ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า

เรื่องย่อ : ดูหนัง Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก เต็มเรื่อง

 

  อดีตนักซ่อมจักรยาน ชาร์ลส โฮวอร์ด (เจฟ บริดเจตส์) ในอดีตเขาเคยร่ำรวยจากการผลิตรถยนต์ในแถบอเมริกาตะวันตก ตอนนี้เขาเป็นเจ้าของม้าตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่ชื่อ ซีบิสกิต โฮวอร์ด ได้มาร่วมทีมกับอดีตนักมวยที่สูญเสียการมองเห็นไปข้างหนึ่งชื่อ เร้ด โพลลาร์ด (โทบี้ แม็กไกวร์) ซึ่งกลายมาเป็นนักแข่งม้ามืออาชีพ และอีกคนคือ อดีตผู้ทำลายสถิติการแข่งม้าในไวด์เวสต์ ฉายา เดอะ โลน เพลนสแมน ชื่อ ทอม สมิธ (คริส คูเปอร์) ที่มาเป็นครูฝึกม้าให้

          ณ ช่วงเวลานั้น ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับเศรษฐกิจตกสะเก็ด แต่ผู้คนทั่วประเทศก็ให้ความสนใจ คอยติดตามเรื่องราวของพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งในที่สุด ชัยชนะของซีบิสกิต ก็ทำให้มันได้รับการยกย่องให้เป็นม้าแห่งปี ค.ศ 1938

IMDB : tt0329575

คะแนน : 7.3

รับชม : 4263 ครั้ง

เล่น : 1712 ครั้ง



Seabiscuit (2003) ม้าพิชิตโลก

เวลาที่เรากำลังท้อแท้กับเรื่องอะไรสักอย่าง บางครั้งการได้ดูหนังแนวให้กำลังใจชีวิตที่สร้างจากเรื่องจริงมันก็ช่วยปลุกความหวังและกลบความท้อแท้ของเราไปได้ในช่วงขณะหนึ่ง คุณค่าเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ก็มีดีพอจะให้คุณหยิบหนังดี ๆ สักเรื่องเช่น Seabiscuit มาชมกันครับ


ชื่อหนัง Seabiscuit มาจากชื่อม้าแข่งชื่อดังแห่งยุค 1930 ซึ่งเป็นม้าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตำนานของสหรัฐอเมริกา มันคือม้าที่เป็น 'ความหวัง' ของผู้คนในยุคนั้น ม้าตัวเล็กมีตำหนิดูลักษณะแล้วไม่มีใครอยากฝึกสำหรับแข่ง ถูกเลี้ยงให้รู้จักแพ้, ถูกฝึกให้เป็นคู่แข่งของม้าที่จะใช้แข่งจริง แต่มันกลับกลายเป็นม้าที่ชนะแทบจะทุกสนามแข่งในยุคนั้น ที่สำคัญกว่านั้นมันถูกซื้อมาฝึกลงแข่งโดยคนที่มีลักษณะไม่ต่างจากตัวมันเลยคือเป็น ไอ้ขี้แพ้สิ้นหวังกำลังดิ้นรนหา 'โอกาส' ที่จะมีที่ยืนเหมือนเช่นคนอื่น ๆ ดังนั้นทั้งม้าและคนกลุ่มนี้จึงได้รวมตัวรักษาแผลซึ่งกันและกันก่อนจะร่วมกันสร้างความสำเร็จและแรงบันดาลใจให้ผู้คนอีกมากมาย


ก่อนจะพูดถึงตัว "story" ของ Seabiscuit ผมคงต้องขอพูดถึงภาพรวมด้านต่าง ๆ ของหนังก่อนสักนิด หนังเปิดตัวด้วยการพยายามปูพื้นตัวละครหลักทั้ง 3 คน ได้แก่ 'ชาร์ลส์' (Jeff Bridges) อดีตช่างประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ในโรงงาน เขาโดนไล่ออกก่อนจะที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจผลิตรถยนต์ ชีวิตเขาเหมือนจะไปได้ด้วยดีจนกระทั่งเขาสูญเสียลูกชาย, 'ทอม สมิธ' (Chris Cooper) ครูฝึกม้ามากความสามารถแต่ไม่มีงานทำ, 'เรด พอลลาร์ด' (Tobey Maguire) จ๊อกกี้ม้าที่ถูกครอบครัวทิ้งให้ไปอยู่กับคอกม้าตั้งแต่วัยรุ่น เร่ร่อนหางานหาเงินจนกระทั่งตาสูญเสียการมองเห็นหนึ่งข้าง ปัญหาของหนังที่จะตีโจทย์การปูพื้นตัวละครถือว่ายากพอสมควร เพราะประเด็นของหนังที่อยู่เรื่องราวของม้าแข่ง Seabiscuit แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องปูพื้นให้เห็นถึงอดีตของแต่ละตัวละคร เพราะไม่เช่นนั้นแล้วมันจะไม่สามารถสร้างจุดพีคในช่วงท้าย ดังนั้นการที่ช่วงต้นของหนังพยายามเร่งรัดให้เห็นถึงทั้งสามตัวละครคร่าว ๆ แม้จะลงน้ำหนักไม่มากและเป็นการบอกเล่าแบบผ่าน ๆ แต่มันก็ช่วยให้ภาพรวมของหนังมีน้ำหนักที่น่าสนใจขึ้นมา

ช่วงที่หนังพาเราไปรู้จัก Seabiscuit จึงถือว่าเริ่มเข้าสู่เรื่องราวของหนังเต็มตัว ผู้กำกับลงมือเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเองทำให้ผมต้องให้เครดิตกับเขาไปเต็ม ๆ เขาทำได้ดีทั้งการกำกับและการเขียนบทเลยครับ ทั้งวิธีการที่เขาเลือกจะใช้เล่าเรื่องในหลายฉาก ๆ ด้วยภาพเพียงอย่างเดียว การให้ความสำคัญกับ 'ระหว่างทาง' มากกว่า 'เส้นชัย' การสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูในฉากแข่งม้าและฉากสร้างพลังใจทั้งหลาย เป็นหนังที่สามารถดึงผมให้มีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ของ Seabiscuit เกือบตลอดทั้ง 140 นาที (ช่วงต้นเรื่องที่พยายามปูพื้นตัวละครค่อนข้างรู้สึกรวบรัดเกินไป แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในหนัง)

จุดเด่นที่ต้องชมงานชิ้นนี้คือการให้ความสำคัญกับระหว่างทางของม้าตัวนี้ก่อนจะประสบความสำเร็จ เราจะได้เห็นทั้งม้าทั้งคนต่างล้มลุกคลุกคลานเจอปัญหาและกำลังมองหาโอกาสเพื่อจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น ผู้คนในยุคนั้นต่างก็ต้องเจอกับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ และเจ้าม้า Seabiscuit ก็เหมือนตัวปลุกความหวังในตัวพวกเขาให้ลุกขึ้นสู้, ให้ทำตามความฝัน, สร้างความฮึกเหิมในใจให้ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาและปัญหาที่รุมเร้า
.
แม้คุณจะรู้ปลายทางแล้วผมก็ยังแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้อยู่ดีครับ เพราะความสำคัญของมันอยู่ที่เรื่องราวระหว่างทางของม้าตัวนี้ ซึ่งจะเป็นยังไงอันนี้ผมแนะนำให้ลองหาอ่านหนังสือหรือดูหนังกันเองนะครับ

บางครั้งคนเราก็ต้องการแรงบันดาลใจเพื่อจะต่อพลังชีวิต ผมไม่อยากให้คุณเสียโอกาสที่จะปลุกพลังใจคุณ ดังนั้นลองหาเรื่องราวของ Seabiscuit มาชมกันนะครับ แล้วคุณอาจจะพบว่ามันมีค่ามากกว่าเป็นแค่หนังหนึ่งเรื่อง