ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Gothika โกติก้า พลังพยาบาท 2003 เต็มเรื่อง

ดูหนัง Gothika โกติก้า พลังพยาบาท 2003 เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Gothika โกติก้า พลังพยาบาท 2003 เต็มเรื่อง

ดูหนัง Gothika โกติก้า พลังพยาบาท 2003 เต็มเรื่อง

 

เรื่องย่อ มิแรนด้า เกรย์ จิตแพทย์สาวผู้ปราดเปรื่อง มีหน้าที่คอยดูแลนักโทษหญิงที่มีปัญหาทางจิต โดยใช้หลักเหตุผล และตรรกในการทำงาน เธอมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความก้าวหน้าในอาชีพ และมีชีวิตที่สงบสุข แม้ต้องเจอกับนักโทษที่มีสภาพจิตไม่ปกติอยู่ทุกวัน แต่เหตุการณ์ในคืนฝนตกหนัก ที่ทำให้เธอได้พบกับเด็กสาวปริศนา ผู้มาพร้อมกับความสยองของพลังพยาบาท และปริศนาที่ยากจะคาดเดา เมื่อตื่นขึ้นมา มิแรนด้า กลับพบว่า เธอกลายเป็นคนใข้ในโรงพยาบาลโรตจิตที่เธอทำงานอยู่ และเกิดเหตุฆาตกรรมสุดสยองขึ้นกับสามีของตัวเอง! หลักฐานจากรอยคราบเลือดที่หลงเหลืออยู่ บ่งชี้ว่าเธอคือฆาตกร ทั้งๆ ที่เธอเองจำเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย!! เหตุการณ์นั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตของเธอ ...ให้ตกอยู่ในฝันร้ายที่ยากจะหลุดพ้น!

IMDB : tt0348836

คะแนน : 5.8

รับชม : 622 ครั้ง

เล่น : 202 ครั้ง




gothika

วันนี้เปิดๆ นึกดูรายชื่อหนังเก่าๆ นึกไปว่าเขียนอะไรดีเพราะไม่ได้เขียนถึงหนังมาพักใหญ่ๆ ก็ไปเจอเรื่องนี้เข้าพอดี ก็เอาซะหน่อยละครับ

นี่ก็เป็นผลงานลำดับที่ 4 ของบริษัท Dark Castle Entertainment ที่ก่อตั้งโดย Joel Silver, Robert Zemeckis แล้วก็ Gilbert Adler จุดประสงค์ของการตั้งบริษัทนี้ก็คือ เพื่อสร้างหนังสยองขวัญออกมาสั่นประสาทคนดู (หรือเป้าหมายหลักก็โกยเงินนั่นเองล่ะครับ) ปีละหนึ่งเรื่อง ซึ่งตอนแรกผลงานของพวกเขาก็พอจะเรียกได้ว่าโอเคล่ะครับ อย่าง House on Haunted Hill กับ Thir13en Ghosts น่ะพอจะรับได้ แต่งานหลังจากนั้นมาเข้าค่ายสาละวันเตี้ยลงแทบทั้งสิ้น จนทำให้ปี 2006 ที่ผ่านมานี่ไม่มีงานออกมาจากค่ายนี้เลยครับ ไม่รู้หลบไปตั้งหลักหรือเปล่า แล้วพี่ Gilbert Adler หนึ่งในผู้ก่อตั้งก็ลี้ไปอำนวยการสร้างหนังอื่นๆ อย่าง Superman Returns แทน

สงสัยพี่แกคงจะเห็นแววไม่ดีล่ะมั้งครับ

สำหรับ Gothika นี่ก็ว่าด้วยเรื่องผีๆ อีกแล้วครับ เมื่อนางเอกของเรื่อง มิแรนด้า เกรย์ (Halle Berry) จิตแพทย์สาวผู้มีหน้าที่การงานดี มีสามีแสนดีอย่างดร.ดักลาส (Charles S. Dutton) ทุกอย่างในชีวิตดุเหมือนจะสวยงาม จนกระทั่งคืนหนึ่งเธอขับรถไปเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเข้า อันส่งผลให้เธอช็อคและสลบไปไม่รู้ตัวอีกเลย

พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองโดนจับเข้าห้องคนไข้ในโรงพยาบาลบ้าเรียบร้อย แล้วยังโดนตั้งข้อหาว่าฆ่าสามีตัวเองอีกต่างหาก

เธอมั่นใจครับ ว่าไม่ได้ทำ แต่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ คืนที่เธอสลบไปนั้นมันเกิดอะไรขึ้น สาวน้อยลึกลับที่เธอเจอระหว่างขับรถกลับบ้านนั้นมีส่วนอะไรกับเรื่องนี้หรือไม่ และเธอจะรอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องหาได้อย่างไร คำตอบอยู่ในหนังนะครับ

ที่ผมบอกเอาไว้ว่า ผลงานของ Dark Castle สาละวันเตี้ยลงนั้น เริ่มตั้งแต่ Ghost Ship (ที่เพื่อนๆ ผมหลายคนเติมคำว่า หาย หลังชื่อหนังไปด้วย) ตามด้วย Gothika เรื่องนี้ ก่อนจะเงียบสุดๆ ไปกับ House of Wax ที่โดนเล่นไปหนักเหมือนกัน

สาเหตุประการสำคัญก็น่าจะมากจาก ความน่ากลัว ความสดแบบสมัยที่มีในหนังเรื่องแรกๆ ของค่ายนี้เริ่มหายครับ แนวทางมันเริ่มย่ำของเดิม แล้วความน่ากลัวก็ไม่มากมายอีกด้วย

อย่างเรื่องนี้ สไตล์และจังหวะมันก็แทบไม่ต่างจากหนังเกรดบีน่ะครับ ความสยองและจังหวะต่างๆ ออกมาเดาได้ไม่ยาก แล้วยิ่งกว่านั้นคือเนื้อเรื่องที่ดูเหมือนจะมีอะไร พอเอาเข้าจริงก็เหมือนไปก็อปเขามาอีกทีมากกว่า

อันนี้อาจเป็นทุกข์ประการหนึ่งของคนดูหนังนะครับ คือดูมาเยอะเลยเดาได้เยอะ แต่ถ้าท่านไม่เคยดู ไม่ค่อยชินกับหนังแนวนี้มาก่อนก็อาจจะพอสนุกได้

ก็บอกได้สั้นๆ ล่ะครับว่าถ้าท่านเคยดูหนังอย่าง What Lies Beneath มาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องดูหนังเรื่องนี้ เพราะแนวทางการสรุปเรื่องก็ไม่ต่างกันหรอก มิหนำซ้ำเรื่องก่อนที่ว่านั่นยังทำออกมาได้มีระดับและสนุกกว่ากันเยอะ

ถ้าพูดถึงเรื่องความสยอง น่ากลัวแล้วล่ะก็ ต้องบอกกว่าน้อยครับ ไม่ค่อยมีอะไรนัก การตามปมก็เรื่อยๆ ฉากที่เข้าท่าจริงๆ มีแค่ตอนที่มิแรนด้าไปค้นข้อมูลเจอในเน็ตแค่นั้นเอง ฉากนั้นแหละที่พอไหว กับอีกฉากหนึ่งก็คือตอนที่เธอเห็นอะไรก็ไม่รู้อยู่ในห้องโคลอี้ (Penélope Cruz) คนไข้หญิงที่อยู่ในการดูแลของเธอ สองฉากที่ว่านี่แหละที่พอจะบอกได้ว่าสยอง น่าดู

แต่นอกนั้น ถ้าไม่ใช่คุ้นเคยมาจาก The Sixth Sense ก็จะคุ้นมาจากหนังผีประดามีที่ใช้กันจนเกร่อแล้วครับ

เรื่องบทอ่อนน่ะพอเข้าใจครับ อย่างใน House on Haunted Hill บทก็อ่อนเหมือนกัน แต่ขานั้นมันยังพอเน้นเรื่องความสยองได้ ความดิบมันเลยยังโอเค แต่นี่สยองก็จับไม่ติด บทก็มาอ่อนอีก เลยไม่มีอะไรให้ประทับใจเลยซักกะอย่าง

แล้วที่ผมค่อนข้างจะงงมากคือ หนังเรื่องนี้หากดูชื่อชั้นดาราล่ะ ไมใช่กระจอกนะครับ ขายฝีมือทั้งนั้น แต่พอมาในเรื่อง การแสดงกลับไม่ได้เด็ดขาดอย่างที่คาดคิด คือดูแล้วธรรมดา เอาดาราหน้าใหม่มาแสดงผลก้ไม่แตกต่างกันหรอกครับ ซึ่งอันนี้ไม่อยากโทษดารา ขอพาลไปที่เองบทแล้วกัน ที่ไม่ได้ทำให้ตัวละครมีมิติมีความน่าสนใจซักเท่าไหร่เลย

ยิ่งในรายของ Robert Downey Jr. กับ Penélope Cruz สองเจ้านี้ดูไปก็งงไปว่าจะมาทำไมกันหรือ เอาดาราค่าตัวน้อยมาแสดงก็ได้ ถ้าแทบจะไม่ได้มีบทบาทขนาดเนี้ย

ในรายของ Downey Jr. นี่ยอมรับว่าขัดตามาก เพราะแกมาแสดงเป็นอะไรก็เหอะในช่วงหลังๆ เนี่ย บทส่วนมากมักสมทบ แต่กลับไม่ได้ขโมยซีนแม้แต่น้อย นี่ก็รอลุ้นอยู่ว่าถ้าแกไปเล่นเป็น Iron Man แล้วจะเกิดได้อีกครั้งหรือไม่

ส่วนนางเอกของเรื่อง Halle Berry ก็พอกันครับ ตั้งแต่ได้ออสการ์มา บทที่เธอได้รับมักจะออกทะเลประจำ อย่างเรื่องนี้หรือที่หนักเลยก็คือ Catwoman จริงๆ ก็พอเข้าใจล่ะรับว่าฌะอคงอยากเพิ่มความหลากหลายให้บท แต่เผอิญบทที่ว่าพวกนั้นมันไมได้ช่วยเสริมบารมีเจ๊แกเลย ตรงกันข้ามยิ่งเล่นยิ่งมึนหนักกว่าเก่า ส่วนในเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรครับ แค่ทำท่างงๆ แล้วก็คลั่งๆ หน่อยก็พอ ไม่ต้องทำอะไรมาก

โดยฟอร์มหนังมันน่าจะโอเคล่ะครับ คือถ้าดูแบบไม่คิดอะไรนะ แต่พอดูจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้สยองติดตาตรึงใจ เนื้อเรื่องก็ม่ได้น่าติดตาม นักแสดงแม้จะมีฝีมือ แต่พอมาเจอบทธรรมดา ก็เลยออกมางั้นๆ

งานชิ้นนี้ก็กำกับโดย Mathieu Kassovitz ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่มีงานในบ้านเกิดหลายเรื่อง แต่เรื่องที่เราๆ น่าจะคุ้นเคยกันก็คือ The Crimson Rivers ซึ่งอันนั้นแม้จะเดินตามสูตรหนังฆาตกรโรคจิต แต่ความสนุกมันยังมากกว่านี้เยอะล่ะครับ มาเรื่องนี้ไม่รู้แกทำงานสบายๆ เกินไปหรือเปล่า หนังเลยออกมาเฉยๆ แบบนี้

แต่เท่าที่นึกๆ ผู้กำกับจากยุโรปที่เขาว่าแน่ๆ พอไปทำหนัง Hollywood เท่านั้นแหละ มีอันจะต้องม้วนเสื่อกลับมาทำงานที่บ้านเกิดในเวลาอันสั้นทุกที

ส่วนคนเขียนบทนั้นก็คือ Sebastian Gutierrez ที่ตอนนั้นผลงานยังไม่เยอะครับ แต่หลังๆ มาแกก็มีงานหนังอย่าง Snakes on a Plane และล่าสดก็ไปทำ The Eye ฉบับรีเมคด้วย ก็มาดูกันต่อไปครับว่าบทแกจะพัฒนาขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าเป็นอย่างเรื่องนี้ไม่เอานะ

การจะทำงานในวงการหนังนั้นไม่ใช่ของง่ายหรอกครับ มันก็ต้องมีการขยับขยาย สร้างสรรค์ความใหม่อยู่เสมอ หรือแม้แต่จะให้สูตรสำเร็จก็เถอะ แม้สูตรนั้นจะแน่แค่ไหน แต่ถ้าคนเอาไปใช้ไปใส่ใจ แค่ทำๆๆๆ เท่านั้น งานมันก็ย่อมจะออกมาดีไม่ได้

สำหรับ Gothika นี้ก็มาทำนองนั้นล่ะครับ ผสมสูตรเก่าๆ เข้ากับเรื่องสไตล์ใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้ออกมาโอเคแต่อย่างใด เพราะบทยังอ่อนอยู่ ดาราก็โดนใช้ไม่คุ้ม ก็ไม่น่าแปลกใจล่ะครับที่ Dark Castle จะเริ่มเสื่อมความนิยมลงไปมาก

ก็แล้วแต่นะครับ คือผมเฉยๆ น่ะ แต่ท่านอาจจะสนุกก็ได้ ถ้าชอบงานหนังแบบนี้และไม่ได้เคยดู What Lies Beneath มาก่อน ก็ลองกันได้ครับ แต่อย่าคาดหวังล่ะ

สำหรับผมแล้วงานจากค่ายนี้ เรื่องที่ยอดที่สุดก็ยังคงเป็นงานเรื่องแรก อย่าง House on Haunted Hill อยู่ดีครับผม