เป็นหนังรีเมคจากหนังชื่อเดียวกัน ของผู้กำกับ Eli Roth ในปี 2002 แต่คราวนี้ ตา Eli แกมาเป็นแค่คนเขียนและปรับปรุงบทหนัง ส่วนหน้าที่กำกับเป็นของ Travis Zariwny แทน ซึ่งเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เปลี่ยนเยอะ แต่ส่วนตัวผมว่าความอี๋ถึงจะสยองสุดๆ แต่มันยังไม่ใช่ลายเซ็นของ Eli Roth น่ะครับ มันยังเหมือนขาดอะไรไป
เรื่องราวเป็นของเด็กวัยรุ่น 5 คน ที่ขับรถมาเที่ยวและเข้าพักในบ้านพักริมน้ำหลังหนึ่ง ซึ่งคนในชุมชนมีท่าทีแปลกๆ ตั้งแต่เข้ามา แต่แล้วเรื่องราวแปลกๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาติดเชื้อไวรัสนรกที่ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อในร่างกายของพวกเขาแต่ละคน ค่อยๆ เน่าเปื่อยไปจนตาย
หนังเดินเรื่องแบบหนังสยองขวัญวัยรุ่นทั่วไป มีวัยรุ่นคึกคะนอง มีตัวละครที่พร้อมจะทำอะไรโง่ๆ ตลอดเวลา มีคู่รัก มีฉากวับๆ แวมๆ ตามสไตล์ แต่แฝงไปด้วยความลึกลับและน่ากลัว หนังค่อยๆ ปล่อยความสยองแบบแปลกๆ ออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตัวละครลึกลับที่เป็นใครก็ไม่รู้ พร้อมจะพุ่งตัวเข้าใส่แก๊งนี้ตลอดเวลาเพื่อทำให้เหมือนเป็นพาหะนำโรค แล้วก็ค่อยๆ ขยายวงออกไป
พอเริ่มใส่ความแหยะ ความอี๋เข้ามา หนังก็เดินไปตามทางของหนังสยองขวัญพร้อมอี๋เข้ามาเรื่อยๆ ตัวละครค่อยๆ ผลัดกันติดเชื้อและค่อยๆ เปื่อยทีละคน ถึงแม้ว่าหนังจะใส่ความสยองเข้ามา แต่ถ้าเคยดูหนังของ Eli Roth จะรู้สึกว่า ความทารุณที่มีต่อตัวละคร มันยังไม่เหมือนหนังของ Eli ที่เคยดูกันมา มันยังเหมือนขาดอะไรไป กลิ่นมันยังไม่ใช่ เอาง่ายๆ ผมเทียบกับเรื่องล่าสุดที่ผมได้ดูคือ Green Inferno ซึ่งนั่นก็อี๋เลือดสาด แต่มันดูทรมานทรกรรมตัวละครจนคนดูผะอืดผะอมในรูปแบบมาตรฐานของ Eli Roth มากกว่า
หนังมันเดินตามทางของเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรพลิกแพลง ที่อาจจะมีบางอย่างที่งงและไม่สมเหตุสมผล เช่นคนแรกที่ติดเชื้อแต่กลับยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กับคนที่ติดเชื้อทีหลังกลับส่งผลรุนแรงกว่า หรือคนที่โดนเชื้อไวรัสเข้าไปแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือปืนยิงออกไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ ปืนอันเดิมก็ติดเซฟตี้ซะเฉย มันกลายเป็นว่ามีหลายๆ จุดที่ดูแล้วก็ต้องตั้งคำถามอยู่เยอะเหมือนกัน ซึ่งผมยังไม่เคยดูเวอร์ชั่นปี 2002 ไม่รู้ว่าจะดีกว่าหรือไม่อาจจะต้องไปหามาดู
ถามว่าหนังดีมั๊ย ก็ดีในระดับนึง เรื่องความสยองความโหด ความอี๋ถือว่าผ่าน ยิ่งฉากหลังๆ ที่เนื้อเปื่อยยุ่ยค่อยๆ หลุดออกมา มันชวนแหวะดีเหลือเกิน แต่พอนึกถึงชื่อ Eli Roth เจ้าพ่อหนังเลือดสาด เอาจริงๆ ผมหวังจะเห็นมากกว่านี้นะ