หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังแอคชั่น
เรื่องย่อ : ดูหนัง The Fighter (2010) แกร่งหัวใจเกินร้อย เต็มเรื่อง
IMDB : tt0964517
คะแนน : 7.8
รับชม : 4924 ครั้ง
เล่น : 2063 ครั้ง
เรื่องราวของการนำชีวประวัติของบุคคลดังๆมาทำเป็นภาพยนตร์คงไม่จางไปจากฮอลลีวู๊ดแน่นอนและยิ่งป็นแนวหนังที่ถูกกับโฉลกกับออสก้าร์ด้วยแล้วคงได้ดูอีกนานเท่านาน The Fighter คือเรื่องราวที่อ้างอิงจากชีวิตจริงของนักมวยอาชีพที่ชื่อว่า มิคกี้ วอร์ด ชื่อเสียงของนักมวยรายนี้ไม่เพียงแต่ฝีมือในระดับแชมป์เปี้ยนเท่านั้นแต่หลายๆครั้งของการชกยังถูกยกย่องเป็นการชกแห่งศตวรรษเลยทีเดียว ด้วยสไตล์การชกที่เรียกว่า “ไฟท์เตอร์” (Fighter) หรือชกแบบบู๊ เดินหน้าชกใส่กันแบบไม่กลัวเจ็บ สไตล์แบบนี้ย่อมเป็นที่ถูกใจผู้ชมมากกว่ามวยที่ใช้จังหวะฝีมือหรือที่เรียกกันว่า “บ็อกเซอร์” (Boxer) แต่เหนืออื่นใดมิคกี้ วอร์ด ไม่ได้นักมวยที่ใช้สไตล์ “ไฟท์เตอร์” ในสังเวียนผ้าใบเพียงเท่านั้น สังเวียนชีวิตเขาก็คือหนึ่งในนักสู้ที่สู้ไม่ถอยแม้จะตกต่ำเพียงใดและนี่เองที่เป็นความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง The Fighter เพราะนอกจากเป็นอีกตัวอย่างของแรงบันดาลใจในรูปแบบอเมริกันฮีโร่แล้วแต่นี่คือฮีโร่ที่เกิดขึ้นจริงแบบที่มวลชนข้างถนนถวิลหาเพียงแต่ของเพียงมีหัวใจที่สู้ที่ไม่ยอมแพ้ก็ไม่ยากที่จะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายไปได้
The Fighter แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่อิงเรื่องราวของ มิคกี้ วอร์ด(ที่แสดงโดยมาร์ค วอลเบิร์ก)เป็นหลักแต่ในบรรดาเรื่องรองก็ยังมีเรื่องราวของนักสู้ชีวิตอีกคนและบางทีอาจจะมีสีสันมากกว่าบทหลักด้วยซ้ำนั่นคือ บทของดิกกี้ เอ็คลันด์(ที่แสดงโดยคริสเตียน เบล) พี่ชายต่างบิดาที่เป็นเป็นทั้งแรงบันดาลใจและเทรนเนอร์คู่ใจของของมิคกี้ เจ้าของฉายา “ความภูมิใจแห่งโลเวล” (Pride of Lowell) ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยชกตำนานมวยโลกอย่างซูการ์เรย์ เลียวนาร์ด ล้มลงไปให้กรรมการนับ จนเหตุการณ์นั้นกลายเป็นดาบสองคมที่ทิ่งแทงดิคกี้ทั้งในอาชีพการชกมวยและการดำเนินชีวิตที่ผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น เพราะมันกลายเป็นที่หลอกหลอนดิคกี้ว่าตนเองคือนักมวยที่ยิ่งใหญ่ในขณะเดียวกันก็หลงเข้าไปสู่วังวนของยาเสพติดจนยากจะถอนตัว การแสดงของคริสเตียน เบล ที่ทั้งลดหุ่นจากมหาเศรษฐีบรู๊ซ เวห์น ในดาร์คไนท์มาเป็นอดีตนักมวยขี้ยาและบทชีวิตหนักๆย่อมทำให้ตลอดทั้งเรื่องขโมยความโดดเด่นไปเกือบหมด ไม่ใช่บทของมาร์ค วอลเบิร์กจะไม่เด่นแต่บุคลิกที่ค่อนข้างเงียบและเคารพแม่และพี่ชายจึงดูสงบนิ่งเมื่อเทียบกับบทของเบลไปทันที
ภาพยนตร์เริ่มต้นที่ดูเหมือนจะมีความสุข เมื่อนักมวย 2 พี่น้อง วิ่งผ่านเมืองเพื่อจะเข้าไปซ้อมมวย โดย มิคกี้ วอร์ดจะมีคิวชกในอีกไม่กี่วัน ในขณะที่ดิคกี้ มีทีวีช่อง HBO ตามถ่ายทำเพื่อใช้เป็นสารคดีโดยดิคกี้เชื่อว่าเป็นการถ่ายทำสารคดีชีวประวัติของเขา แต่หลังจากนั้นก็สะท้อนให้เห็นปัญหาของครอบครัวนี้ แม่ที่พยามจะเป็นผู้จัดการทุกอย่างในชีวิตของลูก ดิคกี้ที่ติดยาเสพติดจนทำให้มีปัญหาในการมาคุมซ้อมให้น้องชาย และจุดต่ำสุดก็มาถึงเมื่อวอร์ดแพ้ในการชกที่เขาและครอบครัวต่างคุยให้เพื่อนบ้านฟังว่าจะนำชัยชนะกลับมา รวมทั้งดิคกี้ก็เจอสถานการณ์ที่ต้องเข้าคุกด้วยข้อหามากมาย แม้ว่าภาพยนตร์จะเป็นเรื่องราวของพี่น้องนักมวย 2 คน มิคกี้ วอร์ด กับ ดิคกี้ เอ็กลันด์แต่ภาพยนตร์ก็มุ่งไปสู่ความสัมพันธ์ของพี่กับน้อง ลูกกับแม่ ความรักของชายกับหญิง ที่ทุกความสัมพันธ์ต้องผ่านการทดสอบโดยเฉพาะเมื่อยามตกต่ำ ยามหมดหวัง และท้อถอย มีเพียงกำลังใจจากความสัมพันธ์เหล่านี้ที่หล่อหลอมเป็นคำว่า “ครอบครัว” ที่จะขจัดความตกต่ำให้ผ่านพ้นไป แต่เหนืออื่นใด กำลังจากที่ต้องเริ่มจากตัวเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเวทีไหน เวทีมวย เวทีความรักหรือเวทีชีวิต เมื่อล้มก็ต้องพร้อมที่จะลุกขึ้นเสมอ โอกาสหรือความหวังใหม่ๆถึงจะมาหา และ มิคกี้ วอร์ด ก็ไม่ใช่ คนในนิยายที่จะทำให้คนดูเพียงเพ้อฝัน แต่เขามีตัวตนในชีวิตจริงและเรื่องราวก็นำมาจากชีวิตจริง การประสบความสำเร็จของวอร์ด เป็นสิ่งพิสูจน์ว่า ความพยามยามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอีกมากมาย