ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง The Pink Panther 2 (2009) มือปราบ เป๋อ ป่วน ฮา ยกกำลัง 2 เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Pink Panther 2 (2009) มือปราบ เป๋อ ป่วน ฮา ยกกำลัง 2 เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังตลก , หนังอาชญากรรม

เรื่องย่อ : ดูหนัง The Pink Panther 2 (2009) มือปราบ เป๋อ ป่วน ฮา ยกกำลัง 2 เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Pink Panther 2 (2009) มือปราบ เป๋อ ป่วน ฮา ยกกำลัง 2 เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ
เมื่ออาชญากรตัวฉกาจ ทอร์นาโด ออกขโมยสมบัติในตำนานจากทั่วโลกรวมถึงเพชร พิงค์ แพนเตอร์ อันล้ำค่า ผู้บัญชาการกองสืบสวน เดรย์ฟัส (จอห์น คลีส) จึงตั้งกลุ่มนักสืบและผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติขึ้น เพื่อตามรอยจอมวายร้าย และนำสมบัติทั้งหลายกลับคืนมาให้ได้
กลุ่มนักสืบเฉพาะกิจกลุ่มนี้นำโดย นักสืบจอมเปิ่นชาวฝรั่งเศส ฌากส์ คลูโซ (สตีฟ มาร์ติน) มาพร้อมลูกทีมชั้นเยี่ยม ได้แก่ คู่หูของเขา ปองตอง (ฌอง เรโน) สาวที่เขาหลงรัก นิโคล (เอมิลี่ มอร์ทิเมอร์) หนุ่มอังกฤษ เปปเปอริดจ์ (อัลเฟรด โมลินา) หนุ่มอิตาเลียน วิเชนโซ (แอนดี้ การ์เซีย) หนุ่มญี่ปุ่น เคนจิ (ยูกิ มัตสึซากิ) และสาวอินเดีย ซอนยา (ไอศวรรยา ไร) วายร้าย และนำสมบัติทั้งหลายกลับคืนมาให้ได้

IMDB : tt0838232

คะแนน : 5.6

รับชม : 1333 ครั้ง

เล่น : 527 ครั้ง



The Pink Panther 2 (2009) มือปราบ เป๋อ ป่วน ฮา ยกกำลัง 2

the-pink-panther-2-553932f85e247

ก่อนดูก็ทำใจไว้ เพราะหนังไม่ใคร่จะได้รับคำชม รายได้ก็ไม่เยอะ แล้วยังฉายวงจำกัดอีก พอดูแล้วก็บอกได้ว่า หนังอาจจะขำบ้างแต่ก็ยังถือว่าน้อยครับ

จริงๆ แล้ว พล็อต PP2 นั้นจัดว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยล่ะครับ เพราะมีการสร้างยอดจอมโจรฉายา เดอะ ทอร์นาโด ขึ้นมา และหมอนี่แหละที่จัดการขโมยของมีค่าทั่วโลกรวมถึงโคตรเพชรพิงค์ แพนเธอร์ด้วย ร้อนถึงสารวัตรจอมเซ่อซ่า ฌาคส์ คลูโซ (Steve Martin) ต้องหาทางกระชากหน้ากากตัวจริงของเดอะ ทอร์นาโด พร้อมนำสมบัติล้ำค่ากลับคืนสู่เจ้าของให้ได้ และการที่ เดอะ ทอร์นาโด โจรกรรมของจากหลายประเทศ ทำให้ชาติต่างๆ พากันส่งยอดนักสืบประจำชาติตนมาร่วมไขคดีกับคลูโซ อันนำมาสู่การสืบแบบเพี้ยนๆ ตามสไตล์นั่นเอง

คำถามสำคัญคือหนังขำหรือไม่… ไม่มากครับ แม้หนังจะครบองค์ประชุมสำหรับหนังฮา ได้แก่ ตัวละครต๊องสถานการณ์ชวนขำ เนื้อหาเบาๆ แต่ทว่าคนทำดันยำเรื่องราวไม่ลงตัวเท่าไร อันนี้ก็ต้องไล่ความรับผิดชอบไปตั้งแต่ทีมเขียนบทที่ ลุง Steve แกร่วมวงปั้นเรื่องด้วย ซึ่งเปิดเรื่องมาน่าสนใจ ตอนดูก็ตื่นเต้นคิดว่าคลูโซกำลังจะได้เจอคู่ปรับเป็นยอดจอมโจรเข้าให้แล้ว แต่ตอนเดินเรื่องดันไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไร

เจ้าจอมโจรที่ว่านี่แทบไม่มีบทบาทเลยครับ หนังหักไปเป็นการสืบตามร่องรอยแบบเรื่อยๆ แทน ซึ่งผมก็ยังคิดว่าไม่เป็นไร โจรไม่เด่น แต่หากมีตัวละครเจ้าอื่นมาชูรสได้มันก็ยังโอเค แต่นี่เหล่านักสืบจากชาติอื่นๆ ที่น่าจะขโมยซีนกลับไม่เด่นเลย แล้วคนที่มาแสดงนี่ก็มีชื่อทั้งนั้นนะครับ ไม่ว่าจะ Andy Garcia (Ocean’s Eleven) หรือ Alfred Molina (Spider-Man 2) ที่เล่นดี แต่บทไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เล่นอะไรขำๆ นัก ด้านความฮาก็จัดว่าเป็นมุกพยายามน่ะครับ คือพยายามชงให้ขำ แต่ทำไปทำมามันจะออกแนวแป้กซะเป็นส่วนใหญ่ ผมว่าภาคแรกนิ่งแล้ว ภาคนี้หนักกว่าอีก

ผู้กำกับเรื่องนี้คือ Harald Zwart ที่เคยทำ Agent Cody Banks มาก่อน ซึ่งเรื่องนั้นออกมาลงตัวกว่าเยอะครับ เรื่องนี้มันเดินเรื่องแบบไม่ค่อยมีทิศทาง ตัวละครก็เหมือนจะกระจายๆ แม้แต่คลูโซเองก็เช่นกันไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร ทั้งๆ ที่ดารานี่เล่นกันดี แต่เหมือนการสานเรื่อง การวางจังหวะปล่อยมุก แล้วก็จุดเด่นของตัวละครยังเจียระไนได้ไม่ใสปิ๊งน่ะครับ หนังเลยมีส่วนผสมชั้นดี แต่ไม่มีความสนุกในระดับที่ควรจะมี

และที่ออกจะเซ็งนิดหน่อยคือบทของ เดรย์ฟัส (John Cleese) ที่แต่ไหนแต่ไรมาจะต้องออกมากัดแล้วก็โดยคลูโซทารุณกรรมแบบไม่เจตนาเป็นประจำ แต่มาเรื่องนี้บทพี่แกดันนิ่งไปเลยครับ นิ่งจนคาดไม่ถึงเหมือนกัน ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกับ พ็องตอง (Jean Reno) มือขวาของคลูโซแล้วก็นิโคล (Emily Mortimer) สาวผู้กำดวงใจคลูโซไว้ สองเจ้านี้ก็นิ่งเหมือนกัน… แล้วผมก็พอเข้าใจว่าไหงหนังเรื่องนี้ถึงไปไม่ได้ไกลนัก

เห็นผมบ่นเยอะ แปลว่าหนังเห่ยมากหรือเปล่า… ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ มันก็ดูได้เพลินๆ แบบไม่คิดมาก (อย่าคิดเด็ดขาดเชียว) แต่ก็ค่อนข้างผิดหวังหากเทียบกับตอนก่อน ยิ่งดูจากคุณภาพของทีมงานแล้วมันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหนังน่าจะสุดบาทากว่านี้

เอาแค่ให้ ลุง Steve กับ Garcia และ Molina มาบ้าใส่กันเนี่ย ถ้าทำได้ก็ขำกลิ้งแล้วล่ะครับ เพราะแต่ละเจ้าเคยแสดงบทตลกระดับเด็ดๆ ไว้เยอะ อันนี้ก็บอกให้กับคนที่เป็นแฟนพวกเขาด้วยนะครับ จะได้ไม่ทำใจคาดหวังแล้วหัวคะมำแบบกระผม… ดูแผ่นยังอาจโอเคครับ

กระนั้นหนังก็ยังมีจุดดีบ้าง สารภาพเลยว่าตอนดูเนี่ยเกือบงีบครับ แต่ได้ดนตรีที่พริ้วและเพราะเหลือหลายของ Christophe Beck มาปลุกสติไว้ ช่วงสนุกก็ชวนให้คึก ช่วงซึ้งๆ ก็จับอารมณ์คนดูได้ดี อันนี้ยกนิ้วเลยครับ

แล้วที่ชอบอีกอย่างในหนังคือฉากสวยๆ หลายฉากในเรื่อง อย่างตอนที่คลูโซเดินไปที่ระเบียงห้องพร้อมระบายความรู้สึกที่อัดอั้นให้พ็องตองฟัง ฉากกรุงปารีสตอนนั้นมันสวยดีจริงๆ อ้อ แล้วอยากจะบอกอีกอย่างนะครับว่า สิ่งที่ผมชอบในตัวคลูโซฉบับลุงสตีฟเนี่ย ไม่ใช่คาแร็คเตอร์ฮาๆ หรอก แต่เป็น “ความน่ารัก” ต่างหาก อย่างฉากที่ผมเล่านั้นก็สื่อได้ดีครับว่า คลูโซคนนี้ไม่ใช่คนต๊อง แต่เขาแค่เป็นคนซื่อๆ เซ่อๆ และขี้อายคนหนึ่งเท่านั้นเอง

อดคิดไม่ได้ว่าถ้าทีมงานไม่พยายามดันมุกแป้ก แต่จับเรื่องความฮาน่ารักๆ แบบคลูโซสไตล์ลุง Steve Martin เนี่ย อาจจะมีอะไรให้คนดูประทับใจมากกว่าที่เป็นก็ได้… โอ้ะ ชักจะคิดมากไปซะแล้วสิ

ก็… แอบคิดล่วงหน้าไปแล้วล่ะครับว่าโอกาสจะได้ดู PP 3 น่าจะริบหรี่อยู่ แต่ใจจริงผมก็อยากดูต่อนะ เพราะชอบหนังชุดนี้แล้วก็ชอบ ลุง Steve Martin ด้วย แต่ถ้าหากว่าผลลัพธ์ภาคต่อไปจะเป็นอีหรอบนี้อยู่… จบแค่ภาคนี้ก็ดีแล้วล่ะครับ