกัน แล้วต่างคนก็ต่างนัดบอดกับคนอื่นทำให้ต่างคนก็ต่างรู้ว่าใครกันแน่คือคนที่หัวใจต้องการ

แล้วทั้งคู่ต่างก็นำเอาความรู้สึกที่มีให้แก่กันใส่ลงในกล่อง แล้วอีกสองปีนับจากนี้ทั้งคู่จะได้กลับมาตรวจสอบถึงความรู้สึกที่มีให้แก่กันว่ามันจะยังเหมือนเดิมหรือป่าว ด้วความแสบซ่า น่ารักของทั้งคู่ จะทให้คุณรู้ว่า "รัก" สวยงามแค่ไหน

IMDB : tt0293715

คะแนน : 8

รับชม : 735 ครั้ง

เล่น : 162 ครั้ง



My Sassy Girl ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001)

My Sassy Girl ถูกดัดแปลงมาจากบันทึกรักที่เขียนขึ้นบนอินเทอร์เน็ต ก่อนจะกลายเป็นนวนิยายในเวลาต่อมา ผลงานกำกับของ Jae-young Kwak (กวัก แจ-ยง) ที่ประสบความสำเร็จกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก Watercolor Painting in a Rainy Day (1989) ก่อนที่ในอีก 11 ปีต่อมา จะมีผลงานอันเป็นที่นิยมและสร้างชื่อเสียงถล่มทลายอย่าง My Sassy Girl .  อันเป็นเรื่องราวของชายหญิงแปลกหน้าคู่หนึ่งที่บังเอิญเจอกันบนรถไฟใต้ดินที่เกาหลี ก่อนที่ทั้งคู่จะขยับขยายความสัมพันธ์ และเรียนรู้ซึ้งกันและกัน อันนำมาสู่ความผูกพันธ์ในที่สุด



ด้วยความเป็นภาพยนตร์ Romance , Comedy ฉบับเกาหลี รายละเอียดต่างๆและเทคนิคการเล่าเรื่อง จึงเต็มไปด้วยความน่ารัก และฮาหมดจดทุกมุขที่หยอดมา ความบ้าๆบอๆของชาย 1 หญิง 1 ที่บังเอิญเจอกันอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ใครจะเชื่อว่าประเด็นที่เรื่องราวใส่มาแค่นี้ และดูเหมือนจะไม่พยายามต่อยอดอะไรแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาหนังก็ยังคงเล่นสไตล์บทพระนางเดิมๆอยู่เสมอ แต่กลับกลายเป็นว่ามันสามารถเพิ่มพูน และขยับขยายได้มากกว่าเก่า อย่างดีเยี่ยมในช่วงท้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่เรากำลังหลงระเริงและเสน่ห์ตลกน่ารักกับความ Comedy นี้ บทหนักๆก็ถูกใส่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว และกลายเป็นการใช้ประเด็น Drama ปิดท้ายในที่สุด . . เรียกได้ว่านี้มันเป็นแผนของผู้กำกับ ที่ใช้ความตลกน่ารักอันใส่มาซะมากมายในตอนต้น จงใจสร้างความผูกพันธ์ของผู้ชมที่มีต่อตัวละครไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อเข้าใกล้บทสรุปอันสำคัญ ประเด็น Drama จึงทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ My Sassy Girl โดดเด่นด้วยนั้น คือเทคนิคการเล่าเรื่องและการใส่ Easter Egg มากมายภายในเรื่อง หรือที่เรียกกันว่าความลับ My Sassy Girl แทนที่จะเล่าเรื่องตรงๆทื่อๆจนดูไร้รสชาติ ก็เป็นการเพิ่มสีสันให้โดดเด่นด้วยนั้นเอง

การแสดงที่ยอดเยี่ยมและเข้าขากันอย่างที่สุดของสองนักแสดงอย่าง Jun Ji-hyun และ Cha Tae-hyun เรียกได้ว่าเป็นการแคสติ่งที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ พวกเขาทั้งสองทำให้เราเชื่อและอินกับบทรั่วๆฮาๆได้อย่างสบายๆ ด้านคาแรคเตอร์และหน้าตาของพระเอกที่ไม่ตรงกับอุดมคติ ของพระเอกเกาหลีบอยแบนด์ขวัญใจแม่ยกเลยแม้แต่น้อย กับนางเอกที่ดูจะขายหน้าตาแต่ทักษะการแสดงก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน มันจึงเป็นความเข้ากันที่สุด ของการได้มาเจอกันระหว่าง Jun Ji-hyun และ Cha Tae-hyun ใน My Sassy Girl

แต่มีเพียงสิ่งหนึ่งที่รู้สึกตะหงิดๆระหว่างการรับชม คือฉากทหารกับสวนสนุก ประเด็นของมันตรงตัวคือการพูดถึงเรื่องราวความรัก ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังและจงลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันมั่วซั่วมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนมองข้ามไปอย่างไม่ต้องสงสัย กลับมาชัดเจนและจำเป็นต้องตั้งข้อสงสัยกับมันอย่างจริงจัง ก็เพราะฉากนี้มันไม่สามารถขับอารมณ์ร่วมได้เลย จนรู้สึกเบื่อและเอ๊ะใจไปชั่วขณะ ราวกับว่ามันเป็นจุดเสียที่ใหญ่จุดเดียวของ My Sassy Girl ที่ไม่ควรจะมีอยู่เลย ทั้งๆที่เราสามารถสัมผัสเสน่ห์ของมันมาได้ตลอดทั้งเรื่องแล้วแท้ๆ แต่เมื่อกลับผ่านพ้นจุดนี้ไป อารมณ์ความดีงามของงานก็กลับเป็นปกติเช่นเคย

ถึงแม้เรื่องราว My Sassy Girl มันแลดูเพี้ยนๆและไม่ Make Sense ในหลายกรณี . . แต่ใครเล่าจะสน เมื่อมันสามารถตอบโจทย์ความบันเทิงได้อย่างเต็มเปี่ยม และสร้างความประทับใจแม้ว่าจะดูจบไปแล้วก็ตาม