หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังดราม่า , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง Dawn of The Planet of The Apes รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร 2014 เต็มเรื่อง
ความสำเร็จของ Rise of the Planet of the Apes นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด เมื่อหนังสักเรื่องที่มีเค้าโครงในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ และได้รับการถ่ายทอดโดยผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ ย่อมทำให้หนังสักเรื่องมีประเด็นที่ชวนจับต้องได้และนำมาขบคิดต่อหลังจากที่หนังเรื่องนั้นๆจบลง เหตุการณ์ในหนังภาคแรกนั้นเล่าโดยสรุปก็คือ วิลล์ ร็อดแมน (เจมส์ ฟรังโก้) นักวิทยาศาสตร์ในบริษัทผลิตยาผู้คิดค้นเชื้อไวรัสเพื่อใช้ในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ โดยนำลิงมาใช้เป็นสัตว์ทดลองในโครงการนี้ แต่แล้วโครงการก็ถูกพับไป ทำให้เขาต้องเลี้ยงดูซีซาร์ ลูกลิงที่แม่มันเสียชีวิตในการทดลองเนื่องจากไวรัสที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมทำให้ซีซาร์ฉลาดเฉลียวกว่าลิงปกติทั่วไป แต่ยิ่งซีซาร์เติบโตขึ้นและถูกแยกจากวิลล์ให้ไปอยู่ในกรงขัง ทำให้มันเริ่มโหยหาอิสรภาพอันแท้จริงและมันยังคิดที่จะปฏิวัติมวลมนุษยชาติอีกด้วย เหตุการณ์ในภาคแรกจบลงที่บรรดาเหล่าลิงหนีเข้าป่าเพื่อไปตั้งรกรากและขยายเผ่าพันธุ์ของตนเอง
แต่แล้วเรื่องราวใน Dawn of the Planet of the Apes จะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องมาจากหนังภาคแรก ซึ่งซีซาร์ เมื่อเวลาผ่านไปถึง 10 ปี ไวรัสไข้หวัดลิงได้คร่าชีวิตมนุษย์จนแทบสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ จนเหลือมนุษย์อยู่แค่กลุ่มเล็กๆเท่านั้น เหตุการณ์ในภาคนี้คือการต่อสู้ระหว่างสิ่งมีชีวิตสองเผ่าพันธุ์ที่พยายามจะเอาชีวิตของตัวเองให้รอดและรักษาสายพันธุ์ของตัวเองเอาไว้บนโลกใบนี้
IMDB : tt2103281
คะแนน : 7.6
รับชม : 5796 ครั้ง
เล่น : 1913 ครั้ง
การกลับมาของราชาวานรผู้ยิ่งใหญ่ซีซาร์กับภาคต่อของหนังกึ่งรีเมคอย่าง "Rise of the Planet of the Apes" และการลงเนื้อหาให้เข้มข้นขึ้น และปูทางไปสู่ภาค 3 อย่างสวยงาม
อยากจะบอกความเห็นหลังชมว่า #โดนสัดๆ ซีจีนี่เนียนโคตรๆ ทั้งคนทั้งลิงนี่แสดงดีพอกันเลย เผลอๆคนจะลำบากใจกว่าด้วยซ้ำ เพราะถ้าเล่นไม่ดี จะถูกลิงแย่งซีนเอา 555 เฉพาะโปสเตอร์ลิงมันก็เด่นอยู่แล้ว - - ยอมรับว่ามีบางฉากในเรื่องนี้ที่ดูในตัวอย่างแล้วซึ้ง แต่พอดูในหนังมันกลับเฉยๆอะ T-T
ด้วยเหตุที่ภาคนี้ "รูเพิร์ท ไวแอ็ตต์" ไม่ได้กลับมากำกับ แต่เป็น "แม็ตต์ รีฟส์" ที่มานั่งแทนผู้กำกับแทนก็เลยส่งผลให้ทาง "เจมส์ ฟรังโก้" แกไม่ได้มาแสดงนำในภาคนี้ด้วย คิดซะว่าพี่แกติดเชื้อโรคห่าลิงตายละกัน เพราะหาวิธีแก้โรคนี้ไม่ได้ก็เลยตายห่าไป(ถึงเหตุผลมันจะฟังไม่ขึ้นก็เหอะ เพราะพี่แกก็เป็คนคิดค้นยาเองแท้ๆ)
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่แกจะถูกตัดออกซะหมด เพราะก็ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างพี่แกและซีซาร์ในภาคที่แล้วมาอยู่ในภาคนี้ ให้คนดูได้ซึ้งและน้ำตกกันบ้าง ส่วน "เจสัน คลาร์ค" ที่มารับบทเป็น "มัลคอล์ม" กับบทมนุษย์ที่เข้าใจลิงมากที่สุดในเรื่องนี้ ซึ่งทางเจสันแกก็เล่นออกมาได้ดี ไม่มีตกหล่นเลย #สามผ่านคับ อิอิ
อย่างที่บอกว่าคราวนี้มันมาในเนื้อเรื่องที่เข้มข้นขึ้น ต่อจากภาคที่แล้วที่มีคนที่ติดโรคจากนักวิทยาศาสตร์จากห้องแลปที่ทดลองลิง โดยที่ไอ้หมอนี่มันไม่รู้ตัวเลยว่าเป็น จะเห็นได้จากเอ็นเครดิตของภาคที่แล้วที่ไอ้หมอนี่มันไอเป็นเลือด(ภาคนี้ไม่มีเอ็นเครดิต นะจ๊ะ) และมันก็ตายและกลายเป็นโรคระบาดที่ต่อกันมาเป็นทอดๆและคร่าชีวิตมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก โดยโรคนี้มีชื่อว่า "โรคซีเมียน" (ถ้าผิดขออภัยเน้อ อิอิ) โดยผู้ที่ติดโรคนี้ไม่สามารถรักษาหายได้ และเมื่อเวลาผ่านไปทำให้มนุษย์มีจำนวนน้อยลง(มาก) จึงทำให้ขาดทรัพยากรและพลังงานไฟฟ้าเป็นเหตุให้กลุ่มของ "มัลคอล์ม" ต้องเข้าไปในป่าเพื่อซ่อมเขื่อน เพื่อที่จะทำให้พลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้ได้อีกครั้งและจะได้ติดต่อกับคนที่ยังเหลือรอดจากโรคนี้ในทุกมุมโลก เป็นเหตุให้คนในกลุ่มของ "มัลคอล์ม" ได้พบกับซีซาร์และพวกวานรในป่า ทำให้กลุ่มพวกวานรได้รู้ว่าพวกมนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งวานรบางตัวกลัวที่จะถูกมนุษย์กวาดล้าง จึงคิดที่จะโจมตีก่อน มันเลยเป็นต้นเหตุของการเกิดสงครามระหว่างมนุษย์และวานรในภาคนี้
ส่วนตัวและชอบภาคนี้ตรงที่การโล๊ะโลกปัจจุบันออกทั้งหมดเหลือไว้เพียงแต่โลกอนาคตที่แทบจะไม่มีพวกมนุษย์อยู่แล้ว เหลือไว้เพียงหญ้ารกรุงรังที่ขึ้นในหลายๆที่ตามตึกราม บ้านซ่อง เอ้ย!! ช่อง
มันทำให้ฉากในหนังดูดาร์คและจริงจังขึ้นไปอีกขั้น (ส่วนตัวแล้ว ชอบแนวนี้อะ ฉากประมาณแบบ ''I Am Legend" ไรงี้)
และเมื่อมันเป็นหนังภาคต่อจึงทำให้หลายๆบทบาทของหนังเรื่องนี้ถูกพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นบทซีซาร์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ด้วยความที่เป็นทั้งพ่อและจ่าฝูง แต่ความเป็นผู้ใหญ่นี้ก็ไม่ได้ทำให้ซีซาร์ดูแก่เลย กลับกันเรากลับได้เห็นมุมเท่ๆของซีซาร์มากกว่าภาคที่ผ่านมา และในหลายๆมุมที่เรายังไม่เคยได้เห็นกัน ไม่ว่าจะในแง่ความเป็นผู้นำหรือความโหดและดิบเถื่อนเมื่อซีซาร์ของแกขึ้น ส่วนวานรที่เหลือรอดในภาคที่แล้วอย่าง "โคบา" วานรที่โดนมนุษย์จับทดลอง เลยทำให้ไอนี่มันเกลียดมนุษย์เข้ากระดูกดำ ซึ่งในภาคนี้เราจะได้เห็นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของพี่แก เพราะภาคนี้พี่แกแทบจะเป็นหัวโจกหรือตัวตั้งตัวตี ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆในภาคนี้เลยก็ว่าได้
ส่วนดราม่าในเรื่องนี้จะเทไปทางพวกวานรซะส่วนใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลให้ดราม่าในทางของมนุษย์กลายเป็นจุดด้อยของหนังเรื่องนี้ กลับกันซะอีกมันกลับดีและกลมกล่อมกับบทของลิงที่เข้ากัน และพาไปสู่จุดที่คนดูเรียกว่า "สุดยอด" ในหนังเรื่องนี้
ขอพูดถึงการแสดงของพวกลิงและกัน ไม่ว่าจะเป็น "แอนดี้ เซอร์คิส" หรือ "โทบี้ คีบเบล" ที่สวมบทเป็นซีซาร์และโคบาในเรื่องนี้ อยากจะบอกว่าการแสดงของทั้งสองและลิงทุกตัวในชุดโม-แคป สุดยอดมาก เพราะมันไม่ใช่แค่แอคติ้งและอารมณ์ของลิงอย่างเดียวที่ส่งถึง แต่มันยังรวมถึงท่าทางของลิงที่แสดงได้เหมือนจริงสุดๆ เอาใจไปเลย !!
ส่วนจุดด้อยของหนังในภาคนี้คือ เนื้อเรื่องที่ดูดาร์คและจริงจังมากขึ้นเนี่ยแหละ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคนี้คือจุดเปลี่ยนของหนังเรื่องนี้ และปูทางไปสู่ภาคต่อไป มันเลยส่งผลให้หนังมันยืดและยาว ซึ่งถ้าคนที่ไม่ได้ชอบเรื่องนี้มากๆก็ควรเตรียมหมอนไปดูเลยหละ หรือไม่ก็ต้องตั้งใจดูและมีสมาธิให้มาก อย่าหลุดละ #เดี๋ยวหลับ 5555
สรุปเอาเป็นว่า นี่เป็นหนังอีปิคแห่งปีที่ไม่ควรพลาดกัน นับว่าเป็นหนังที่มาเป็นม้ามืดของปีนี้เลยก็ว่าได้ #จริงๆมันก็ตั้งแต่ภาคที่แล้วแล้วหละ เอาตรงๆตอนแรกไม่เคยดูหนังนี้ แค่เคยเห็นผ่านๆตามาบ้าง เพราะโปสเตอร์ในภาคแรกมันเหมือนหนังเกรดบีอะ ประมาณพวกไอเข้กินคน ซีจีแบบกลางๆอะไรประมาณนี้
แต่พอหลวมตัวไปดูเท่านั้นแหละ โอ้วแม่เจ้า !! ติดเลย รีบหาเวอร์ชั่นเก่าๆมาดูอย่างไวเลยฮะ #พอๆเลิกโม้
สรุปก็ไม่อยากให้พลาดกันจริงๆ กับหนังเรื่องนี้ อันที่จริงควรดูภาค "Rise of the Planet of the Apes" มาก่อนก็ดีนะ เพราะจะได้อินและเข้าใจกับภาคนี้มากขึ้น