ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Patriots Day (2016) วินาศกรรมปิดเมือง เต็มเรื่อง

ดูหนัง Patriots Day (2016) วินาศกรรมปิดเมือง เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังอาชญากรรม , หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Patriots Day (2016) วินาศกรรมปิดเมือง เต็มเรื่อง

IMDB : tt4572514

คะแนน : 7.4

รับชม : 2634 ครั้ง

เล่น : 1043 ครั้ง



Patriots Day (2016) วินาศกรรมปิดเมือง

หนังเกี่ยวกับอะไร

หนังสร้างจากเรื่องจริงของเหตุวางระเบิดระหว่างงานบอสตันมาราธอน โดยพาไปชมการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถดำเนินการตามจับตัวคนร้ายได้ภายในเวลากี่ไม่วัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูหนัง

แพทริออตส์ เดย์ (Patriots Day) คือวันรำลึกสมรภูมิคอนคอร์ด และเล็กซิงตัน สมรภูมิแรกของสงครามปฏิวัติอเมริกา ซึ่งแพทริออตส์ เดย์ของทุกปีคือวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนเมษายน จะมีการจัดงานบอสตันมาราธอนที่คนทั้งเมืองจะออกมามีส่วนร่วม และยังมีนัดเบสบอลที่ทีม บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์ ทีมเบสบอลประจำเมือง แข่งที่สนามเฟนเวย์ ปาร์ค แต่เมื่อวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2013 เกิดเหตุสองผู้ก่อการร้ายวางระเบิดงานบอสตันมาราธอน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 264 ราย

ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Patriots Day นี้ได้รับแรงบันดาลใจและเค้าโครงเรื่องบางส่วนจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีการแต่งเติมเล็กน้อยคือบทของ ‘ทอมมี่’ (มาร์ก วาห์ลเบิร์ก) ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เดินเรื่อง

สิ่งที่ชอบที่สุดจากหนัง

1. ปีเตอร์ เบิร์ก ถูกเรียกว่าเป็นไมเคิล เบย์สองมาสักระยะแล้ว ด้วยสไตล์งานกำกับหนังผู้ชายแมนๆ แล้วชอบโชว์ระเบิดตูมตามใหญ่โต ซึ่งตอนแรกเราก็แปลกใจว่าทำไมเบิร์กถึงได้กำกับหนังเรื่องนี้ จนกระทั่งได้เห็นฉากระเบิดต่างๆ และบุคลิกของตำรวจในเมืองบอสตันที่ดูจะเข้ากับคำกล่าวที่ว่า ‘เอ็งมาซ่าผิดเมืองแล้ว’ หนังมันต้องใช้คนอย่าง ไมเคิล เบย์ หรือ ปีเตอร์ เบิร์ก ที่จะทำฉากแอ็กชันได้ดุเดือดสมจริงแบบนี้

2. ในฐานะที่เคยติดตามอ่านข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นี้ เราชอบที่ ปีเตอร์ เบิร์ก ซื่อตรงต่อข้อเท็จจริงมากๆ ไปอ่านเบื้องหลังมาก็พบว่าเขาทำเป็นกองถ่ายแบบเปิดต้อนรับประชาชนที่อยากมีส่วนร่วม แล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งในหนังก็ได้ถ่ายในสถานที่เกิดเหตุจริงๆ ด้วย

3. บางมุมที่เราไม่เคยคำนึงถึงก็คือ การเปิดเผยตัวรูปผู้ต้องสงสัยจากเจ้าหน้าที่ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าคนจำนวนมากหวาดระแวงชาวมุสลิม ซึ่งช่วงสองวันแรกของการสืบสวนนั้น ฝั่งพลเรือนก็มีการนำรูปจากกล้องของหลายๆ คนมาลงกันในเน็ตเพื่อจับผิดหาตัวคนร้าย แล้วก็เจอชายสองคนที่สะพายกระเป๋าเดินเข้างาน แต่ขากลับออกไปไม่มีกระเป๋า ในขณะเดียวกันฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีผู้ต้องสงสัยสองคนเหมือนกับที่พลเรือนในเน็ตช่วยกันหา แต่พวกเขายังไม่พร้อมที่จะปล่อยรูปออกไปเพราะสองคนนี้เป็นมุสลิม ถ้าเกิดผิดตัวขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียวในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนแบบนี้

สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดจากหนัง

เสียดายว่าเวลาคนพูดถึงเหตุการณ์นี้ เราจดจำคำว่า ‘Boston Strong’ มากกว่า สำหรับเรามันคือโมเดลตัวอย่างของเมืองที่ออกมาตอบโต้การก่อการร้ายด้วยการแสดงออกถึงความเข้มแข็งจริงๆ ทั้งประชาชนที่ช่วยเจ้าหน้าที่ส่งเบาะแสคนร้าย การให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ และการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ในการตามล่าคนร้ายจนได้ตัวในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่เรายกย่องชาวเมืองบอสตันมากๆ จนอยากเห็นคนหยิบมุมนี้มาเล่าเป็นจริงเป็นจัง หรือให้น้ำหนักความสำคัญมากกว่านี้ แต่ใน Patriots Day โฟกัสไปที่การสืบสวนของฝั่งเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวมากกว่า

แต่ที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่คือ ปีเตอร์ เบิร์ก เป็นคนปั้นดราม่าไม่ขึ้นจริงๆ มีบางฉากที่เราชอบคือฉากตำรวจยืนเฝ้าศพเด็กกลางถนนที่กลายเป็นฉากหนึ่งซึ่งเราชอบมากที่สุดของปีนี้เลย แต่ฉากดราม่าอื่นๆ ในเรื่องมันคล้ายงานก่อนๆ ของเขาที่ปั้นยังไงก็ดูแล้วไม่คล้อยตามไปด้วย ยิ่งตัวละครของ มาร์ก วาห์ลเบิร์ก ถูกใช้เป็นตัวแทนของหลายฝ่ายด้วย ยิ่งทำให้ตัวละครดูขัดตา โดยเฉพาะบทสนทนาที่ตัวหนังคาดว่าต้องคมกริบแน่ๆ แต่ดันเกริ่นขึ้นด้วยเรื่องเป็นหมันแล้วเอาไปเปรียบเทียบยกย่อง Boston Strong

เราเรียนรู้อะไรจากหนัง

เราไม่จำเป็นต้องตอบโต้การก่อการร้ายด้วยการสร้างความเกลียดชังให้เพิ่มขึ้น อย่างที่บอกว่าเราชอบ Boston Strong เพราะมันเป็นการตอบโต้ผู้ก่อการร้ายด้วยการรวมตัวกันให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและช่วยเหลือกันในการตามล่าคนร้ายที่มาซ่ากับเมืองบอสตัน ในมุมหนึ่งมันก็เหมือนเป็นการตอบโต้การก่อการร้ายด้วยความรัก รักที่จะปกป้องพวกพ้องชาวเมืองบอสตันด้วยกัน และพร้อมแสดงความเข้มแข็งเพื่อให้เห็นว่าชาวเมืองไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายแบบนี้

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนัง

มาร์ก วาห์ลเบิร์ก ร่วมงานกับ ปีเตอร์ เบิร์ก เป็นครั้งที่สาม ต่อจาก Lone Survivor (2013) และ Deepwater Horizon (2016) ซึ่งทั้งสามเรื่องที่เขาแสดงนำนั้นล้วนเป็นหนังที่สร้างจากเหตุการณ์จริง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

เพิ่งมาสังเกตว่า ปีเตอร์ เบิร์ก มีแฟนคลับเยอะอยู่เหมือนกัน ใครที่ชอบงานเก่าๆ ของเขาพวก Lone Survivor, The Kingdom (2007) นี่ก็ตามไปดูได้เลยเพราะ Patriots Day น่าจะเป็นงานที่ดูดีที่สุดของเขาแล้วล่ะ รวมถึงถ้าคุณชอบหนังสไตล์ ไมเคิล เบย์ เช่นเรื่อง 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้เลย

ควรชวนใครไปดู

ชวนคนที่ชอบดูหนังแนวตำรวจสืบสวนไปดูกันได้เลย เพราะเรื่องนี้เน้นหนักที่การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษ แถมเป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่สิบปีที่ประชาชนพร้อมใจกันมาปรบมือให้การทำหน้าที่ของตำรวจด้วย

ความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป

หนังจะเริ่มฉาย sneak preview ตั้งแต่ 29 ธันวาคม ถ้าจะให้เห็นภาพลำดับความน่าดูของหนัง คงต้องแบ่งเป็นบังคับดูแบบ La La Land ที่ไม่ว่าธุระจะแน่นขนาดไหนก็ควรปลีกเวลาเพื่อเดินทางไปดู หรือพูดง่ายๆ ว่าต้องวางแผนเคลียร์คิวอื่นๆ เพื่อไปดูเลย

ส่วน Patriots Day ก็อยู่ในระดับที่คุ้มค่าที่จะจ่ายราคาเต็มเหมือน La La Land แต่มันไม่ได้ถึงขั้นต้องวางแผนเดินทางไปดูขนาดนั้น เอาเป็นว่าถ้าผ่านโรงหนังแล้วพอมีเวลาหรือไม่รู้จะดูอะไรดี เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าตั๋วแน่นอน