ดูหนัง Sling Blade (1996) - สลิง เบลด - นำแสดงโดย Billy Bob Thornton / IMDB 8.0 เต็มเรื่อง

Sling Blade (1996) - สลิง เบลด - นำแสดงโดย Billy Bob Thornton

'คาร์ล' (Billy Bob Thornton) ชายปัญญาอ่อนที่อยู่โรงพยาบาลประสาทมาตั้งแต่ 12 ขวบจากคดีที่เขาฆาตกรรมแม่แท้ ๆ และชู้รักของเธอ เขาได้รับการปล่อยตัวมาเริ่มชีวิตใหม่หลังจากถูกจองจำนานกว่า 20 ปี ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลบวกกับฝีมือการเป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ของเขา ทำให้เขาได้งานเป็นช่างซ่อมในร้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งการกลับมาเมืองบ้านเกิดครั้งนี้ทำให้เขาได้รู้จัก 'แฟรงค์' (Lucas Black) เด็กวัย 12 ปีที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา และความยอดเยี่ยมของหนังก็เริ่มต้นต่อจากนี้

1. เติมเต็ม
พ่อของแฟรงค์ฆ่าตัวตายทิ้งให้แฟรงค์ต้องอาศัยอยู่กับแม่ที่ฐานะพอมีพอกิน แฟนใหม่ของแม่ก็ไม่ใช่สามีที่ดีและพ่อที่ดี ทำให้แฟรงค์รู้สึกว่าช่วงวัยเด็กของเขาขาดพ่อที่เป็นคนคอยให้กำลังใจ ในขณะที่คาร์ลในวัยเด็กเองก็สูญเสียฐานะพี่ชายเพราะความโหดร้ายจากพ่อแม่ของเขา การมีอยู่ของแฟรงค์จึงเปรียบเสมือนคืนสถานะพี่ชายแก่เขา

ลูกชายที่ขาดพ่อ กับ พี่ชายที่สูญเสียน้อง มิตรภาพข้ามวัยของทั้งสองจึงกลายมาเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างลงตัว

2. คาร์ล
หากเมื่อปี 1994 เราประทับใจบุคลิกซื่อ ๆ แบบคนปัญญาอ่อนของ 'ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์' กันไปแล้ว ก็ขอแนะนำเชิญชวนมาประทับใจบุคลิกซื่อ ๆ จิตใจดีของ 'คาร์ล' ใน Sling Blade กันต่อเลยครับ

คาร์ลใน Sling Blade พื้นฐานเป็นคนจิตใจดี ที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมก็เพราะเข้าใจผิดคิดว่าแม่โดนข่มขืน แต่เมื่อรู้ว่าแม่สมยอมก็ยิ่งโมโหเลยฆ่าแม่ด้วย คำพูดคำจาก็แสดงถึงความนอบน้อม ใช้ชีวิตเรียบง่าย ความคิดความอ่านก็มีวุฒิภาวะดูดีกว่าคนปัญญาอ่อนทั่วไป แถมยังเป็นคนซื่อสัตย์ต่ออดีตของตัวเองอีกด้วย แล้วคุณจะรักคาร์ลครับ

3. การแสดงขั้นเทพของ 'บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน'
ก่อนหน้าจะดูเรื่องนี้ ผมชอบการแสดงของเขาจาก A Simple Plan + The Man Who Wasn't There คือเป็นบทที่แตกต่างกันมากและแสดงเข้าถึงตัวละครทั้งสองเรื่อง พอมาเจอเรื่องนี้นี่ยกนิ้วให้เลย ติดใจการแสดงธอร์นตันในหนังเรื่องนี้มาก เขาทำให้คนดูเชื่อว่าเขาเป็นคนปัญญาอ่อน หลังค่อม เดินงุ่มง่าม ชอบทำเสียงฟืดฟาด แต่แววตานี่ไม่ใช่คนเศร้าสร้อยอะไร ยอดเยี่ยมจนอยากดูการแสดงของ 'เจฟฟรีย์ รัช' จากหนังเรื่อง Shine ว่าโคตรเทพขนาดไหนถึงคว้าออสการ์ตัดหน้าธอร์นตัน

แอบไปอ่านเบื้องหลังมาพบว่าการเดินงุ่มง่ามของธอร์นตันเกิดจากการที่เขาเอาเศษแก้วใส่ไว้ในรองเท้าจะได้เดินไม่ถนัด ต้องยอมเทคนิคนี้เลยจริง ๆ เดินเป็นธรรมชาติเลยทีนี้ ฮ่าๆๆๆ

4. Gran Torino + Ordinary People by Gump
ใครที่ชอบหนังดราม่าเรียบง่ายค่อยเป็นค่อยไป ไม่บิ๊วไม่ฟูมฟาย อารมณ์ประมาณตัวละครแบบ Forrest Gump บรรยากาศเรื่องประมาณ Ordinary People หรือ American Beauty ผสมกับสไตล์ Gran Torino นี่ต้องจัดเลยครับ

5. สมราคาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์
ปีนั้นผมยังไม่ได้ดู Hamlet กับ The Crucible แต่คิดว่าสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงไม่ค่อยแข็งเท่าไร (อีกสองเรื่องคือ The English Patient กับ Trainspotting) แต่ถึงอย่างไรก็มีความเห็นว่าต่อให้ Sling Blade ไปอยู่ปีอื่นมันก็มีดีพอจะคว้าบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะหนังแนวนี้ของชอบคณะกรรมการด้วยมั้ง ฮ่าๆ

ผมชอบการเล่าเรื่องตรงไปตรงมา ตัวละครหลักมีปมในใจซึ่งหนังค่อย ๆ เผยความลับในอดีต ซึ่งพอเผยออกมาแต่ละครั้งก็ทำให้เรื่องราวเข้มข้นน่าติดตามมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างเช่นเรื่องปมเด็กต้องการพ่อกับคาร์ลที่สูญเสียน้องชาย ตอนจบของหนังอาจจะไม่ยากเกินคาดเดา ซึ่งโดยส่วนตัวนับว่าเป็นการหาทางลงได้อย่างดีจนถึงฉากจบที่แตกต่างกับฉากเปิดหนังครับ

ประทับใจบทหนังดราม่าแบบนี้ครับ

เกร็ดเล็กน้อย - ประธานบริษัท Miramax ขอซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่องทั้งที่เพิ่งจะดูหนังได้แค่ 30 นาทีแรกเท่านั้น แอบเห็นด้วยว่า 30 นาทีแรกสุดยอดจริง ๆ ตรึงคนดูอยู่หมัด คนสมาธิสั้นแบบผมยังเกาะติดเลยครับ

ใครชอบหนังดราม่า ผมแนะนำให้ลองหามาชมกันครับ