ช่วงนี้ทุกท่านคงจะเคยชินกับคำว่า “กักตัว” หรือที่เรียกว่า “Quarantine” ในภาษาอังกฤษ อ้างอิงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบัน ทำให้ผู้เขียนนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมีชื่อว่า Quarantine ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และพูดถึงเนื้อหาบางส่วนในเนื้อเรื่องด้วยเช่นกัน โดยหนังเรื่องนี้สามารถรับชมจาก Netflix ผ่านทางกล่อง Trueid TV
Spoiler Alert ❗ ❗ ❗
Photo by : IMDB
Quarantine เป็นหนังแนวสยองขวัญจากประเทศหรัฐอเมริกา ผลิตขึ้นเมื่อปี 2008 เป็นการนำเนื้อหาภาพยนตร์เรื่อง REC จากประเทศสเปนมาทำใหม่ เนื้อหาของเรื่องเริ่มต้นโดย มีนักข่าวสาวสมัครเล่น (แองเจลลา) และตากล้องหนุ่ม (สก๊อต) เข้าไปทำข่าวคล้าย ๆ กับการเกาะติดชีวิตนักดับเพลิงแบบเรียลลิตี้ ในเมืองลอสแอนเจลิส ทุกอย่างดูราบรื่นดี จนกระทั่งในตอนดึก มีสายด่วนเข้ามาที่สถานีดับเพลิง ให้ไปควบคุมเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง เพราะมีรายงานว่ามีหญิงชราส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอยู่บนชั้น 3 นักดับเพลิงอธิบายให้นักข่าวได้ทราบว่า นักดับเพลิงนอกจากจะมีหน้าที่ป้องกันไฟแล้ว ยังสามารถช่วยปฐมพยาบาลอีกด้วย ดังนั้นแองเจลลา กับ สก๊อต จึงขอติดตามเหล่านักดับเพลิงไปทำข่าวด้วย
สิ่งที่นักผจญเพลิง ตำรวจ รวมไปถึงตัวละครหลักอย่าง แองเจลลา และ สก๊อต ได้เจอในตึกนั้นคือ หญิงชราคนหนึ่งในชุดนอนเปรอะไปด้วยคราบเลือดที่ยืนซ่อนตัวอยู่ในความมืด เธอตัวซีด มีน้ำลายฟูมปาก พูดจาไม่รู้เรื่อง ในขณะที่ทุกคนจะเข้าไปช่วยเหลือเธอ หญิงชราคนนั้นก็ใช้ฟันของเธอกัดไปที่คอของหนึ่งในตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนจึงช่วยกันพยุงผู้บาดเจ็บออกมา หวังว่าจะนำออกจากตึกไปรักษา แต่หารู้ไม่ว่าอพาร์ทเม้นต์แห่งนี้ถูกปิดตายจากภายนอก ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention) ก็ได้ประกาศให้ตึกนี้เป็นเขตกักกันที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถออกจากตึกไปได้ แองเจลลากับสก๊อตจึงตัดสินใจบันทึกทุกอย่างลงในกล้อง
Photo by : Netflix
โชคดีที่มีสัตวแพทย์อาศัยอยู่ภายในตึก เขาจึงช่วยดูแลผู้บาดเจ็บ และสิ่งที่เขาวิเคราะห์ได้จากโรคที่หญิงชรา และตำรวจเป็น อาจคล้ายกับโรค Rabies ที่เกิดขึ้นในกระต่าย คือจะมีอาการน้ำลายฟูมปาก ตัวสั่น และกัดกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า โรคนี้สามารถติดเชื้อโดยการสัมผัสน้ำลาย และการถูกกัด ว่ากันง่าย ๆ คือ โรคนี้คล้าย ๆ กับการกลายเป็นซอมบี้นั่นเอง
ในระหว่างที่ตำรวจนำทุกคนในตึกมารวมตัวกัน ทั้ง ๆ ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ ลูกบ้านแต่ละคนก็เริ่มมีอาการติดเชื้อ และกลายเป็นซอมบี้ คนที่เหลือจึงพยายามหนีเอาชีวิตรอด ก่อนที่ผู้ดูแลอพาร์ทเม้นต์จะเสียชีวิต เขาได้บอกทางหลบหนีให้กับ แองเจลลา สก๊อต และนักดับเพลิงหนึ่งนาย แต่แล้วเมื่อพวกเขาไปเอากุญแจที่ห้องผู้ดูแลก็ได้เจอกับซอมบี้ จึงถูกต้อนให้ไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งนั่นจะเฉลยสาเหตุการแพร่กระจายของโรคระบาดนี้ ว่าเกิดจากการทดลองของนักวิจัยไวรัสวิทยาที่มาจากบอสตัน แถมในห้องแล็บบนหลังคายังมีเซอร์ไพรส์รอพวกเขาอีกด้วย
Photo by : Facebook
หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว คิดว่าเป็นหนังที่ทำออกมาได้น่าตื่นเต้นพอสมควร ตัวละครที่รับบทนักข่าวสาวแสดงได้สมบทบาท จนบางทีอยากให้เธอหยุดกรีดร้องบ้างในบางครั้ง ในภาพรวมเป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจ ควรรับชมในช่วงที่มีไวรัสโควิด 19 ระบาด เพื่อความสมจริงเพราะเนื้อหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่จะทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ ทั้งนี้แม้ว่าเนื้อเรื่องจะง่ายต่อการคาดเดาเป็นบางครั้ง แต่รับรองได้ว่ามีตอนจบที่หักมุมแน่นอนค่ะ
สุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายไว้ว่า Quarantine เป็นภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องด้วยกล้องตัวเดียว โดยมีตากล้องเป็นผู้ดำเนินเรื่อง และส่งผ่านภาพละครออกมาให้เห็น หรือที่เรียกว่าการถ่ายทำแบบ Found Footage หากใครที่ไม่ใช่คอหนังแนวนี้ อาจจะปวดเศียรเวียนเกล้ากับมุม องศา การถ่ายหนังพอสมควร แต่รับประกันความสมจริง ตื่นเต้นแน่นอน เพราะการถ่ายทำแนวนี้เหมือนคุณได้หลุดเข้าไปอยู่กับตัวละครเลยทีเดียว