หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังดราม่า , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง Rise of the Planet of the Apes กำเนิดพิภพวานร 2011 เต็มเรื่อง
Director: Rupert Wyatt
Writers: Rick Jaffa, Amanda Silver
Stars: James Franco, Andy Serkis, Freida Pinto
วิล ร็อดแมน (เจมส์ ฟรังโก้) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานภายในบริษัทเกี่ยวกับยาขนาดใหญ่ชื่อ เจนซิส ทำหน้าที่ควบคุมการวิจัยยีนเพื่อพัฒนาไวรัสที่สามารถเพิ่มพูนได้เพื่อฟื้นฟูเนื้อเยื่อสมองของมนุษย์ที่ถูกทำลาย เขาได้รับมอบหมายให้ค้นหาวิธีรักษาภาวะสมองเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่สร้างความทรมานให้แก่ ชาร์ลส์ (จอห์น ลิธโกว์) คุณพ่อของเขา วิล จึงมีความตั้งใจอย่างไม่ยอมลดละ
IMDB : tt1318514
คะแนน : 7.6
รับชม : 28141 ครั้ง
เล่น : 13579 ครั้ง
กว่าจะได้ดูเรื่องนี้ก็เกือบจะไม่ได้ดูซะแล้ว กลัวจะออกโรงซะก่อน เพราะผมทำงานเกือบทุกวันแล้วช่วงนี้ เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้าโรงไปดูหนังเท่าไร พอมีวันหยุดปุ๊บ ผมก็เลยเลือกดูเรื่องนี้ซะหน่อย และก็ไม่ผิดหวัีงที่เสียเวลาไปดู เพราะหนังดำเนินเรื่องได้อย่างรวดเร็ว ประกอบไปกับแอ๊กชั่นที่ดูสนุก ถึงแม้จะมีจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆ แต่โดยรวมแล้ว กำเนิดพิภพวานร เรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งหนังดีประจำปีนี้ในลิสต์ของผมไปแล้ว
ก่อนที่จะมาดูเรื่องนี้ ผมเคยดูหนังของทิม เบอร์ตันเรื่อง Planet of the Apes มาก่อน แต่ก็นานมากแล้ว จนจำเนื้อเรื่องไม่ได้เลย หุหุ… เลยไม่รู้จะเล่าเรื่องให้เกี่ยวเนื่องกันได้ยังไง เพราะหนังกำเนิดลิงกังอย่างนี้ มีด้วยกันตั้งหลายเรื่อง ตั้งแต่ปี 1968 นู่นเลยทีเดียว เอาเป็นว่าขอเล่าเฉพาะเรื่องนี้ละกัน
Rise of the Planet of the Apes เริ่มเรื่องมาก็กล่าวถึงการล่าลิงของเหล่ามนุษย์ เพื่อนำลิงไปทดลองกับตัวยา ALZ-112 ที่หมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นยาแก้โรคสมองเสื่อม และนำเงินกำไรมหาศาลให้กับผู้ผลิตอย่าง “เจนซิส” โดยมีวิล ร็อดแมน (เจมส์ ฟรังโก้) เป็นหัวหน้าทีมวิจัย ซึ่งในขณะที่เขากำลังรายงานผลอันน่าอัศจรรย์เพื่ออนุมัติการทดลองยาในมนุษย์ ลิงทดลองที่ชื่อว่า “ไบรท์อายส์” (เทอร์รี่ โนทารี่) ก็อาละวาดในอาคารนั้น จนทำให้โครงการทดลองต้องล้มเลิกไป โดยเจคอบส์ (เดวิด โอเยโลโว) ผู้อนุมัติให้เกิดการทดลองตัวยา ได้สั่งให้กำจัดพวกลิงทดลองทุกตัวให้หมด เหลือเพียงตัวเดียวที่วิลเก็บมาเลี้ยงดูที่บ้าน ลิงน้อยนามว่า “ซีซาร์” (ริชาร์ด ดาร์วิน: รับบทซีซาร์ตอนเด็ก, แอนดี้ เซอร์คิส: รับบทซีซาร์ตอนโต)
พัฒนาการของลิงน้อยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนฉลาดเกินกว่าเด็กในวัยใกล้เคียงกัน จนวันหนึ่งซีซาร์อยากออกเล่นนอกบ้าน จึงโดนคนข้างบ้านไล่ตี ทำให้วิลต้องพาไปหาหมอสาวแคโรไลน์ (ฟรีด้า พินโต) และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีซีซาร์เป็นหนึ่งในครอบครัว เมื่อเห็นว่าซีซาร์มีพัฒนาการที่น่าทึ่ง วิลจึงทดลองยากับชาร์ลส์ (จอห์น ลิธโกว) พ่อของเขาเอง โดยหลังจากฉีดยาไปเพียงชั่วข้ามคืน อาการโรคสมองเสื่อมของพ่อก็หายไปทันที
หนังดำเนินเรื่องตอนต้นได้อย่างรวดเร็วและกระชับ ทำให้ต้องดูแบบไม่ให้คลาดสายตา ซึ่งก็ทำให้หนังไม่น่าเบื่อและตื่นเต้นตลอดเวลา แต่ก็ขาดความสมจริงในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างวิลกับแคโรไลน์ ที่ไม่ได้กล่าวรายละเอียดให้มากกว่านี้ เจอกันฉากเดียวก็กลายเป็นคนรักกันไปแล้ว ใจร้อนกันจริงๆเลยเชียว…
หลังจากที่พ่อของเขาหายจากอาการสมองเสื่อมได้ไม่นาน อาการสมองเสื่อมก็กลับกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง และรุนแรงขึ้นกว่าเดิม จนเกิดเหตุที่ซีซาร์ไปทำร้ายคนข้างบ้านที่กำลังต่อว่าชาร์ลส์ เพราะชาร์ลส์ทำรถเสียหาย ทำให้ซีซาร์ถูกจับไปแหล่งควบคุมลิงที่มีลิงอีกหลายตัวถูกกักขังไว้ที่นี่ โดยมีจอห์น แลนดอน (ไบรอัน ค็อกซ์) เป็นหัีวหน้าแหล่งควบคุม และมีลูกชายอย่างดอดจ์ แลนดอน (ทอม เฟลตัน) กับคนดูแลลิงอย่างร็อดนีย์ (เจมี่ แฮร์ริส) เป็นคนดูแลหาอาหารให้เหล่าลิง หลังจากที่วิลต้องจากกับซีซาร์ไป เขาก็ไม่ยอมเสียซีซาร์ไปง่ายๆ จึงทำการศึกษาผลจากการทดลองอีกครั้งและไปขออนุมัติจากเจคอบส์ เพื่อให้เขาได้ทำการพัฒนาตัวยา โดยการเพิ่มความเข้มข้นของตัวยามากกว่าเดิม และหลังจากคุยกันไม่นาน เจคอบส์ก็อนุมัติให้วิลทำการทดลองตัวยาเมื่อเขาบอกว่าได้ทดลองกับพ่อของตัวเอง
การทดลองตัวยาแบบใหม่ ALZ-113 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เจนซิสได้นำลิงจากแหล่งควบคุมเพื่อไปทดลองกับตัวยาแบบใหม่ โดยในขณะทดลองเกิดความผิดพลาด ท่อส่งยาเกิดหลุด จึงมีละอองยาลอยในอากาศ และเป็นผลให้หนึ่งในนักทดลองติดเชื้อ ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซีซาร์ที่ถูกกักขังในแหล่งควบคุมลิง ถูกดอดจ์กลั่นแกล้ง ซึ่งทำให้ซีซาร์ฝังใจแค้น และรอวันเอาคืน หลังจากคุยภาษามือกับมอริซ (คาริน โคโนวอล) ลิงอุรังอุตังสาวตัวใหญ่ที่เคยอยู่กับคณะละครสัตว์ ก็รู้ว่าพวกลิงตัวอื่นๆไม่ได้ฉลาดเท่าเทียมกัน ทำให้ซีซาร์วางแผนออกจากแหล่งควบคุมลิง โดยวันหนึ่งซีซาร์หาทางกลับบ้านไปเอาตัวยาที่บ้านวิล เพื่อมาเร่งความฉลาดของลิงตัวอื่นๆในแหล่งควบคุมลิง
หลังจากที่รอวันแล้ววันเล่า ก็ถึงเวลาที่ซีซาร์และเหล่าวานรเอาคืน ก่อนอื่นจัดการดอดจ์เป็นรายแรก ขังคนดูแลอีกคน และหนีออกจากแหล่งควบคุมได้สำเร็จ โดยเหล่าวานรทั้งหลายมุ่งหน้าไปยังเจนซิสตามคำสั่งของซีซาร์ ในขณะเดียวกันที่เจนซิสกำลังผลิตยา ALZ-113 เพื่อออกจำหน่ายทำกำไร โดยที่ไม่รู้ว่าตัวยามีผลร้ายแรงกับมนุษย์ แต่ไม่ปรากฏผลอันตรายต่อลิง
เหล่าวานรบุกเจนซิสและทำลายข้าวของเสียหาย ทำให้เจคอบส์แจ้งทางการเพื่อจัดการเหล่าวานร ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างมนุษย์และวานร ทั้งสองฝ่ายโจมตีกันอย่างดุเดือด โดยฝ่ายวานรไม่ได้ต้องการทำร้ายมนุษย์ เพียงแต่ต้องการหลบหนีไปยังแหล่งอาศัยเดิม ในขณะที่มนุษย์ต้องการกำจัดเหล่าวานรให้สิ้นซาก แต่ในที่สุดก็เป็นฝ่ายวานรนั่นเองที่ชนะการเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ โดยวิลเองก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วย เขาตามซีซาร์ไปยังป่าที่เคยมาเดินเล่นด้วยกัน และร้องเรียกซีซาร์ให้มาคุยกัน วิลอยากให้ซีซาร์กลับบ้าน แต่หลังจากที่ซีซาร์ได้ยินวิลกล่าวอย่างนั้น ซีซาร์ก็พูดเบาๆใส่หูของวิลว่า เขาได้อยู่ในบ้านของตัวเองแล้ว ซึ่งทำให้วิลอึ้งที่รู้ว่าซีซาร์พูดได้ เขาจึงปล่อยให้ซีซาร์อยู่ตามแหล่งกำเนิดเดิมต่อไป
หนังเรื่องนี้ดำเนินเนื้อเรื่องได้กระชับฉับไว และสร้างความตื่นเต้นได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะฉากเอฟเฟ็กต์ต่างๆที่ดูสมจริงและอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉากเหล่าวานรปีนสลิงขึงสะพานหรือโหนใต้สะพานโกลเด้นเกท ที่ได้การกำกับภาพที่ดีมาช่วยทำให้ออกมาดูสวยงามและต่อเนื่อง ฉากปีนต้นไม้ของเหล่าวานรก็เล่นภาพไปมาตามการกระโดดหรือปีนป่ายได้สวย ส่วนเอฟเฟ็กต์ตัวลิงก็ดูสมจริง เหมือนลิงจริงๆเล่นหนังให้ดูเลยทีเดียว
เรื่องนี้ต้องชื่นชมการส่งสายตาของแอนดี้ เซอร์คิสกับตัวละครซีซาร์ ที่แม้จะไม่ได้เห็นหน้าจริงๆของเขา ใช้ซีจีครอบเอา โดยเห็นแค่แววตาก็สื่ออารมณ์ได้ดีแล้ว ไม่ว่าจะอารมณ์อ่อนโยน อารมณ์ดุร้าย เขาก็สื่อให้เราเห็น นับว่าเก่งจริงๆ สำหรับนักแสดงที่ผ่านการครอบซีจีมาแล้วหลายเรื่อง ที่ดังๆก็ตัวละครกอลลั่มในหนัง The Lord of the Ring และคิงคองยักษ์ในหนัง King Kong ไม่ว่าจะเล่นโดนครอบซีจีเป็นอะไรก็ส่งสายตาได้สุดยอด คราวหน้าคงไม่ต้องหาสัตว์ต่างๆมาเล่นในหนังแล้วล่ะ หาแค่แอนดี้ เซอร์คิสคนเดียวก็พอ เอาซีจีครอบก็หมดเรื่อง!
สำหรับการเลียนแบบความเป็นลิงก็ดูลื่นไหลดี ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าลิงมันทำท่าทางกันยังไง แต่ดูไปก็รู้ว่า เออนี่แหละลิง ลิงมันก็ทำท่าทางประมาณนี้แหละ ไม่ว่าจะเป็นท่ากระโดดไปมา ท่าโหนกรง หรือทำหน้าตาแบ๊วๆ ดูแล้วเป็นธรรมชาติแบบลิงๆ
เมื่อดูจบก็คิดได้ว่า มนุษย์นั่นแหละที่ไปทำร้ายลิงก่อน ลิงมันก็อยู่เฉยๆ ไปยุ่งอะไรกับมัน ลิงไม่ได้โง่นะ แค่ไม่รู้เท่านั้น ก็เหมือนคนที่ไม่รู้ ก็ไม่ได้หมายความว่าโง่ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจว่าอะไรเป็นอะไร ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะเมื่อทำอะไรผิดพลาดลงไปแล้ว ก็จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง
ตอนนี้มนุษย์ก็คงรู้แล้วว่าตัวเองไม่ได้ฉลาดอยู่แค่เผ่าพันธุ์เดียว เพราะหนังก็ให้ข้อคิดแล้วว่า ลิงก็ฉลาดเหมือนกัน ลิงก็ฉลาดในแบบลิง มนุษย์ก็ฉลาดในแบบมนุษย์ ไม่ต้องเอามาเปรียบเทียบกัน และไม่ต้องเอาเปรียบซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมโลกเดียวกันก็ขอให้พึ่งพาอาศัยกัน ไม่ใช่แก่งแย่งชิงดีกัน เพราะเมื่อไรที่เกิดการเอาเปรียบกัน ระวังลิงจะมาเอาคืน!
สรุปแล้วหนังเรื่องนี้มีดีตรงที่ดำเนินเรื่องเร็ว กระชับฉับไว ฉากแอ๊กชั่นดูตื่นเต้นอลังการ เห็นลิงในมุมมองใหม่ไฉไลกว่าเดิม ทั้งเปิดประตูได้ ไล่หมา ฉีดน้ำสายยาง เปิดตู้เย็น ถือถุงคุกกี้ ถือเครื่องช็อตไฟฟ้า ขว้างฝาท่อระบายน้ำ กระโดดคว้าเฮลิคอปเตอร์ หรือแม้กระทั่ง ขี่ม้า!! ทุกสิ่งที่กล่าวมาคุณจะเห็นได้จากหนังเรื่องนี้ รวมทั้งลิงยังพูดได้อีก.. เฮ้อ! สงสัยคงหมดยุคของคนแล้วล่ะ!
แต่ไม่ใช่หนังจะดีไปซะหมดทุกอย่างนะ ก็อย่างที่บอกดำเนินเรื่องเร็วมากจริงๆ จนบางตอนก็ละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆไป แต่ก็เอาล่ะนะ แค่เห็นลิงขี่ม้าได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้วล่ะครับ…