ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Skiptrace (2016) คู่ใหญ่สั่งมาฟัด เต็มเรื่อง

ดูหนัง Skiptrace (2016) คู่ใหญ่สั่งมาฟัด เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังตลก , หนังอาชญากรรม , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Skiptrace (2016) คู่ใหญ่สั่งมาฟัด เต็มเรื่อง

ดูหนัง Skiptrace (2016) คู่ใหญ่สั่งมาฟัด เต็มเรื่อง

 

Skiptrace คู่ใหญ่สั่งมาฟัด เล่าเรื่องของ เบนนี่ ชาน (เฉินหลง Jackie Chan) สายสืบชาวฮ่องกงที่กำลังตามล่าหัวหน้าแก๊งมาเฟียนามว่าวิคเตอร์ หว่อง (วินสตันส เชา Winston Chao) มานานกว่าทศวรรษ เมื่อหลานสาวของเขา ซาแมนธา (ฟ่านปิงปิง Fan BingBing) ต้องไปพัวพันกับองค์กรมาเฟียของหว่อง ซึ่งคนที่มีหลักฐานสามารถสาวถึงตัวเจ้าพ่อได้ นั่นคือนักพนันชาวอเมริกันจอมปากมาก คอนเนอร์ วัตส์(จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ Johnny Knoxville) แต่ดันโดนแกงค์มาเฟียจับไป รัสเซีย ซึ่งเขาต้องการจะกลับ มาเก๊า ดังนั้นเบนนี่ จึงตามไปช่วยเหลือ คอนเนอร์ เพื่อเป็นพยานลากคอวิคเตอร์มาลงโทษ และช่วยเหลือซาแมนธาให้ได้ ภารกิจฟัด พ่วงความมันข้ามพรมแดนตั้งแต่เทือกเขาในมองโกเลียจนถึงทะเลทรายโกบี เรื่อยมาถึง มาเก๊า จึงอุบัติขึ้น

IMDB : tt2238032

คะแนน : 5.7

รับชม : 2361 ครั้ง

เล่น : 1136 ครั้ง




วันนี้ผมจะไม่มานั่งเขียนรีวิวร่ายยาวเป็นหลักการอะไรมากมายนะครับ แต่จะขอพูดถึงจุดเด่นของหนัง แยกเป็นข้อๆตามชื่อกระทู้เลยแล้วกัน

รั่ว
แม้ว่าหนังเฉินหลงยุคหลังๆจะให้ความสำคัญกับตัวบทรวมทั้งประเด็นต่างๆมากขึ้น แต่ไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้
เหมือนว่า Skiptrace จะพยายามดึงความเป็นเฉินหลงคนเดิมกลับมา อย่างน้อยๆก็เป็นเฉินหลงเมื่อต้นทศวรรษ 2000 ที่มีคาแร็คเตอร์แบบตำรวจที่แฝงอารมณ์ขันและความน่ารัก ต่างจากเฉินหลงในทศวรรษ 2010 ที่เน้นดราม่าหนักๆ (ซึ่งเฉินหลงก็เป็นแอ็คชั่นสตาร์ไม่กี่คนที่สามารถเล่นดราม่าตีบทแตกรีดน้ำตาผู้ชมได้) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้าหนังไม่ได้ให้ความสำคัญกับบท แต่โฟกัสที่การปล่อยมุขฮาเฉพาะหน้า มันก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีบทรั่ว แต่ก็รั่วแบบมีเสน่ห์ในตัวมันเอง แม้ว่าช่วงท้ายเรื่องจะรั่วจนดูไม่เมคเซ้นส์ในหลายๆการกระทำของตัวละคร แต่ก็นะ Skiptrace เป็นหนังแอคชั่นคอเมดี้นี่นา ไม่ใช่หนังล่ากล่องรางวัลสักหน่อย (แต่ผมว่าเป็นคอเมดี้แอดเวนเจอร์มากกว่า) แต่อย่าให้หนังเรื่องนี้ตกไปอยู่ในมือนักวิจารณ์เชียวล่ะ โดนสับเละแน่เลยเทอว์

มันส์
ความ "มันส์" ของหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ฉากแอ็คชั่น แบบที่เฉินหลงเคยทำสมัยวัยละอ่อน แต่ความมันส์มันอยู่ที่คาแร็คเตอร์ของตัวละครหลักทั้งสอง ที่ช่วยเกื้อหนุนส่งเสริมกัน ประกอบกับไดอะล็อกที่มีการจิกกัดเสียดสีกันไปมาระหว่าง แจ็คกี้ชาน และ จอห์นนี น็อกซ์วิลล์ ความมันส์แบบบ้าๆของสองคนคือสิ่งที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้คลอดสองชั่วโมงเต็ม ด้วยสังขารที่ร่วงโรยลงไปทำให้เฉินหลงไม่สามารถสร้างสรรค์ความมันส์จากคิวบู๊ได้เต็มที่ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะยังมีนักแสดงสมทบหลายคนจะมาโชว์คิวบู๊เสริมให้ แม้แอ็คชั่นจะไม่เข้าข้นมาก แต่กลิ่นอายบรรยากาศเก่าๆของ "หนังเฉินหลง" จะกลับมาทำให้คุณรู้สึกมันส์แน่นอน

ฮา
หนังเฉินหลงที่คนไทยคุ้นเคย ไม่ใช่หนังโชว์วูซูงามๆ หรือหนังโชว์คิวบู๊บ้าระห่ำ แต่เป็นหนังแอ็คชั่นที่แฝงไปด้วยความน่ารักและอารมณ์ขัน หนังอย่างเอไกหว่า ขาตั้งสู้ วิ่งสู้ฟัด มังกรหนวดทอง หนังตระกูลใหญ่ ทับ ฟัด ฯลฯ ตลอดจนหนังที่ร่วมกับฮอลลีวู้ดในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยจดจำเฉินหลงในภาพนักบู๊อารมณ์ดี แต่พอถึงทศวรรษ 2010 เฉินหลงฉีกแนวไปเล่นดราม่ามากขึ้นจนไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจในแวดวงแฟนคลับเฉินหลงในประเทศไทย ถือว่าคนไทยห่างหายจากหนังเฉินหลงแบบเดิมๆไปนานพอสมควร แต่สำหรับ Skiptrace ผมถือว่าสามารถเรียกฟอร์มเฉินหลงคนเดิมกลับคืนมาได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ขึ้นหิ้งแบบ Rush Hour แต่ความฮาแบบแจ็คกี้ชานมันหวนกลับมาอีกครั้ง การปล่อยมุขขณะที่ตัวละครหลักทั้งคู่ผจญภัยไปในดินแดนต่างๆ มันอาจจะดูซ้ำรอยหนังแนวคู่หูผจญภัยหลายเรื่องที่ผ่านมาของเฉินหลง แต่การที่มาประกบคู่กับน็อกซ์วิลล์ มันกลายเป็นความฮาที่ดูจากตัวอย่างแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่เอาเข้าจริงมันเวิร์คสุดๆ

ลูกบ้า
ด้วยคาแร็คเตอร์เฉินหลง ที่รับบทเป็น เบนนีเฉิน ตำรวจวัยเกษียณที่หมกมุ่นกับการล้างแค้นมาเกือบสิบปี ต้องมาร่วมมือกับฝรั่งมะกันบ้าๆบอๆ ทำเรื่องที่หลายคนไม่ทำกัน อย่างการเข็นรถขึ้นภูเขา เมาปลิ้นกับชาวเผ่า ร้องเพลงเพื่อผ่านด่าน หรือเป่าหมูต่อเป็นแพ ฯลฯ ดูขัดกับคาแร็คเตอร์ของเบนนีชานที่ควรจะเคร่งขรึมจริงจัง แต่มันกลับกลายเป็นลูกบ้าที่ทำให้ตัวหนังดำเนินเรื่องไปได้ลื่นไหล ความบ้าที่เรียกเสียงฮาได้ตลอดทั้งเรื่อง เอาเข้าจริงๆความบ้าของหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นรอง The Mermaid หนังของโจวซิงฉือที่บ้าจนถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศจีนถล่มทลายมาแล้ว แต่ผมรู้สึกว่า Skiptrace มันบ้าแต่ฮากว่าหนังเงือกน้อยซะงั้น อย่างไรก็ตามบางฉากก็เหมือนบ้าจนล้นเกินไป อย่างฉากคนมองโกลร้องเพลง ผมไม่เก็ทว่าหนังพยายามจะสื่ออะไรถึงได้เสียเวลากับฉากนั้นไปหลายนาที แถมยังดูไม่เมคเซ้นส์มากๆ

โดยรวมแล้ว Skiptrace เป็นหนังที่เน้นหนักไปทางคอเมดี้ซะมาก น่าจะมากที่สุดในหนังเฉินหลงตั้งแต่ทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา มุขทั้งฮาและบ้าถูกปล่อยออกมาแบบรัวๆๆๆ แทบจะขำทุกนาที (หรืออย่างน้อยก็ต้องมียิ้มๆบ้างแหละ) องค์ประกอบอื่นๆถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการโดนสับเละ ความดีงามของหนังนอกจากความงามของฟ่านปิงปิง ก็เห็นจะเป็นอารมณ์ขันที่สอดแทรกเข้ามาถูกกาละเทศะตลอดทั้งเรื่อง และขอแนะนำผู้ชมทุกท่านว่า อย่าคาดหวังอะไรกับตัวหนังมาก เสพรับแค่ความบันเทิงก็เพียงพอแล้วครับ