ดูหนัง Death Sentence (2007) คนคลั่ง ฆ่า สั่ง ตาย เต็มเรื่อง

Death Sentence (2007) คนคลั่ง ฆ่า สั่ง ตาย เต็ม

ผลงานกำกับของ James Wan เรื่องราวของนักธุรกิจผู้บริหารระดับกลางที่ต้องสูญเสียลูกชายคนโตด้วยฝีมืออันธพาล จึงตั้งศาลเตี้ยขึ้นมาใน Death Sentence หนังสุดระทึก

Nick Hume รับบทโดยดาราเจ้าบทบาท Kevin Bacon กับการแสดงชั้นเลิศในหนัง Death Sentence ของผู้กำกับจอมหักมุมอย่าง James Wan

แต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว Death Sentence นั้นกลับเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องตรงๆ โดยไม่มีการหักมุมแต่อย่างใด แต่กลับสอดแทรกประเด็นของความรู้สึก และคำถามที่ว่า สรุปแล้วกฏหมาย หรือลำดับขั้นตอนของเจ้าหน้าที่รัฐฯ (ในทุกประเทศ) นั้นมันช้าเกินไป หรืออำนวยความสะดวกแก่ผู้ต้องหาที่เป็นวัยรุ่นเกิดไปหรือเปล่า หากเมื่อเทียบกับวิ่งที่ครอบครัวต้องสูญเสีย

ตัวอย่างที่เห็นจากภาพยนตร์นั้นคือ Nick Hume ที่ต้องเห็นลูกชายถูก น้องชายของ หัวหน้าแก๊งค์วัยรุ่นอย่าง Billy รับบทโดย Garrett Hedlund อย่าง Joe รับบทโดย Matt O’Leary จับมีดฟันเข้าที่คอลูกชายคนโตที่อนาคตไกลกับตา Nick และภรรยาของเขา Helen สูญเสียลูกชายคนโตทันทีในวันนั้น เหลือเพียงลูกชายคนเล็กเพียงคนเดียว เหตุการณ์กลับแย่ไปอีกเมื่อ กลุ่มแก๊งค์อันธพาลอย่าง Billy นั้นคือกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด

แม้ว่า Joe คนที่ก่อเหตุจะถูกจับกุมได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐ กลับเกลี้ยกล่อมให้ Nick ต้องปล่อยตัวไม่เอาผิดเพื่อที่จะได้สาวเข้าไปถึงแก๊งค์ใหญ่ เพียงเหตุผลง่ายๆ ว่า ถึงจับกุมไปก็ได้แค่เข้าสถานพินิจ แล้วก็กลับออกมาก่อเรื่องอีก

เป็นคำถามจากหนังที่ดูยิ่งใหญ่พอดู ในการทบสอบความรู้สึกของคนดู เมื่อคนที่เป็น พ่ออย่าง Nick นั้นจะต้องพบกับความอดทน เพื่อแลกกับความสะดวกของเจ้าหน้าที่ และ บัญญัติที่หละหลวมของกฏหมายอีกหลายสิ่ง จนไม่แน่ใจตกลง “ความช่วยเหลือ” จากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองนั้นมันเป็นความช่วยเหลือ หรือแค่การรับเรื่องไปวันๆ เพราะ ดูตั้งแต่ต้นจนจบก็จะเห็น ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่ดูสำคัญมากคนหนึ่งอย่าง เจ้าหน้าที่ Wallis ในเรื่องกลับได้แต่ตักเตือนว่าอย่ายุ่ง

แต่ในตอนจบกลับเลือกที่จะทำบางอย่างที่ดูขัดใจคนดู ดังนั้น Death Sentence จึงให้คำถามแก่คนดูอย่างเราๆ ว่า

• “ศาลเตี้ย” ก็ใช่ว่าจะผิดเสมอไป
• “กฎหมาย” ก็ใช่ว่าจะถูกทุกอย่าง หากอยู่ในภาวะของผู้สูญเสีย

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราจะเห็น ผู้บริหารระดับกลางอย่าง Nick นั้นเริ่มจะเดินดิ่งลงไปในความมืดมิน และใช้ความเป็นศาลเตี้ย จัดการเหล่าวับรุ่นอันธพาล ชนิดที่เรียกว่า ตาต่อตาฟันต่อฟัน

และเราก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Nick ไปเรื่อยๆ เช่น จากคนเป็นพ่อที่แสนดี ก็เริ่มตะคอกลูกชายคนเล็ก เริ่มใช้อารมณ์ในการจัดการปัญหา และสุดท้ายเมื่อทุกสิ่งเริ่มย่ำแย่ คุณพ่อนักบริหารก็เลือกที่จะเป็น กุ๊ย ข้างถนนเดินย่ำๆ ไปสาดกระสุนถึงรังของอันธพาลแบบไม่แยแสอะไร เพราะไม่มีอะไรจะเสีย

ฉากโดดเด่นของภาพยนตร์ Death Sentence นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นฉากถ่ายทำ แบบ Long Take ยาวๆ โดยไม่คัท หรือตัดแต่อย่างใด ในฉากไล่ล่าในลานจอดรถครับ

สรุปแบบ Death Sentence เป็นหนังที่อาจจะไม่ได้มีอะไรพูดถึงมากในแง่ของเนื้อเรื่องเพราะมันเล่าไปข้างหน้าอย่างตรงไปตรงมา และพอคาดเดาได้จาก Trailer ของหนัง แต่สิ่งที่ Death Sentence ให้กับเราได้อย่างดีที่สุดนั้นคือ คำถามที่ว่า “เราอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่แล้วหรือเปล่า”

เพิ่มเติม
ส่วนตัวแล้ว ผมคนเขียน และ เพื่อนๆ ของผมเองนั้นก็เคยเดือดร้อนจากคดี อาชญกรรม ในเขต สน. โชคชัย 4 และ สน. วังทองหลาง แต่เอาเข้าจริงแล้ว เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องนั้นก็ไม่ได้ช่วยเหลือเต็มที่แต่อย่างใด แม้แต่คำปลอบใจหรือคำขอโทษก็ไม่มี จนกระทั่งวันที่เพื่อนของผม เมาแล้วขับ แล้วโดนจับ ตำรวจที่รับเรื่องคดีของเราเป็นคนปรับเราเอง พวกเราก็ถามกลับไปว่า “คดีของพวกเราไปถึงไหนแล้ว” คำตอบที่ได้รับคือ “คดีอะไรเหรอครับ” แล้วก็ตามด้วยคำต่อว่าเราว่า “เฉ ไฉ ได้คืบจะเอาศอก”

จนพาลที่จะอดนึกไม่ได้ว่า ถ้าวันหนึ่งเราเข้าตาจนเหมือน Nick ในหนังเรื่องนี้ เราก็คงได้แต่ พึ่งตัวเอง โดยการเป็น “ศาลเตี้ย” นี่แหละ และถ้ารอดมาได้แบบ Nick เราก็คงจะได้พบการซ้ำเติมจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์กฏหมายที่ดูเท่ทันทีกับเราในตอนหลังแน่นอนเหมือนอย่างที่ Nick ต้องโดนครับ