ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง American Beauty อเมริกัน บิวตี้ 1999 เต็มเรื่อง

ดูหนัง American Beauty อเมริกัน บิวตี้ 1999 เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า

เรื่องย่อ : ดูหนัง American Beauty อเมริกัน บิวตี้ 1999 เต็มเรื่อง

ดูหนัง American Beauty อเมริกัน บิวตี้ 1999 เต็มเรื่อง

 

เรื่องราวเกี่ยวกับเลสเตอร์ เบิร์นแฮม ชายวัยกลางคนคุณพ่อลูกหนึ่งที่ชีวิตน่าเบื่อหน่ายสุดๆ เขาเหมือนไม่ใช่ผู้นำครอบครัว ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง แถมที่ทำงานกำลังจะหาเรื่องบีบให้เขาออกอีก ทุกอย่างดูแย่ไปหมดในชีวิตของเขาจนได้เจอกับแองเจลา เฮส์ เพื่อนสาวของลูกสาวของเขาอย่างเจน คือพูดอย่างนี้เหมือนตัวละครหลักเรื่องนี้จะเป็นเลสเตอร์ใช่ไหมคะ แต่พอตอนเราดูเรากลับรู้สึกว่าอีกคนที่แทบจะเด่นกว่าเลสเตอร์คือแคโรลิน ภรรยาของเลสเตอร์ ตอนเธอออกมาครั้งแรกเราก็นึกว่าจะเป็นตัวประกอบเรื่องเสริมให้เลสเตอร์ธรรมดาแบบที่เราเห็นได้ในหนังหลายๆเรื่อง แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ หนังพาเราไปสำรวจตัวละครนี้พอๆหรือเผลอมากกว่าเลสเตอร์อีก สองตัวนี้คือหลักมาก และก็ยังมีเจนและริคกี้ เป็นตัวแทนของวัยรุ่นมีปัญหาจากความร้าวรานของครอบครัว ซึ่งทำออกมาได้น่าสนใจมากสำหรับคู่นี้ โดยเฉพาะเบื้องหลังครอบครัวริคกี้ซึ่งถ้าตั้งใจดูเรื่อยทั้งเรื่องพอมาคลายปมตอนจบ ทั้งเรื่องที่ผ่านมาก็เข้าใจทันทีว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น

IMDB : tt0169547

คะแนน : 8.3

รับชม : 1242 ครั้ง

เล่น : 388 ครั้ง



American Beauty อเมริกัน บิวตี้ 1999


รีวิว American Beauty 1999 หนังว่าด้วยความงดงามของชีวิต

American Beauty เล่าถึงเหล่าตัวละครที่ต้องการความงดงาม (Beauty) ตามวิถีทางของตัวเอง และสำหรับตัวเอกของเรา”ความงดงาม” มันคือตัวแทนของอิสระที่เขาต้องการ และเคยมีด้วยซ้ำไป แต่ดันต้องสูญเสียมันไปด้วยปัจจัยหลายๆอย่างในชีวิต

เลสเตอร์ (Kevin Spacey)หนังเล่าถึงเลสเตอร์ (Kevin Spacey) ชายวัยทอง ที่ช่วงหลังเขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันขาดอะไรไปซักอย่างนะครับ แถมภรรยาก็ยังไม่สนใจใยดีเขาซักเท่าไหร่ จนกระทั่งเขาได้เจอกับ แองเจล่า (Mena Suvari) เพื่อนของเจน (Thora Birch) ลูกสาวแท้ๆของตัวเอง ที่ก็ดูสนใจเขาอยู่ไม่น้อย มันก็ทำเอาเขาคิดไปไกลนะครับ แถมเขายังได้พบกับเด็กหนุ่มอย่างริกกี้ (Wes Bentley) ที่ยิ่งกระตุ้นทำให้เขาอยากกลับไปใช้ชีวิตโลดโผนเหมือนอย่างเคย

หนังค่อนข้างโฟกัสกับปัญหาวิกฤตวัยกลางคน กับความต้องการคืนพลังอำนาจในตัวเอง ของเลสเตอร์นะครับ เรียกได้ว่าเขามาถึงจุดที่ไม่ต้องการให้ใครมาสั่งว่าชีวิตเขามันต้องเป็นยังไงอีกแล้ว

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Sam Mendes ครับ ซึ่งปีที่แล้วหลายๆคน ก็อาจจะได้ชมผลงานล่าสุดของเขาอย่าง 1917 ไป โดยนี่เป็นผลงานการกำกับหนังใหญ่ครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้มีเครดิตในวงการละครเวทีมามากมาย

เลสเตอร์ (Kevin Spacey) จินตนาการถึงแองเจล่า (Mena Suvari) เพื่อนของลูกสาวใครมันจะไปคิดล่ะครับ ว่าการจับงานกำกับหนังใหญ่ครั้งแรกของเขามันจะไปสร้างปรากฏการณ์ในเวทีออสการ์ โดยตัวหนังกวาดรางวัลไปถึง 5 สาขานะครับ ประกอบไปด้วย ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และกำกับภาพยอดเยี่ยม

นับว่าหนังดีกรีไม่ธรรมดาเลย เอาจริงๆ ก็มีข่าวมาบ้างนะครับ ว่า Sam Mendes ตอนถ่ายทำฉากแรกๆ แกก็ยังแอบประหม่าอยู่ เลยกลายเป็นเออออตามทุกฝ่ายไปหมด ผลลัพท์ไม่เป็นตามคาดซักเท่าไหร่ ขนาดที่พอหนังถ่ายเสร็จแล้ว แกถึงกับต้องไปคุยกับทางสตูดิโออย่าง DreamWorks เลยครับ ว่าไอ้ตัวฟุตเทจที่เขาถ่ายไว้ 3 วันแรกเนี่ยมันใช้ไม่ได้นะ ถ้าเขาขอถ่ายใหม่ ทางสตูดิโอจะให้ถ่ายรึเปล่า โดยคำพูดที่เขาไปขอนี่ก็ทัศนคติน่าชื่นชมครับ

ผู้กำกับ Sam Mendes

"นักแสดงเล่นใหญ่ไป มันถ่ายได้แย่ ความผิดผมเอง จังหวะแย่ ความผิดผมเอง ชุดแย่ นั่นก็ความผิดผมเอง ทุกคนเขาทำตามที่ผมขอ มันเป็นความผิดของผมคนเดียว" Sam Mendes ผู้กำกับกล่าว

คือตัวหนังมันถือว่าเดินเรื่องเร็วเลยนะครับ แต่ด้วยการกำกับของ Sam งานภาพที่ดูเรียบง่าย รวมถึงเหล่านักแสดง ที่ขับเคลื่อนหนังกันได้ดี มันทำให้อารมณ์หนังมันไม่ติดขัดนะครับ คือรวดเร็ว แต่เราได้สารที่ต้องการจะสื่อ และได้ซึบซัมอารมณ์ของเหตุการณ์พอสมควร

ด้านนักแสดงคนที่ต้องชมมากที่สุดคือ Kevin Spacey นะครับ เขาได้ฝากการแสดงที่สำหรับผมนะ ดีที่สุดในอาชีพเลยกับหนังเรื่องนี้ คือเขาแสดงเป็นคนธรรมดาแต่เล่นได้ไม่ธรรมดานะครับ การใช้สีหน้าแววตาต่างๆ ที่เป็นจุดขายของเขา คราวนี้เอามาใช้ได้ถูกจุดจริงๆ กับหนังเรื่องนี้

แคโรไลน์ (Thora Birch) และริกกี้ (Wes Bentley)

ระหว่างที่ดูผมออกแนวทั้งสงสาร ทั้งขำกับเลสเตอร์นะครับ คือจุดประสงค์ของเขา มันจะน่าดีใจด้วย มันก็ไม่ใช่ จะบอกว่ามันทำให้เขากำลังแย่ลง มันก็ไม่เชิงอ่ะ เขาแค่เป็นคนที่รู้สึกเสียพลังในตัวเอง อย่างที่เขาบ่นๆในเรื่องนะครับ ว่าเขาขาดพลังในการเซอไพรส์ตัวเองมานานแล้ว จนถึงคราวที่เขารู้สึกว่าต้องเรียกความรู้สึกแบบนั้นกลับมาให้ได้

รวมๆแล้วหนังมันเอนเตอร์เทน เป็นมิตรกับคนดู แถมยังมีอะไรให้น่าเก็บไปคิดอีก ใครเป็นคอหนังอยากให้ลองหามาดูชมครับ