Inglourious Basterds : ยุทธการเดือดเชือดนาซี สิ่งแรกที่หนังบอกกับผู้ชมคือ ไม่เหมาะกับผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ขึ้นอยู่หัวฟิล์มก่อนหนังจะฉาย ความจริงผมอยากให้เพิ่มเข้าไปอีกด้วยซ้ำว่าไม่เหมาะกับสตรี และผู้มีจิตอ่อน เพราะภาพในหนังมีทั้งความรุนแรงพอสมควร ภาษาที่ใช้ก็รุนแรง ยังดีที่ Subtitle ในโรงแปลออกมาให้อ่อนลงนิดนึง
ครั้งแรกที่ได้ดูตัวอย่างเรื่องนี้รู้สึกว่าน่าดู หนังมันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะได้ Brad Pitt มาแสดง แถม Quentin Tarantino เป็นผู้กำกับ มันคงต้องมีอะไรบ้างแหละน่า เพราะจากตัวอย่างที่ตัดมาแบบเอาสะใจ แบบไม่เล่าเรื่องเยอะ พอให้รู้ว่าจะเป็น Action ปนตลก (ตลกร้ายมาก) เรื่องนี้บอกได้เลยว่าอย่าตัดสินหนังจากตัวอย่าง เพราะตัวอย่างที่เห็นมันแค่เศษเสี้ยวจริงๆ
มาพูดถึงตัวหนังกันบ้าง หนังในแบบของ Quentin Tarantino รู้อยู่แล้วว่าต้องแนว ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังแนวเหมือนเดิม เรื่องนี้พูดถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่มันไม่ใช่ในแบบใดๆที่เราเคยรู้จักแน่ๆ ถ้าเป็นชื่อของ Quentin Tarantino (เฮอๆ) การเล่าเรื่องในช่วง 15 นาทีแรกที่เป็นการเกริ่นเรื่องของเด็กสาวชาวฝรั่งเศสที่ครอบครัวถูกฆ่าโดยนาซี เป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดกดดันพอสมควร ทั้งภาพ อารมณ์ แสง สถานที่ ที่ชวนให้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว
ถัดมาก็เป็นเรื่องราวของกลุ่มทหารดังที่เห็นในตัวอย่างว่าจะไปหลังแนวฆ่าสึก แล้วเชือด ๆ ๆ ก็ตามนั้นเลยคือ เล่าเรื่องง่ายๆ เร็วๆ เข้าใจง่ายดี ถึงตอนนี้คุณจะได้เห็นแล้วว่าการเชือดที่พูดนี้มันเป็นยังไง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงขึ้นหัวหนังว่าต่ำกว่า 18 ปีไม่ควรดู (มันโหดจริงๆแฮะ) กลุ่ม Basterds นี้จะดักโจมตีทหารนาซีในแนวหลัง แล้วจับคนที่รอดมาข่มขู่ให้บอกว่าทหารนาซีหน่วยอื่นอยู่ตรงไหน จะได้ตามไปเก็บถูก เชลยมี 2 ทางเลือก ไม่บอกก็ตาย (ตายโหดด้วยสิ) คนที่ไม่บอกก็ฆ่ากันให้เห็นๆเลยว่าน่ากลัวยังไง คนที่เหลือจะได้กลัวแล้วยอมบอก แล้วก็จะปล่อยไปแต่ก่อนไปก็ยังอุตส่าห์ฝากของที่ระลึกกลับไปให้ด้วย เพราะอย่างนี้ทำให้ชื่อของกลุ่มนี้โด่งดังในกองทัพนาซีจนหวาดกลัวไปทั่ว
จากนั้นก็จะตัดกลับมาที่เรื่องของเด็กสาวที่รอดตายคนนั้น คราวนี้เวลาผ่านไปจนโตขึ้นแล้ว และเป็นเจ้าของโรงหนังในปารีส ได้พบกับทหารนาซีที่เป็นวีรบุรุษสงคราม ที่กำลังจะเป็นดาราหนังจากวีรกรรมที่โด่งดังจนเบอร์ลินเอาไปสร้างหนังโฆษณาเพื่อปลุกขวัญทหาร และเลือกที่จะใช้โรงหนังของสาวคนนี้เป็นที่เปิดรอบปฐมทัศน์ ที่จะมีทั้งนายทหารระดับสูง ผู้นำกองทัพ รวมถึงท่านผู้นำก็จะมาด้วย โอกาสดีขนาดนี้มีหรือจะปล่อยไปสาวเจ้าของโรงหนังของเราเลยคิดแผน “เผาโรงหนัง” ชำระแค้นของเธอ
ทางกองทัพพันธมิตรเองก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเปลี่ยนสถานที่มาเป็นโรงหนังแห่งใหม่ (ของแม่สาวชำระแค้น) ก็เลยคิดแผน “ระเบิดโรงหนัง” โดยจะส่งคอมมานโดอังกฤษเข้าไป 1 นายเพื่อไปสมทบกับกลุ่ม Basterds แล้วไปนัดพบกับสายลับสาวชาวเยอรมันเพื่อประชุมแผนและพาเข้างาน แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผน มาถึงช่วงหลังครึ่งหลังนี้ เรื่องจะเล่าช้าลงนิดนึง มีความกดดันสูงขึ้น และจบลงแบบที่คุณไม่คิดแน่นอน (Spoil? ไปซะครึ่งเรื่องแล้ว เหลืออีกครึ่งเรื่องไว้ให้ไปดูกันเอาเอง)
เรื่องของบทบาทนักแสดง ถ้าคุณคิดจะเข้าไปดู Brad Pitt แสดงบทแบบ Action หรือ Drama หนักแล้วล่ะก็ ลืมมันไปได้เลย เพราะขนาดในตัวอย่างยังไม่มีให้คุณดู ในหนังเรื่องนี้ก็ไม่มีให้ดูเช่นกัน เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้ขายที่ตัวดาราเลย แต่เป็นการขายเรื่องล้วนๆ
สรุปกับหนังเรื่องนี้ ไม่แนะนำอย่างยิ่งกับเด็กและคนจิตอ่อน เพราะฉากโหดมีเยอะ? และถ้าคุณง่วงๆก็ไม่ควรเข้าไปดูเช่นกัน เพราะหนังนานถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง แถมเล่าแบบไปเรื่อยๆ มีสิทธิ์หลับสูง เหลือข้อดีตรงที่แปลกนี่แหละ ถ้าใครอยากไปพิสูจน์ผลงานแนวๆ แบบ Quentin Tarantino ก็ไม่ว่ากัน