เวลามีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายกินพื้นที่โรงหนังเกือบทุกโรงนี่ก็มีข้อดีและข้อเสียนะครับ สัปดาห์นี้ผมเชื่อว่าใครๆ ก็ต้องไปดู Star Wars กันหมด แต่ถ้าดูแล้วจะดูอะไรต่อดีล่ะ ครั้งนี้ผมว่า Mono Film ฉลาดนะครับ ที่เลื่อนหนังเรื่องนี้จากตอนแรกที่วางไว้ว่าจะฉายวันพ่อ ที่มีหนังแย่งกันฉายเป็นสิบเรื่องมาฉายสัปดาห์นี้ ซึ่งถึงโรงฉายจะน้อย แต่ด้วยตัวเนื้อหาหนังและตัวนักแสดง เชื่อว่านักดูหนังหลายๆ คนต้องไปหาโรงดูจนได้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะโรงที่ผมดู คนดูเกินครึ่งโรง ซึ่งถ้านับว่ามันคือสัปดาห์แรกของ Star Wars ด้วยแล้ว การที่หนังสักเรื่องที่มาฉายแย่งตลาดจะมีคนดูเกินครึ่งโรงในรอบหัวค่ำ ถือว่าประสบความสำเร็จเลยล่ะ
Fathers and Daughters เป็นเรื่องราวของนักเขียนที่ประสบปัญหาทางสุขภาพจาทำให้มีปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูลูกสาว ทำให้เขาต้องพลัดพรากกับเธอ และลูกสาว ในอีก 27 ปีให้หลัง ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องความรัก เรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวกับพ่อของเธอจะเป็นตัวทำลายหรือประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
หนังเดินเรื่องได้ฉลาดมาก ใช้การตัดสลับอดีตกับปัจจุบันเพื่อให้เห็นว่า อดีตของตัวละครมีผลต่อปัจจุบันอย่างไร ซึ่งหนังทำได้ค่อนข้างดี เพราะเราจะเห็นถึงที่มาที่ไปที่ทำให้ตัวนางเอกมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความรัก การเรียงร้อยและลำดับเนื้อหาของหนังทำใหเราเห็นความสัมพันธ์ของอดีตและปัจจุบันที่ส่งผลต่อกันเป็นอย่างมาก
จริงๆ ถ้าหนังปูเรื่องความรักของพ่อลูกมากกว่านี้น่าจะดีขึ้น หนังไปเล่นถึงชีวิตของตัว เคธี ในตอนโตมากกว่าที่จะเล่นถึงเรื่องราวในอดีต และอาจจะมีบางตอนที่หนังตัดห้วนและตื้นเกินไปหน่อย ทำให้อารมณ์มันไม่ค่อยปะติดปะต่อ โดยเฉพาะตอนที่ความรักของพ่อและลูกกำลังถึงจุดพีค ถ้าทำให้ลึกและมีอารมณ์ร่วมมากกว่านี้ หนังจะเข้าถึงอารมณ์ซึ้งได้สุดมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะองค์ประกอบต่างๆ ของหนังที่ประกอบกันได้ดีแล้ว ทั้งตัวนักแสดงอย่าง Russell Crowe ที่เล่นเป็นชายวัยกลางคนหัวอกคนเป็นพ่อที่มีโรคร้ายรุมเร้าได้อย่างยอดเยี่ยมและดูอบอุ่น กับสาวน้อยที่เล่นเป็น เคธี ตอนเด็ก ไม่รู้ชื่ออะไร เอาคนดูซะอยู่หมัด เล่นเอาน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้พาคนดูถลำลงไปเกือบสุดอารมณ์ซึ้งแล้ว ถ้าหนังเน้นอีกนิดจะดีเลย
ในพาร์ทตอนโต Amanda Seyfried ยังคงคุณภาพไว้ได้อย่างสุดยอด ใครที่หลงรักเธอจากหนังเรื่องอื่นมาแล้ว มาดูเรื่องนี้จะหลงเธอมากขึ้น ด้วยบทที่ทำให้คนดูสงสารจนจับใจ บวกกับเสน่ห์ในเรื่องที่ต้องคอยยั่วยวนคนอื่นเพื่อลบปมในใจ ยิ่งทำให้หลงรักเธอมากขึ้นอีก โดยเฉพาะฉากที่เธอต้องส่งสายตายั่วยวน อูยยยยยย เลิฟฟฟ เลย ส่วนพระเอกของเรื่องอย่าง Aaron Paul พระเอกขี้ยาจากซีรีย์ Breaking Bad ถึงบทจะน้อยไปนิด แต่มีอะไรให้น่าติดตามตลอด
รวมๆ แล้วส่วนตัวผมชอบนะหนังเรื่องนี้ ทำออกมาได้ดีพอสมควร ขาดไปนิดๆ หน่อยๆ ในส่วนที่จะร้อยเรียงเรื่องราวให้ลึกกว่านี้และอินกว่านี้ นี่ถ้าทำได้นี่ คงมีคนน้ำตาแตกออกจากโรงหนังกันบ้างแหละ