ดูหนัง Swordfish (2001) พยัคฆ์จารชน ฉกสุดขีดนรก เต็มเรื่อง

เนื่องในโอกาสที่ดู X-Men มาก็ขอพูดถึงหนังเก่าที่ Hugh Jackman และ Halle Berry เล่นร่วมกันไว้ซักหน่อยนะครับ (เกี่ยวกันไหมหว่าเนี่ย )

แต่เป้าประสงค์แท้ๆ ที่ผมอยากดูหนังเรื่องนี้ก็คือ ผมเชียร์พี่ John Travolta ครับ เพราะอยากให้แกมีหนังดังเยอะๆ เผื่อเขาจะทำ Battlefield Earth 2 ขึ้นมา (นี่ผมอยากดูจริงๆ นะเนี่ย) ซึ่งกับเรื่องนี้ก็ต่อลมหายใจแกอีกเฮือกหนึ่ง แต่ก็ยังถือว่าดำผุดดำว่ายครับ ไม่ถึงฝั่งซะที แต่ก็ถือว่าสนุกพอได้ครับกับหนังแอ๊คชั่นที่ขายสไตล์กันเต็มที่

Travolta มารับบทเกเบรีบล เชียร์ ผู้มีแผนปล้นธนาคารแบบยิ่งใหญ่ โดยต้องใช้แฮคเกอร์มือดีมาช่วย นั่นทำให้สแตนลี่ย์ จ็อบสัน (Jackman) ถูกตามตัวมาเพ่อร่วมแผนครั้งนี้ไม่ว่าเขาจะยินดีหรือไม่ก็ตาม ซึ่งการจารกรรมครั้งนี้ก็มีเอฟบีไออย่างเจ.ที. โรเบิร์ตส (Don Cheadle) คอยตามติดสแตนลี่ย์แบบไม่ลดละครับ ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าพวกเขาจะหักเหลี่ยมเฉือนคมกันซักแค่ไหน

เอาล่ะครับ จุดที่ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดของหนังต้องยกให้ 10 นาทีแรกที่เล่าเหตุการณ์ตอนปล้นธนาคารครับ เปิดมาเกเบรียลก็นั่งบ่นๆ เกี่ยวกับหนัง Dog Day Afternoon ก่อนจะดำเนินแผนปล้นแบบเย้ยตำรวจสุดๆ แล้วก็ตามด้วยฉากระเบิดที่ถ่ายทำอย่างมีสไตล์สุดๆ ครับ สวยงามและได้อารมณ์มากๆ (คาดว่าติดมาจากหนัง the Matrix นั่นเองครับ เพราะ Joel Silver อำนวยการสร้างน่ะ แล้วตอนนั้นกำลังฮิตมุมกล้องแบบ 360 องศาแบบนี้ด้วย) จากฉากที่ว่านี่ตอนดูรอบแรกผมก็คิดเลยครับว่า โอ้ มาดูหนังถูกเรื่องแล้วเรา

… แต่หารู้ไม่ครับ หลังจากนั้นมาหามีอะไรเทียบเท่ากับฉากนั้นได้ไม่

พอหมดจากแกที่ว่านั้นหนังก็แฟล็ชแบ๊ค เล่าย้อนไปเหตุการณ์ก่อนการปล้นครับ เล่าว่าสแตนลี่ย์โดนพามาพัวพันได้อย่างไร แล้วแผนของเกเบรียลคืออะไรบ้าง ซึ่งหนังช่วงนี้จัดว่าอืดครับ ธรรมดาไม่ได้หักเหลี่ยมอะไรนัก เน้นเท่ห์และสไตล์ภาพกันอย่างเดียว ซึ่งถ้าดูงานด้านภาพมันก็พอเพลินน่ะครับ

แล้วการแสดงของ Jackman ก็ถือว่าเข้าตาพอดู ในขณะที่ Travolta ก็ร้ายได้ดี เท่ห์ได้เจ๋ง ทรงผมก็ได้ใจแล้วล่ะฮะ ยังไม่รวมลีลาสไตล์งูจงอางอีก (คือแกจะร้ายแบบงูจงอางน่ะครับ มีการส่ายคอดูเหยื่อก่อนจะฉกกัดอย่างรวดเร็ว)

แต่ดารารายอื่นถือว่าธรรมดาครับ Berry กับบทจินเจอร์ มือขวาของเกเบรียลก็อย่างงั้นๆ น่ะ และที่ผมเสียดายแทน Warner Bros มาจนทุกวันนี้ก็คือ หนังติดเรท R เนื่องมาจากฉากโชว์หน้าอกของ Berry แค่ไม่กี่นาที … ซึ่งน่าเสียดายสุดๆ เพราะมันเป็นฉากที่ไม่จำเป็นอะไรเลยครับ และผมเองก็สารภาพว่าเฉยมากกับ Berry ไม่ค่อยรู้สึกว่าเธอเซ็กซี่เท่าไหร่ ก็ทำให้เสียดายมากๆ เพราะถ้าหนังได้เรท PG-13 ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ทะยานร้อยล้านแน่นอน แต่เท่าที่ทำก็แค่ 70 ล้านต้นๆ เท่านั้น ก็ถือว่าทีมงานตัดสินใจพลาดครับ พลาดมากๆ เพราะหนังแม้จะไม่ดีสุดยอด แต่พลังสองดารานำและความเท่ห์ของเรื่อง บวกกับกระแสหนังภาพสไตล์ the Matrix ผมเชื่อว่าต้องดึงคนดูวัยรุ่นมาได้มากแน่นอน … แต่ก็พลาดไปแล้วอ้ะ 

ดารานอกจากนั้นอย่าง Cheadle ยอดฝีมือก็หมูๆ ครับกับบทนี้ เพียงแต่พี่ท่านก็ไม่สามารถจะไปเด่นแข่งกับสามคนข้างต้นได้ เพราะบทหนังมันไม่เปิดโอกาสน่ะ

งานนี้ ผู้กำกับ Dominic Sena แห่ง Gone in 60 Seconds ถือว่าทำได้ดีขึ้นครับ คงเพราะเนื้อเรื่องที่พอมีน้ำมีเนื้อให้จับต้องบ้างนั่นเอง งานด้านภาพก็ยังคงดีอยู่ครับ ฉับไวใช้ได้ พวกเหตุผลก็ต้องลืมๆ กันไปบ้างนะครับ ถ้าท่านไม่คิดมากหนังก็ถือว่าดูเอามันส์ได้ไม่เลว แม้เนื้อเรื่องจะสามารถเฉียบคมได้มากกว่านี้ก็เถอะ แต่ออกมาเท่านี้ก็พอไหวในระดับหนึ่งแล้วครับ

คิดอะไรมาก หนังมันเท่ห์ล้วนๆ อย่างฉากเกเบรียลถือปืนสองมือยิงหยั่งเงี้ย เจ๋งออก อีกอย่างผมว่า Travolta ช่วยหนังไว้ได้มากครับ เวลาร่ายแผนหรือพูดจานี่มันบ่งบอกเลยว่าพี่ท่านมีแผนในหัวตลอด ผมก็คลั่งพี่ท่านมากขึ้นไปอีกล่ะครับ (ของเดิมก็คลั่งจนเอานามสกุลมาตั้งเป็นนามปากกาแล้วเนี่ย เจออันนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลย)

หนังก็นานแล้วนะครับ แต่ผมว่ามันดูเพลินดี ดีกว่าหนังแอ๊คชั่นยุคนี้บางเรื่องด้วย เพราะสไตล์ภาพมันเด่นครับ เอาเป็นว่าคนชอบหนังแอ๊คชั่นเท่ห์ๆ สไตล์จารชนสั่งลุยก็น่าลองกับเรื่องนี้ครับ