ดูหนัง Godzilla vs. Destoroyah (1995) ก็อตซิลล่า ถล่ม เดสทรอยย่า ศึกอวสานก็อตซิลล่า เต็มเรื่อง

Godzilla vs. Destoroyah (1995) ก็อตซิลล่า ถล่ม เดสทรอยย่า ศึกอวสานก็อตซิลล่า

ว่าแล้วก็ รีวิวหนังแม่งซะเลย เพราะเชื่อว่าหลายคนที่เผอิญหลงเข้ามาในเพจนี้ คงจะสงสัยว่า ไอ้ตัวบ้าที่กางปีกอยู่นี่ มันเป็นตัวอะไรของมันหว่า แล้วเกี่ยวข้องกับก็อดซิลล่ายังไง วันนี้เราจะมาตีแผ่กันจะๆ

เดสทรอยเยอร์ หรือความจริงถ้าออกเสียงให้ถูก ต้องเป็น เดสทรอยย่าห์!!!!!!!! เป็นสัตว์ประหลาดคู่ต่อสู้ของก็อตซิลล่าในปี 1995 กับภาคที่ชื่อว่า ก็อตซิลล่า ศึกอวสานทลายโลก

โดยความจริงแล้วทางบริษัทโตโฮ ผู้สร้างหนังก็อตซิลล่า ต้องการจะให้เป็นภาคจบ สงสัยคงเพราะมุขเริ่มตันแล้ว ไม่รู้จะให้ก็อตซิลล่ามันไปในทิศทางไหนดี เลยให้แม่งตายๆไปซะจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว แล้วก็โยนความรับผิดชอบไปให้บริษัท Tristar ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปไอ้ม้าเปกาซัสสีขาว เป็นผู้สร้างก็อตซิลล่าตามแบบฉบับของฮอลลีวูดแทน

ทว่า บริษัท Tristar ก็ดันทำให้ชาวโลกผิดหวัง เมื่อดันสร้างก็อตซิลล่าขึ้นมาในรูปแบบใหม่ กลายเป็นอีกัวน่ากลายพันธุ์ ผอมเพรียวเพราะแดกปลาทูน่า และพ่นอะตอมมิคเบรธแบบก็อตซิลล่าญี่ปุ่นไม่ได้อีก มิหนำซ้ำแม่งกระจอกงอกง่อยชิบหาย โดนมิซไซส์จากเครื่องบินยิงไม่กี่ลูกก็ลงไปนอนยิ้มแล้ว 

ผิดกับก็อตซิลล่าญี่ปุ่นที่เดินยืดอกไปให้รถถัง เรือรบ เครื่องบิน และสารพัดยานพาหนะของมนุษย์ยิงอย่างไม่สะทกสะท้าน ทางบริษัทโตโฮเลยเอาก็อตซิลล่ากลับมาสร้างเองใหม่ เป็นก็อตซิลล่ายุคมิลเลเนี่ยม และสุดท้ายก็มาจบที่ Godzilla Final War ซึ่งคราวนี้น่้าจะเป็นภาคสุดท้ายที่ทางบริษัทโตโฮจะสร้างแล้วจริงๆ 

ส่วนก็อตซิลล่าที่กำลังจะกลับมาอีก ในปี 2014 นั้น เป็นการรีบูธใหม่ ไม่เกี่ยวกับภาคไหนๆ ไม่ว่าทางฝั่งญี่ปุ่นหรืออเมริกาทั้งสิ้น แต่อาจจะเป็นกึ่งรีเมคภาคหนึ่งก็เป็นได้

จะรีวิวภาค 1995 ดันออกทะเลไปซะไกล กลับมาเข้าเรื่องของเราดีกว่า ว่าแต่ถึงไหนแล้ววะ?

เอาเป็นว่ามาพูดถึงตอนเริ่มต้นของภาค 1995 ดีกว่า ภาคนี้เป็นภาคต่อจากการที่ Godzilla เพิ่งปะทะกับ Space Godzilla มาหมาดๆ และเดินกลับลงทะเลไป โลกก็สงบสุขขึ้นมาได้พักหนึ่ง ไม่มีร่้องรอยการปรากฏตัวของก็อตซิลล่าหรือลูกมันเลย

ทว่ายัยสาวพลังจิค Miki Saegusa ก็ยังคงนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกสะกดรอยตามหาก็อตซิลล่า และลูกของมันเหมือนเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมิกินั่งเฮลิคอปเตอร์แวะไปดูที่เกาะ Bass ซึ่งเป็นเกาะเดียวกับที่เจ้าลูกตัวจ้อยของก็อตซิลล่า เคยอาศัยอยู่ในภาึคที่แล้ว

ปรากฏว่าเกาะ Bass นั้นถูกทำลายไปแล้ว จะโดนก็อตซิลล่าทำลาย หรือประเทศไหนมันนึกสนุกทดลองนิวเคลียร์ อันนี้ก็จำไม่ได้ซะแล้ว



 

ในขณะเดียวกัน ก็อตซิลล่าก็ไปโผล่ที่ฮ่องกง ในสภาพผิดปกติคือตัวร้อนยังกับเป็นไข้ มีแสงสีแดงวาบๆออกมาจากตัว แถมดูแล้วจะดุร้ายอาละวาดหนักกว่าที่เคยเป็นมา อะตอมมิคเบรธที่พ่นออกมาก็เป็นสีแดง แทนที่จะเป็นสีฟ้าตามปกติ ซึ่งหลังจากนักวิทยาศาสตร์ได้ประชุมกันแล้ว ก็ลงมติว่าก็อตซิลล่ากำลังเข้าสู่ภาวะ Overheat นั่นคือหัวใจของก็อตซิลล่าที่เปรียบเสมือนเตาปฏิกรนิวเคลียร์นั้น เกิดปฏิกิริยาฟิวชั่นขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ และถ้าหากปล่อยเอาไว้ไม่แก้ไข ร่างของก็อตซิลล่าก็จะระเบิด กลายเป็นหายนะที่สามารถทำลายโลกได้ทั้งใบ

     

ระหว่างที่ก็อตซิลล่ากลายเป็นระเบิดเวลาเคลื่อนที่ ก็มีด็อกเตอร์หน้าเชื่องๆคนหนึ่ง ได้รื้อฟื้นโครงการ Micro Oxygen หรือ Oxygen Destroyer ขึ้นมาอีก หลังจากโครงการแรกตายไปพร้อมกับด็อกเตอร์เซริซาว่า ที่ยอมพลีชีพไปกับก็อตซิลล่าตัวแรกเพื่อไม่ให้ความลับเรื่อง Oxygen Destroyer รั่วไหล โดยเกรงว่าจะมีคนนำ Oxygen Destroyer ไปผลิตเป็นอาวุธ

 

ทว่าอีตาด็อกเตอร์คนใหม่กลับไม่คิดอย่างนั้น ซึ่งตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่ามันพัฒนายังไง ให้ Oxygen Destroyer ไม่มีอันตราย จำได้แต่ว่ามันโชว์ปลาในตู้ที่ได้รับ Oxygen Destroyer จะกลายพันธุ์ตัวใหญ่กว่าปลาปกติหลายเท่า (ภาคแรกใส่ลงไป ปลาตายห่าเหลือแต่ก้างยกตู้)

โดยด็อกเตอร์ท่านนี้ก็เชื่อว่า Oxygen Destroyer สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาขาดแคลนอาหารของประชากรโลกได้ ทำนองเดียวกับนิวเคลียร์ที่เอามาผลิตไฟฟ้าก็ได้ เอามาใช้เป็นอาวุธทำลายล้างก็ได้ สุดแท้แต่มนุษย์ว่าจะเอาไปใช้สถานใด

ซึ่งแน่นอน โครงการนี้ย่อมถูกขัดขวางจากหลานสาว ของดร.ยามาเนะ นักบรรพชีวินวิทยาของญี่ปุ่น ซึ่งในภาคนี้คาดว่าคงตายไปแล้ว ส่วนตัวหลานนั้นมีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าว โดยเธอมั่นใจว่า ดร.เซริซาว่า กิ๊กเก่าของแม่เธอมีเหตุผลที่จะปกปิดความลับของ Oxygen Destroyer เอาไว้

(อันนี้ต้องอธิบายเสริมนิดหนึ่ง คือดร.เซริซาว่า ผู้ค้นพบ Oxygen Destroyer ในภาคแรกนั้น แกคบกับลูกสาว ดร.ยามาเนะ อยู่ แต่สุดท้ายต้องพรากจากกันชั่วนิรันดร์ เพราะด็อกเตอร์แกยอมพลีชีพเพื่อให้ความลับของ Oxygen Destroyer ตายไปกับแกด้วย น้ำเน่าสัตว์ๆ) 

สุดท้ายขัดขวางไปขัดขวางมา เลยกลายเป็นจีบกันไปซะงั้น เวรแท้

แต่ยังไม่ทันที่โครงการ Oxygen Destroyer จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ก็ปรากฏว่าเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้นในอุโมงค์ใต้ทะเลซะก่อน ซึ่งด็อกเตอร์รายนี้ก็เชื่อว่า มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เหลือรอดมาจากยุคพรีแคมเบรียน ซึ่งเป็นยุคที่โลกยังไม่มีออกซิเจน และเผอิญไอ้สิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ ดันอาศัยอยู่ในดินก้นทะเล บริเวณเดียวกับที่ก็อตซิลล่าตัวแรกโดน Oxygen Destroyer ทำลายจนม่องเท่งไปเมื่อนานมาแล้ว เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้กลับไม่โดนทำลาย แต่กลับรับ Oxygen Destroyer เข้ามา แล้วเกิดการกลายพันธุ์ขึ้น

และแล้วความเชื่อของด็อกเตอร์ก็เริ่มจะส่อเค้า เมื่อสิ่้งที่ว่านี้โผล่เข้ามาในอะควาเรียม ฆ่าปลาในอะควาเรียมตายห่าไปหลายตัว และการตายของปลาก็คือเหลือแต่ก้าง เหมือนโดน Oxygen Destroyer ไม่มีผิด


    

และเมื่อเอาภาพจากกล้องวงจรปิดไปขยาย ก็พบเจ้าสิ่งมีชีวิตที่ว่านี้



จากนั้นไม่นานความชิบหายก็มาเยือน เมื่อไอ้ตัวบ้าที่ว่านี้ดันกลายพันธุ์ตัวใหญ่ขึ้นอีก จากเดิมตัวเล็กจนมองแทบไม่เห็น ก็ตัวขนาดเท่าวัวเท่าควาย แถมมีหลายสิบตัวอีกต่างหาก




และแล้วมันก็ออกอาละวาด ผลุบๆโผล่ๆออกมาจากดิน ตรงเข้าทำลายสิ่งก่อสร้างจนเสียหาย สุดท้ายรัฐบาลจึงต้องส่งหน่วยรบพิเศษมาปราบ (ความจริงส่งมาให้มันแดกมากกว่า) ณ จุดนี้ใครหลายคนคงนึกถึงหนังเรื่อง Aliens ตอนที่ริบหรี่ เอ้ย ริบลีย์ กับพวกนาวิกโยธินบุกเข้าตรวจค้นฐานร้างบนดาว LB426 เลย เหมือนกันยังกับลอกกันมา ทั้งไอ้เครื่องจับสัญญาณสิ่งมีชีวิตที่เป็นไฟกระพริบๆ ของพวกนาวิกโยธิน แถมไอ้ตัวบ้านี่มีปากยาวๆซ่อนอยู่ชั้นในเหมือนเอเลี่ยนด้วย แต่จะเหนือกว่าหน่อยตรงที่มันพ่น Oxygen Destroyer ได้ด้วย เล่นเอาพวกหน่วยรบพิเศษเหลือแต่กระดูกเลยทีเดียว

ทว่าความซวยก็ยังไม่รู้จักจบสิ้น ขณะที่เหล่ามนุษย์ขี้เหม็นยังไม่รู้จะทำยังไงกับไอ้ตัวยุ่มย่ามที่วิ่งพล่านทั่วเมืองอยู่นั้น ก็อตซิลล่าก็โผล่หัวขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับร่างกายแดงฉาน ทำท่าจะไปเปิดตู้กับข้าวส่วนตัว คือโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อเอาสารกัมมันตภาพรังสีมารับประทาน ดังที่เคยปฏิบัติเป็นกิจวัตร

แต่ครั้งนี้มนุษย์ไม่ยอมโดยดี กลับส่งยาน Super X3 ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อต่อต้านก็อตซิลล่าโดยเฉพาะ หลังจากสองรุ่นที่แล้วพังชิบหายวายวอดด้วยน้ำมือของก็อตซิลล่าไปจนหมดสิ้น




ซึ่งเจ้าเครื่อง Super X3 นี้ มีความพิเศษตรงที่ติดตั้งอาวุธสำหรับแช่แข็งโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้จัดการกับก็อตซิลล่าที่กำลังร้อนจัด เพราะถ้าหากโจมตีด้วยระเบิดธรรมดาทั่วไปก็จะยิ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายของก็อตซิลล่าร้อนขึ้น อันเป็นสาเหตุให้เร่งการระเบิดได้ สุดท้ายเครื่อง Super X3 ก็สามารถแช่แข็งก็อตซิลล่าได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าจะแช่แข็งอยู่ได้เพียง 6 ชั่วโมง เท่านั้น




ระหว่างที่ก็อตซิลล่าโดนแช่แข็ง ทางนักวิทยาศาสตร์นำโดยหนุ่มน้อยหลานชายของ ดร.ยามาเนะ น้องชายของผู้สื่อข่าวหญิง ก็วิเคราะห์ออกมาว่า ก็อตซิลล่าคงจะไม่ระเบิดตัวเอง แต่น่าจะเกิดการ Meltdown นั่นคือละลายไปมากกว่า ซึ่งผลลัพธ์ก็เหี้ยพอกับระเบิดตัวเองนั่นแหละ เพราะการ Meltdown จะปลดปล่อยความร้อนมหาศาล พอที่จะทำให้โลกเป็นรูได้ ไม่แคล้วอวสานโลกอยู่ดี

ในขณะเดียวกัน ทางกองทัพก็ยกกองทหารและรถถังไปจัดการกับไอ้พวกตัวหลายขาที่ยังวิ่งเล่นซ่อนหากันอยู่ในเมือง ผลปรากฏว่านอกจากจะทำอะไรมันไม่ได้แล้ว ยังทำให้พวกมันรวมร่างกัน กลายเป็นตัวใหญ่ซึ่งสามารถแปลงร่างแล้วบินได้อีก




และแน่นอนครับ มันก็เป่ารถถัง กับบรรดาชายชาติทหารทั้งหลายเสียเป็นจุลไปหมด

อีตาด็อกเตอร์คนรื้อฟื้น Oxygen Destroyer ซึ่งยืนสังเกตการณ์อยู่ในที่ปลอดภัย เลยขนานนามมันว่า "จอมทำลายล้าง" หรือ Destroyer


ในขณะเดียวกัน ยัยสาวพลังจิตมิกิ ที่เหมือนจะถูกลืมไปแล้ว ก็พบกับลูกก็อตซิลล่าเข้าจนได้ ทว่าตอนนี้มันโตเป็นหนุ่มแล้ว จึงขนานนามให้มันใหม่ว่า ก็อตซิลล่า จูเนียร์ ซึ่งมีรูปร่างเหมือนก็อตซิลล่าตัวเต็มวัยทุกประการ เพียงแต่ครีบหลังยังไม่ใหญ่ และตัวเล็กกว่าก็อตซิลล่าตัวใหญ่ค่อนข้างมาก




เจ้าจูเนียร์กำลังจะกลับไปยังเกาะที่มันฟักออกจากไข่ในภาค Godzilla VS Megagodzilla เพราะเกาะ Bass ที่มันเคยอยู่ดันถูกทำลายไปแล้ว ทว่าพวกมนุษย์ดันปิ๊งไอเดียเด็ด คือวางแผนว่าหากก็อตซิลล่าออกมาจากสภาวะแช่แข็งแล้ว จะจัดให้มันสู้กับเดสทรอยย่าห์ เลยเอาเจ้าจูเนียร์มาเป็นเหยื่อล่อ โดยให้มิกิ กับสาวพลังจิตจากอเมริกา(แต่หน้าญี่ปุ่นชัดๆ) ร่วมมือกันส่งกระแสจิต ไปดลจิตดลใจให้เจ้าจูเนียร์มันแวะเข้ามาเยี่ยมเมืองแทน ก็พอดีกับเดสทรอยย่าห์บินผ่านมาดูงานแถวนั้นพอดี ทั้งสองจึงเผชิญหน้ากัน

เริ่มแรก เดสทรอยย่าห์ดูจะได้เปรียบ โจมตีจูเนียร์จนหงายท้อง แล้วยังเอาปากเอเลี่ยนของมันแทงอกจูเนียร์ทะลุอีก ทว่าจูเนียร์ก็ต่อสู้สุดกำลัง กลั้นใจพ่นอะตอมมิคเบรธใส่เดสทรอยย่าห์ จนกระเด็นไปนอนจุกไม่กระดุกกระดิกขึ้นมาพักใหญ่

ระหว่างนั้น ก็อตซิลล่าก็ฟื้นคืนสติ แล้วออกเดินทางมาที่เมืองเพื่อตามหาจูเนียร์ ทั้งสองได้พบกัน และทักทายกันตามประสาไดโนเสาร์ ทว่าทันใดนั้น...เสียงระเบิดก็ดังกึกก้องขึ้น จนสั่นสะท้านไปทั่วทั้งเมือง


ท่ามกลางเพลิงบรรลัยกัลป์ที่กำลังลุกไหม้อยู่นั้น ปรากฏเงาปีกขนาดมหึมาของสัตว์ร้ายสูง 120 เมตร รูปร่างของมันราวกับปีศาจในนรก เขาสีส้มอำพันของมันแหลมคม ดวงตาสีเหลืองเรืองรอง ปากอ้าเห็นเขี้ยวแสยะ เสียงร้องของมันแหลมเยือกเย็น มันกางปีกและถลาบินขึ้นบนอากาศ



Destroyah ร่างสุดยอด ปรากฏกายขึ้นแล้ว!!

(เย็ดเข้!! ยังกับเขียนนิยาย)

และแล้วมันก็ไม่รอช้า พุ่งเข้าโจมตีก็อตซิลล่าจนหงายเก๋ง พร้อมกันนั้นก็จับตัวจูเนียร์ไปเล่นกายกรรมหวาดเสียวกลางอากาศ ก่อนจะปล่อยให้ตกลงมาแข้งขาหักอยู่เบื้องล่าง แล้วซ้ำเติมด้วยการพ่นแสงใส่อีก จนจูเนียร์ถึงกับนอนหายใจแผ่วๆ รอความตายอยู่ตรงนั้น

ก็อตซิลล่าผุดลุกขึ้นได้ก็รีบตรงไปหาจูเนียร์ทันที แต่เดสทรอยย่าห์บินลงมายืนขวางไว้ และแล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันอุตหลุด ทั้งพ่นพลังใส่กัน ทั้งเข้าสู่ระยะประชิดมือเปล่า เดสทรอยย่าห์ซึ่งตัวใหญ่กว่า ใช้หางลากคอก็อตซิลล่า พาไปตระเวณน้ำตระเวณบก ก่อนจะโยนโครมไปอัดกับตึก พอก็อตซิลล่าผุดลุกขึ้นมาได้ ก็โดนเขาของเดสทรอยย่าห์ซึ่งคมราวกับไลธ์เซเบอร์ของอัศวินเจได ฟันฉัวะเข้าให้ เล่นเอาเหวอะไปเลยทีเดียว

แต่ก็อตซิลล่าไม่สิ้นฤทธิ์ ทว่ายิ่งทวีพลังขึ้นมาอีก สุดท้ายพี่แกเลยพ่นพลังอัดเดสทรอยย่าห์จนกระอักเลือดออกมาทางปาก ล้มลงนอนวัดพื้นอยู่แถวนั้นนั่นเอง

แทนที่เดสทรอยย่าห์จะตาย มันกลับแยกร่างออกมาเป็นตัวเล็กๆ หลายสิบตัว ตรงเข้ากลุ้มรุมทำร้ายก็อตซิลล่า กว่าก็อตซิลล่าจะต่อสู้ขับไล่พวกมันไปได้ก็เล่นเอาเสียเวลาไปพักหนึ่ง

ก็อตซิลล่าเดินมาถึงร่างอันไร้ลมหายใจของจูเนียร์ มันหายใจเป็นไอกัมมันตรังสีใส่จูเนียร์ เหมือนพยายามจะถ่ายเทพลังให้ ทว่าไร้ผล จูเนียร์ไม่ขยับเขยื้อน ก็อตซิลล่าเงยหน้าขึ้นมา พร้อมส่งเสียงร้อง พ่นอะตอมมิคเบรธไปในอากาศ ร่างของมันส่องแสงวูบวาบ ราวกับหัวใจของมันใกล้จะระเบิดเต็มแก่

สาวนักข่าว หลานของ ดร.ยามาเนะ ที่นั่งเฮลิคอปเตอร์สังเกตการณ์อยู่แถวนั้น จึงสรุปออกมาว่า "ก็อตซิลล่ากำลังร้องไห้"

แต่ยังไม่ทันจะได้ดราม่ากันมากนัก เดสทรอยย่าห์ซึ่งอู้อยู่นานแล้ว ก็กางปีกบินขึ้นมาได้อีก มาต่อสู้กับก็อตซิลล่าที่กำลังแค้นจัด ทว่าหลังจากโดนก็อตซิลล่าเป่าอะตอมมิคเบรธใส่ไม่กี่ที พี่แกก็รู้ตัวว่าสู้พลังโทสะของก็อตซิลล่าไม่ได้แน่แล้ว เลยคิดที่จะบินหนี

ทว่ามนุษย์ขี้เหม็น ที่ชอบเสี้ยมให้สัตว์ยักษ์ตีกัน ก็โผล่เข้ามาเสือก โดยยาน Super X3 และรถเกราะที่ติดปืนใหญ่เลเซอร์พลังความเย็น ก็มาระดมยิงเดสทรอยย่าห์ จนตกจากฟ้าลงมาตายห่าอยู่ที่พื้นในที่สุด

ตรงนี้หลายท่านมีข้อสงสัย ว่าทำไมเดสทรอยย่าห์ซึ่งว่ากันว่าเก่งนักเก่งหนา ถึงได้แพ้ยานพาหนะของพวกมนุษย์ได้

คำตอบตรงนี้ผมลืมเล่าไป คือก่อนหน้านั้น ท่านด็อกเตอร์ผู้รื้อฟื้นโครงการ Oxygen Destroyer ได้หาวิธีที่จะทำลาย Oxygen Destroyer ด้วย ปรากฏว่าการใช้ความเย็นระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็งนั้น สามารถทำลายโมเลกุลของ Oxygen Destroyer ได้

ดังนั้น เจ้าเดสทรอยย่าห์ จึงมีจุดอ่อนที่แพ้ความเย็นจัดนั่นเอง

เรื่องราวต่อจากนั้น ก็คือความร้อนในตัวก็อตซิลล่าสูงจนถึงขั้น Meltdown พวกมนุษย์ขี้เหม็นก็พากันระดมยิงเลเซอร์ทำความเย็นกันยกใหญ่ หวังจะช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการ Meltdown ให้จงได้

ฉากก็อตซิลล่าร้องครวญคราง ขณะที่เนื้อตัวของมันค่อยๆละลายนั้น เป็นฉากที่ดูแล้วเศร้า ดูแล้วทรมานแทนก็อตซิลล่าจริงๆ


ทว่าสุดท้าย โลกก็พ้นจากหายนะ แต่ไม่ได้เป็นเพราะมนุษย์ช่วยกันทำความเย็นหรอก มันเป็นเพราะอะไรนั้น...ขออุบไว้ ไม่บอก





และแล้ว ก็อตซิลล่าภาคอวสาน(ซะเมื่อไหร่) ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ โดยตอนช่วงEnd Credit ก็จะมีฉากของก็อตซิลล่าภาคเก่าๆ ให้เราดูเพิ่มความคิดถึงด้วย

สำหรับผม ก็อตซิลล่าภาคนี้ถือว่าสนุกที่สุดในช่วงยุคเฮย์เซย์เลยก็ว่าได้ และนี่ก็เป็นการแนะนำตัวร้ายสุดโหดอย่าง Destroyah ให้ผงาดขึ้นมาด้วยเช่นกัน

แน่นอนครับ ก็อตซิลล่าตัวแรก ไม่มีอะไรจะฆ่ามันได้ นอกจาก Oxygen Destroyer ก็อตซิลล่าตัวที่สอง แม้ไม่ได้ตายเพราะ Oxygen Destroyer หรือตัวเดสทรอยย่าห์โดยตรง แต่มันก็มาทำหน้าที่ปิดบัญชีให้อย่างงดงาม

และถ้าจะพูดไป ก็อตซิลล่าเป็นสัตว์ประหลาดที่กลายพันธุ์จากระเบิดนิวเคลียร์ เดสทรอยย่าห์ก็เป็นสัตว์ประหลาดที่กลายพันธุ์จาก Oxygen Destroyer ซึ่งเป็นสิ่งที่ใหม่กว่า และ(ว่ากันว่า)อันตรายกว่านิวเคลียร์ นี่จึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างราชันย์แห่งสัตว์ประหลาด กับทรราชที่ผงาดขึ้นแย่งชิงความเป็นใหญ่โดยแท้