หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังตลก , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi
เรื่องย่อ : ดูหนัง Doraemon The Movie (2010) สงครามเงือกใต้สมุทร ตอนที่ 30 เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ
เรื่องราวเมื่อ "โนบิตะ" อยากเป็นนักดำน้ำ "โดราเอมอน" ใช้ของวิเศษที่มีชื่อว่า "ที่ปั๊มน้ำสมมุติ" พร้อมแว่นดูน้ำสมมติ สร้างโลกทะเลจำลองให้ท่วมกรุงโตเกียวทั้งหมด ซึ่งทำให้เหล่าปลามากมายในทะเลเข้ามาแหวกว่ายอยู่ในเมืองมากมาย ราวกับเป็นโลกแห่งความฝัน โดราเอมอนกับโนบิตะเล่นสนุกในโลกทะเลสมมติจนเช้า เขาก็ได้พบกับ โซเฟีย เจ้าหญิงแห่งเผ่าเงือกที่หลุดมาในโลกทะเลจำลองด้วย พวกเขาจึงทราบว่า เผ่าเงือกนั้นสร้างอารยธรรมอาศัยอยู่ที่ใต้ทะเลมาตั้งแต่ 5,000 ปีก่อนแล้ว และแล้วโนบิตะและผองเพื่อนก็ได้ออกท่องโลกใต้ทะเลของจริงด้วยชุดเงือกที่ได้รับมานั่นเอง
แต่เวลาแห่งความเพลิดเพลินก็ต้องจบลง เมื่อต้องไปพัวพันกับสงครามระหว่างมนุษย์เงือก 2 เผ่าพันธุ์ "ชิซึกะ" ถูกจับตัวไป และ "บุยคิน" ราชาแห่งเผ่าเงือกปีศาจได้ปรากฎตัวขึ้นเพียงชิงเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานของมนุษย์เงือกมาเป็นอาวุธที่ตนจะใช้พิชิตโลก โนบิตะ และผองเพื่อนจึงต้องออกผจญภัยครั้งใหม่ เพื่อปกป้องดาบแห่งตำนาน และอนาคตของทุกคนไว้ด้วยพลังแห่งมิตรภาพ
IMDB : tt1613031
คะแนน : 6.8
รับชม : 9983 ครั้ง
เล่น : 3724 ครั้ง
เมื่อพระเอกหนุ่มสุดห่วย โนบิตะ เกิดอิจฉาตัวประกอบซูเนโอะที่อวดว่าตนเองไปทะเล พระเอกเราจึงไปขอร้องแมวตัวประกอบโดราเอม่อนให้ช่วยเค้าพาไปทะเล แน่นอนตัวประกอบม่อนสามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั้งครองโลก มีหรือจะไม่สามารถให้โนบิตะไปทะเลได้ จึงได้นำเครื่องมือที่ทำให้เมืองทั้งเมืองเป็นทะเล และปลามาแหวกว่าย และแล้วด้วยความบังเอิญ พระเอกเราได้พบกับนางเอกสุดสวยที่บังเอิญตกมาที่สวนหลังบ้าน โซเฟีย เงือกสาวเจ้าหญิงของอาณาจักรท้องทะเล แน่นอนเหล่าพระเอกและตัวประกอบทั้งหลาย ย่อมอยากไปเสรือกกะเค้า ด้วยการว่ายลงทะเล แต่ด้วยอุบัติเหตุบางประการ ทำให้อีนังตัวประกอบ ชิซุกะ โดนลักพาตัวโดยกลุ่มคนโฉด ที่หวังจะมาทำลายล้างอาณาจักรใต้ทะเลเพื่อครอบครองดาบในตำนาน พระเอกโนบิตะ นางเอกโซเฟีย และตัวประกอบทั้งหลาย จึงต้องหาทางหยุดยั้งพวกกลุ่มคนโฉด และช่วยนังตัวประกอบชิซุกะมาให้จงได้!!!!
มุมมองของSoma
จุดที่น่าสนใจของภาคนี้มี2อย่างคือ เป็นภาคฉลองครบรอบ30ปีของDoraemon Movie และเป็นภาคที่ทีมงานแต่งเนื้อเรื่องเอง แต่ความกังวลก็มีพอสมควร เพราะภาคตำนานยักษ์พฤกษาที่ทำออกมาไม่ค่อยดี ฉะนั้นกระผมจึงค่อนข้างลดความคาดหวังของภาคนี้ลงไปพอสมควร เพื่อจะได้ไม่เจ็บตัวมากมายแบบตอนตำนานยักษ์พฤกษา ซึ่งผลก็คือ สนุก ดูง่ายกว่าตอนตำนานยักษ์พฤกษา แต่ยังไม่อยู่ในขั้นประทับใจอะไรมากมายนัก
(มีใครนับมั้งเปล่าหว่า ว่าภาคหนังโรงตูออกกี่ครั้ง เอาตูเป็นตัวเอกบ้างซะทีสิโว้ย!!!!)
อย่างแรกที่จะพูดคือ ด้านงานภาพ ภาคนี้งานภาพค่อนข้างออกไปทางธรรมดา คือสวย แต่ไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไรนัก ซึ่งประหลาดใจพอสมควรจริงๆ เพราะจริงๆโครงเรื่องของภาคนี้มันอวยในการทำภาพให้สวย หรือมีสถาปัตยกรรมที่เจ๋งๆได้อย่างำไม่ยากเย็น แต่งานภาพดันออกมาธรรมดา มันเลยทำให้รู้สึกไม่ได้ดั่งหวังเท่าไร
แต่จุดที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คงหนีไม่พ้นรูปแบบของตัวละคร ที่ดูเหมือนจะพัฒนางานขึ้นเรื่อยๆจนดูสวยงาม และลงตัวมากขึ้น ไม่ได้ดูบิดๆเบี้ยวๆแบบภาคแรกๆที่หลายๆคนบ่นกันแล้ว ซึ่งถือว่าทีมงานนำข้อเสียที่แฟนๆบ่นเข้ามาพัฒนางานจุดนี้มาเรื่อยๆ สรุปคืองานภาพภาคนี้ สวยแต่ไม่ตื่นตา หรือน่าประทับใจแต่อย่างใด
(1สเน่ห์ ของม่อนรีเมค คือดวงตาชวนฮาบัดซบอันนี้แหละ)
ต่อมาเป็นเรื่องของดนตรีประกอบ ดนตรีประกอบภาคนี้ออกธรรมดา แต่เพลงประกอบภาคนี้สุดยอดมากมาย ครับดนตรีประกอบภาคนี้ค่อนข้างธรรมดามาก ไม่ค่อยติดหูหรืออะไรมากมายนัก ซึ่งค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยกับงานใหญ่ระดับนี้ (หรือไม่รู้เพราะติดใจกับภาคพฤกษาเกินไปหรือเปล่า ทำให้มองงานเพลงภาคนี้ค่อนข้างอ่อน)
แต่หนังก็ทดแทนด้วยเพลงประกอบ ทั้งKaeru Basho เพลงตอนจบท่ไพเราะอย่างมาก แต่ในหนังยังมีเพลงอีก2คือเพลงผู้ชายร้อง ที่ต้องขอบอกว่าไพเราะชวนให้ระลึกถึงตอนเก่าๆของโดราเอม่อนมูฟวี่เป็นอย่างยิ่ง อีกเพลงคือเพลงตอนโซเฟียร้องในตอนต้น ที่ฟังแล้ว อยากให้โตโฮออกOST ของม่อนมูฟวี่มากๆๆๆๆ
(ขอบอกว่า โดเรมี่ภาคนี้ โมเอะมากกกกกก น่ารักน่ากอดสุดๆ)
และก็มาถึงส่วนของเนื้อเรื่อง ภาคนี้ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า ดูสนุก ดูง่าย แต่เนื้อเรื่องไม่มีอะไรชวนประทับใจเลย ใช่แล้วเนื้อเรื่องง่าย เดินเรื่องไปเรื่อยๆค่อนข้างเร็ว ดูสนุกตามสไตล์โดราเอม่อน แต่กลับไม่มีซึ่งความประทับใจต่อเนื้อเรื่องอย่างที่ภาคผ่านๆมาสามารถทำได้เลย
อาจเป็นเพราะเนื้อเรื่องใช้เวลาในการอธิบายด้วยอาณาจักรใต้ทะเลไม่มาก เลยไม่ได้มีความผูกพันธ์อะไรกับตัวเมืองมากมาย แต่ที่น่าเสียดายสุดๆคือ การที่ตัวภาคนี้ให้ความสำคัญกับตัวละครค่อนข้างน้อย ทำให้เสน่ห์ตัวละครประจำภาคนี้ไม่ค่อยปรากฏ อย่างองค์หญิงโซเฟียนางเอกของภาคนี้ คิดว่าปมเรื่องการไม่อยากเป็นเจ้าหญิงน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่กลับคลี่คลายง่ายๆและไม่มีอะไรให้ก่อไผ่ทั้งนั้น ทำให้บทบาทของนางเอกโซเฟีย ดูจืดจางไม่น่าสนใจในทันที (ขณะที่ภาคอื่นๆ จะเน้นตัวละครพิเศษพอสมควร)
รวมทั้งเนื้อเรื่องในการสรุป ที่ต้องบอกว่าช่วงหลังทำได้ค่อนข้างลวกมาก ประมาณคิดทางออกเนื้เรื่องไม่ได้ พี่แกก็ตัดหรือสรุปง่ายๆกันทั้งอย่างนั้น โดยเฉพาะฉากจบที่ต้องเรียกว่า ลวกและไม่น่าประทับใจที่สุดในบรรดาโดราเอม่อนรีเมก เพราะมันรีบๆตัดจบไปอย่างงั้นโดยไม่ได้กล่าวอะไรเลย เรียกได้ว่าเป็นฉากจบที่ไม่ประทับใจเอาซะเลย
อีกจุดที่ขอตินิดนึงคือ ฉลอง30ปีทั้งที่น่าจะมีFeedback โดราเอม่อนมูฟวี่ภาคเก่าๆหน่อย เพราะรู้สึกสิ่งที่Feedback มันมีน้อยมาก (มีแค่เดคิซุงิ กับริงโทนโดราเอม่อนเองมั้ง) เลยรู้สึกเสียดายหน่อยๆ
(พระเอกและนางเอก จับมือสายสัมพันธ์แห่งความรัก)
แต่ถึงยังไง ภาคนี้ผมก็อยู่ในขั้นชอบ เพราะถึงเนื้อเรื่องจะหลวม กลวงโบร๋ว แต่ก็สามารถดูสนุก ดูเข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่จุดที่ต้องยอมรับภาคนี้เลยคงเป็น
โซเฟียน่ารักมากกกกกกกกก
พูดถึงโซเฟีย ขอติทีมพากย์เล็กน้อย เพราะเนื่องจากอันตัวผมดูไฟล์RAWมาก่อนแล้ว มีช่วงนึงที่ทีมพากย์ของไทยมักง่ายไม่พากย์เสียงโซเฟียตอนเธอพูดภาษาต่างประเทศไปเลย ซึ่งอาจจะดูเล็กน้อย แต่มันไม่น่าจะตัดบทพูดไปเลย ถือเป็นจุดติเล็กๆน้อยๆของทีมพากย์ในครั้งนี้ นอกนั้นทีมพากย์ยังคงมีประสิทธิภาพในการพากย์โดราเอม่อนเหมือนเดิม
สรุป : สนุกตามมาตราฐานโดราเอม่อน ส่วนตัวค่อนข้างชอบกว่าตำนานยักษ์พฤกษา แต่เสียดายที่เนื้อเรื่องค่อนข้างขาดความน่าสนใจ ทำให้ตอนท้ายไม่ประทับใจเท่าที่ควรนัก แต่แฟนโดราเอม่อนก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเช่นเดิมครับ