หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง Mahalai sayongkwan (2009) มหาลัยสยองขวัญ เต็มเรื่อง
มหาลัยสยองขวัญ หมวย นักศึกษาสาว ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมในการฝึกงานโดยตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามากรุงเทพและทำงานกับมูลนิธิกู้ภัย กลับต้องเจอเรื่องผวาสั่นประสาทตั้งแต่คืนแรกในการปฏิบัติงาน เมื่อเธอได้รับแจ้งเหตุให้ไปในมหา’ลัยแห่งหนึ่ง เมื่อหนุ่มสาวสุดซ่าอยากลองดีกับศาลในตำนานที่ไม่มีใครกล้าหือ จนเกิดเรื่องราวไม่คาดฝัน เพราะนั่นคือศาลในห้องน้ำหญิงที่ได้รับการดูแลอย่างดีแต่ไม่มีใครย่างกรายเข้าใกล้ เพราะในห้องน้ำมีศาลตั้งอยู่ บางคนว่าเป็นศาลนางไม้ บางคนว่าเป็นศาลของนักศึกษาหญิงที่ผูกคอตาย.... ในคืนนั้นเองหมวยยังมีโอกาสช่วย นกน้อย นักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่ถูกรุ่นพี่เหม็นขี้หน้า ข้อหาไม่ยอมทำตามคำสั่ง เลยถูกกลั่นแกล้งให้ไปติดอยู่ในลิฟท์สุดเฮี้ยนเพียงลำพัง ลิฟท์ที่มีนักศึกษาถูกยิงกราดก็ไม่สามารถล้างคราบเลือดสีแดงออกได้ จึงต้องทาสีทั้งลิฟท์เป็นสีแดงทั้งหมด มักมีคนได้ยินเสียงเคาะจากในลิฟท์ แต่เมื่อลิฟท์เปิดกลับไม่พบใครอยู่ บางครั้งเมื่อเข้าลิฟท์คนเดียวไม่นานก็พบว่ามีคนมากมายมายืนเป็นเพื่อนด้วย…. เพียงวันถัดไปเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อ ทีมกู้ภัยของหมวยจำเป็นต้องส่งศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายแล้วถูกโยนศพลงน้ำ ไปที่ร.พที่ใกล้ที่สุด นักศึกษาแพทย์ที่ฝันอยากจะเป็นทันตแพทย์มือหนึ่งที่กลัวผีจนขึ้นสมองถูกอาจารย์มอบหมายให้มาเฝ้าห้องดับจิต และคืนนั้นเขาจะต้องเฝ้าศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณเพียงคนเดียว.... เรื่องราวสุดผวายังคงวนเวียนอยู่กับหมวย แต่คราวนี้มันกลับพุ่งเป้ามาที่คนใกล้ตัวของเธอ นั่นคือสา ซึ่งอยู่ในหอพักที่มีเรื่องเล่าสุดสยองของผีสาวรักเพื่อน ซึ่งทำให้หมวยได้พบกับความจริงที่เกิดขึ้น ความจริง...ที่เธอมิอาจลืม
IMDB : tt1743701
คะแนน : 5.7
รับชม : 1336 ครั้ง
เล่น : 525 ครั้ง
มารยาทในการทำหนัง Base on true story
แน่นอนว่า ถ้าภาพยนตร์เรื่องไหนที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง หรือ base on true story นั้น
เป็นเรื่องที่น่าหนักใจของผู้สร้างทุกคน เพราะความที่มาจากเรื่องจริง
มันอ่อนไหว และส่งผลกระทบต่อหลายฝ่าย
จะว่าไป ตำนานสี่ตำนานที่หนังหยิบมาพูด
บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เล่าขานต่อกันมา อาจจะไม่ใช่ true story ก็ได้
แต่ก็นับว่า เรื่องราวของแต่ละตำนานนั้น ก็มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยบางแห่งพ่วงติดไปด้วย
ประเด็นที่เราเอาเรื่องนี้มาพูด
ไม่ใช่เพราะหนังเรื่องนี้ สร้างมาไม่ดี ไม่เหมือน ไม่โดน
หรือบิดพริ้่วจากตำนานที่เล่าขานต่อกันมาของสถาบันการศึกษาหลายๆแห่งอย่างที่มีกระทู้ตั้งขึ้นมากมายถึงความผิดหวังที่ตั้งเอาไว้ กับภาพยนตร์เรื่องนี้
แต่เป็นเรื่องของการให้เกียรติกับสถาบันที่คุณเอามาเกี่ยวข้อง
ถึงแม้คุณจะไม่พูดออกมาตรงๆว่าสถาบันไหน
แน่นอนว่า ประชาชนคนไทย ที่ไปดู ต่างก็รู้ เพราะมันไม่ยากเกินที่จะคาดเดา
เรื่องแรก ห้องน้ำหญิงชั้น5 ขึ้นโพสเป็นซับไตเติ้ล ชัดเจนว่า "ลาดกระบัง"
ตัวละครหลัก เป็นนักศึกษาชายหญิงที่พัวพันกับการขายยา
แถมยังเอายามาซ่อนในมหาวิทยาลัยอีกด้วย
หากการโปรโมท ไม่อ้างอิงว่ามาจากตำนานจริงของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
ทั้งหมด เป็นเรื่องสมมติ หรือเป็นเรื่องแต่งขึ้น ความรู้สึกของคนดูคงจะดีกว่านี้
เรื่องที่สอง ลิฟท์แดง ถึงแม้จะไม่มีการพูดชื่อมหาวิทยาลัย
แต่ในตัวหนัง มีหลายฉากที่ทำให้เห็นป้ายบ่งบอกชื่อ ย่อสถาบัน ชื่อ คณะ
เรื่องนี้ ใครๆก็รู้ว่า อ้างอิงจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
แต่ประวัติศาสตร์ที่หนังเรื่องนี้แสดงออกมา ช่างแตกต่างและน่าผิดหวังมากๆ
เรื่องที่สาม เรื่องราวของศพหายในห้องดับจิต
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดูแล้วผ่อนคลายที่สุดในทั้งสี่เรื่อง
ถึงแม้นักศึกษาแพทย์ตัวละครหลัก จะได้รับบทให้เป็นตัวตลกของเรื่องมากกว่าผู้ถ่ายทอดตำนานก็ตาม
เรื่องสุดท้าย ตำนานนี้ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังทางเชียงใหม่
ถ้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็จะคิดว่า เป็นเรื่องราวของหอพักหญิงทั่วไป
หรือเรื่องราวของหญิงสาวนักแชทที่วันนึงเจอโรคจิตตามฆ่า
ไม่มีความรู้สึกถึงเรื่องราวของผีในมหาวิทยาลัยอย่างที่โปรโมทเลย
ทั้งเรื่องราวยังหลง ออกทะเล กลายเป็นหนังโรคจิต
จับประเด็นที่นักศีกษาโดนข่มขืนมาเป็นจุดขายซะอย่างนั้น
แล้วขยายออกเป็น ถูกข่มขืนอย่างไร โดยใคร
ทั้งที่จุดเด่นที่ควรนำมาขยายความของเรื่องนี้ คือ มิตรภาพและความผูกพันของเพื่อน
หรือจะเป็นความน่าสะพรึงกลัวของการกลับมาของวิญญาณ
ซึ่งมันก็มีนั่นแหละ เพราะไม่มีไม่ได้ แต่มันมีไม่พอ
จุดอ่อนของเรื่องนี้ คือ บทภาพยนตร์
เข้าใจความตั้งใจว่าอยากจะพยายามผูกเรื่องราวตำนานทั้งสี่ให้เป็นเรื่องราวที่ไหลลื่นเรียงต่อกัน
และต้องการให้มันมีหลายรสชาติหลายอารมณ์ ทั้งลุ้นระทึก สยอง และ ตลก
การที่จะทำให้ทุกรสชาติลงตัวเข้ากันได้ดีเป็นเรื่องยาก
บทภาพยนตร์ที่ออกมาเลยดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่นัก
เพราะความที่มันเป็นตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมานาน
จนเหมือนคุณกำลังสร้างหนังที่เป็น Base on true story เข้าแล้วจริงๆ
แต่คุณ บิดนั่นนิด นี่หน่อย เสริมนั่น ลดโน่น
ตำนานที่มีเสน่ห์ในตัว เลยลดความน่าสนใจและเร้าระทึกใจคนดูหรือคนฟังลงอย่างน่าใจหาย
ยิ่งนำเสนอตัวละครหรือเรื่องราวที่อ้างอิงสถาบันของแต่ละที่ออกมาในแง่ลบ หรือในแง่ตัวตลก เข้าไปอีก
คนดูที่เป็นศิษย์เก่าของสถาบันนั้นๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้รอชมส่วนใหญ่ที่อยากเข้าไปดูเรื่องราวตำนานของสถาบันตัวเอง
เมื่อได้รับชมแล้วจะเกิดข้อกังขาว่า ทำไมนำเสนอแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ให้เกียรติกันบ้างเลยล่ะ
พล๊อตเรื่องคุณก็มีแล้ว ชื่อเสียงของตำนานก็ช่วยหนังคุณโปรโมทในตัวไปเยอะแล้ว
แค่จับมานำเสนอให้มันดีแล้วให้เกียรติที่มาของตำนานบ้าง
จะทำให้กันไม่ได้เชียวหรือ?????