หมวดหมู่ : หนังแอนนิเมชั่น , หนังแอคชั่น , หนังสยองขวัญ , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi
เรื่องย่อ : ดูหนัง Justice League Dark (2017) จัสติค ลีค ดาร์ค เต็มเรื่อง
กลับมาแล้วกับอนิเมชั่นเรื่องใหม่ล่าสุดของจักรวาล DC Justice League Dark เมื่อโลกถูกภัยที่เกิดจากเวทย์มนต์คุกคาม แบทแมนจึงต้องออกตามหาคอนสแตนตินชายผู้มีพลังเวทย์แรงกล้า ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นติดตามได้ใน Justice League Dark!!!
IMDB : tt2494376
คะแนน : 7.1
รับชม : 3547 ครั้ง
เล่น : 1322 ครั้ง
นับตั้งแต่เปิดจักรวาล DCAU Comic Adaptations (ชื่อนี้ผมเรียกเอง ตั้งเอง) โดยเปิดเรื่องมาตั้งแต่ Justice League War ปี 2014 (ส่วนตัวชอบภาค JL War มาก) นับจากนั้นเราก็ได้เห็นลายเส้นแบบ New52 มาเป็น DC Animation Franchise’s มาตลอด และเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นการหยิบจาก Comic ช่วง New52 มาดัดแปลงเป็น Animation จะมีบางเหตุการณ์บ้าง ที่หยิบมาจาก Pre-New52 ขึ้นมาทำ แต่มันก็ถูกนับรวมเข้าไปว่าเป็นจักรวาลเดียวกัน
สำหรับภาค Apokolips War ภาคปิดจักรวาลนี้ คือสิ่งที่ DC ควรจะทำแนวนี้ตั้งนานแล้ว !! ไม่ใช่มัวแต่ไปหยิบเหตุการณ์ใน Comic Book แล้วเอามาดัดแปลงหากินแต่กับชื่อหัวอีเว้นท์ดัง ๆ ที่ขายได้ดีแบบที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น JL Dark: Apokolips War คือสิ่งทีสดใหม่ แปลกใหม่ เพราะมันโดนสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ได้ถูกดัดแปลงมาจาก Comic ที่ไหนมาก่อน จะมีก็แค่ การหยิบยืมบางอย่างที่มีใน Comic แล้วเอาเข้ามาใส่ เพื่อเล่าเรื่องใหม่
หลาย ๆ คนคงได้ดู JL Dark ปี 2017 กันไปแล้ว ก็อย่างที่หลายๆคนรู้กัน ว่าไอ้คำว่า “Dark” มันก็ Dark แค่ชื่อเนี่ยแหละ เนื้อหาก็จะเป็นพวกคนเล่นเวทย์ เล่นมนต์ดำ กันซะมากกว่า มันถึงเป็นกลุ่ม JL Dark ไม่ใช่ว่าเนื้อหามัน Dark
จนกระทั่ง JL Dark: Apokolips War โผล่มา ตอนแรก ๆ เห็นตัวอย่างแล้วได้กลิ่นตุ ๆ ว่ามันน่าจะห่วย แต่กลับกลายเป็นว่า นี่คือความสดใหม่ของ DC Animation ครับ ดีกว่าที่คิด แล้วมันแหวกออกไปจาก JL Dark (2017) มากกกกกก เพราะภาค Apokolips War 2020 นี้ เต็มไปด้วยความรุนแรง คำหยาบ แต่มันก็ไม่ Dark อยู่ดีอะ มีแต่ เวทมนต์และความแฟนตาซี
เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นที่สนุกและทำได้ดีครับ สิ่งที่จะสื่อก็ดี สิ่งที่จะเล่าดี แต่น่าเสียดายครับ มันสื่อออกมา ไม่ถึงคนดูจริง ๆ ครับ หนังไปไม่สุดสักทาง บางฉากแม่งน่าจะอิน ก็อินด้วยไม่ลง ทุกสิ่งทุกอย่างเล่าเรื่องไวมาก (ถึงมากที่สุด) มาง่ายไปง่าย ด้วยความที่เวลามันจำกัดแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง
แถมภาคนี้ต้องปิดจักรวาล (เพื่อจะไปเปิดจักรวาลใหม่) ระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งนี้ ถูกใช้ได้ไม่คุ้มค่า ถ้าเอาไปเทียบกับ JL War แล้ว การใช้เวลาในทุกๆ 1 นาทีของ JL War เล่าเรื่องได้ลงตัวที่สุดครับ แถมภาค Apokolips War นี้ ตัวละครก็เยอะไปหมด
ประเด็นก็เล่นใหญ่รัชดาลัย มันควรจะยิ่งใหญ่และน่ากลัว แต่กลับสร้างออกมามีแค่ part เดียวจบ นี่ถ้ามันยืดให้ยาวกกว่านี้ ทำออกมาเป็น 2 parts จบ มันคงจะสนุกและลงตัวกว่าครับ
ที่ขัดใจคือฉากจบครับ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ความโหดของ Darkseid ก็ยังห่างไกลกับใน Pre-Flashpoint เยอะโขเลยครับ Darkseid จริง ๆ มันจะต้องเก่ง และโหดกว่าที่เห็นใน Apokolips War เยอะครับ แต่ก็พอเข้าใจแหละ ด้วยเวลาที่จำกัด และไม่อยากสร้างความสับสนให้กับคนดู
เขาถึงต้องเนิฟพลังของตัวละคร Darkseid The New God ลงมาค่อนข้างเยอะ ให้อยู่ในระดับที่พอแตะต้องได้ นับว่าเป็นอนิเมชั่นที่ดูเพลินๆ ไม่ได้มีความนุ่มลึกอะไรเลย ไม่ดาร์ค ดราม่าไม่สุด ไม่มีอะไรไปสุดสักทาง
แต่ถ้าเราพูดถึงหนัง DCAU ลายเส้น New52 ทั้ง Franchise นี้ ผมยกให้เรื่องอะไรดีที่สุด ? ขอตอบว่า The Death Of Superman (2018) ดีที่สุดในแฟรนไชส์นี้ครับ ส่วนเรื่องที่สามารถใช้เวลาเล่าเรื่องได้คุ้มที่สุด ลงตัวที่สุดยกให้ JL War (2014) ครับ
แต่มันก็ไม่ได้แย่แค่มันไม่ถึงกับที่สุด อนิเมชั่นเรื่องนี้ยังมีความเพลิน ความสนุก และความกล้าของ DC ที่จะแต่งเติมเนื้อเรื่อง และใช้ตัวละครหลาย ๆ ตัว มันเป็นอนิเมชั่นที่จัดว่าดีอีกเรื่องนึงเลยครับ ตอนนี้เปิดขายแล้วใน iTunes Store ลองค้นหา "Justice League Dark: Apokolips War" จะขึ้นมาให้ซื้อกันครับ
สำหรับอนิเมชั่นเรื่องนี้ขอให้คะแนนที่ 8/10 ครับ