หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนังอาชญากรรม
เรื่องย่อ : ดูหนัง Scream 1 (1996) หวีดสุดขีด 1 เต็มเรื่อง
หลังจากแม่ของ ซิดนี่ย์ ตายลง ความน่ากลัวได้ติดตามซิดนีย์โดยฆาตกรต่อเนื่องที่สวมหน้ากากพรางใบหน้าตามฆ่าคนใกล้ชิดกับเธอ ก่อนที่คนเหล่านั้นจะถูกฆ่า ฆาตกรจะโทรเข้ามาหาเพื่อเล่นเกมถามตอบกับเหยื่อเหล่านั้น ก่อนที่จะฆ่าอย่างทารุณหลังจากเหยื่อตอบคำถามผิด เรื่องดำเนินมาถึงจุดสุดท้ายก่อนที่ซิดนี่ย์จะถูกฆ่า เธอได้รู้ความจริงที่เหลือเชื่อ นั่นคือ ฆาตกรคือใคร
IMDB : tt0117571
คะแนน : 7.2
รับชม : 7747 ครั้ง
เล่น : 4045 ครั้ง
“I wanna play a GAME!”
14 ปีผ่านไปแล้วนะครับ สำหรับครั้งแรกที่หนังเรื่องนี้ออกฉายในปี 1996 ณ เวลาที่หยิบหนังเรื่องนี้กลับมาพูดถึงอีกครั้งก็ปี 2010 เข้าแล้ว จำได้มั้ยครับในปี 1996 เพื่อนๆ ทำอะไรกันอยู่ เรียนหนังสือ? เพิ่งทำงาน? ผมจำได้ว่าตอนนั้นที่หนังเรื่องนี้เข้าฉาย ผมไม่ได้ไปดูที่โรงล่ะครับ แต่พี่สาว (ผู้ชื่นชอบหนังสยองขวัญเช่นกัน) ได้มีโอกาสไปดูมา คนดูเต็มโรง หนังแถวหน้า ได้สะดุ้ง ได้ยี้ และได้ “หวีด” สมใจอยาก
Scream ถือได้ว่าเป็นหนังปลุกกระแสตระกูลหนังวัยรุ่นถูกฆาตกรโรคจิตไล่ล่าฆ่าโหด หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Teen Slasher film ทำให้หนังจำพวกนี้โผล่ตามออกมาเพียบครับ อาทิเช่น I know what you did last summer, I still know what you did last summer, Urban Legend, Gossip, Psycho Beach Party, Blood Murder, Cherry Falls, Cry wolf เป็นต้น สำหรับหนัง Scream เอง ก็สร้างภาค 2 และ 3 ออกมาอีก เรียกว่าเป็น Scream Trilogy ทำออกขายมาเป็นบ็อกเซ็ท ตอนนี้ใครเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ก็ติดตามดูภาค 4 ละกันครับ ซึ่งอาจจะมีภาค 5, 6….ต่อๆ ไปอีก สาว Sidney Prescott (แสดงโดย Neve Campbell) คงต้องแสดงไปจนถึงบทที่เป็นป้า เป็นย่า ยาย และ “การเชือดสยองครั้งใหม่ของเจ้า Ghost Face ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งในสมัยลูกหลาน” อะไรทำนองนี้…(คิดเล่นๆ หน่ะครับ)
พูดถึง Ghostface นี่ กลายมาเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปโดยปริยายเลยนะครับ กลายเป็น brand ที่น่าจดจำสำหรับคอหนังสยองขวัญ อีกทั้ง เจ้า Ghostface นี่ไม่ได้มีคนเดียวเหมือนฆาตกรในหนังสยองเรื่องอื่นๆ (อย่างในภาคแรกของ Scream นี้ เจ้า Ghostface มีสองคนคือ Billy กับ Stu วัยรุ่นสองคนที่คลั่งไคล้หนังสยองขวัญ อีกคนมีปมความแค้นส่วนตัวกับครอบครัวของ Sidney เลยจัดแจงผสมโรงกันไล่เชือดอย่างสนุกสนาน) ใครสวมใส่หน้ากาก Ghostface ก็ได้เป็นฆาตกรก็ได้ แถมโดนเตะผ่าหมาก (ก็จุกได้) โดนถีบ โดนต่อย เอาขวดขว้างใส่ ก็เจ็บได้ เอาปืนยิง มีดเสียบก็ตายได้เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ผิดกับคาเร็กเตอร์ของฆาตกรโหดคนอื่นๆ ทั้งฟัน ชำแหละ ยิงแสกหน้า ขวานฟัน พี่แม่งก็ยังไม่ตายสักที (อึดยิ่งกว่า John McClane แห่ง Die Hard ซะอีก) ด้วยความสมจริงของฆาตกรตัวนี้ก็ยิ่งทำให้เราได้สนุกและเข้าถึงหนังเรื่อง Scream ซึ่งประสบความสำเร็จมากมาย และถูกยกย่องขึ้นหิ้งหนังสยองขวัญคลาสสิกตลอดกาลเลยทีเดียว
อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ บทภาพยนตร์ที่มีการพูดถึงภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกมากมายหลายเรื่อง การนำมาเป็นบทภาพยนตร์การสนทนาเขย่าขวัญเหยื่อทางโทรศัพท์ของเจ้า Ghostface กลายเป็นเกมส์สยองที่หากเหยื่อตอบไม่ได้ก็ต้องถูกเชือด (ตอบได้ มันก็เชือด!) ใครจำได้บ้างครับว่า มีการพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง…ลองกลับไปเปิดดูหนังอีกรอบละกัน ส่วนการที่นำภาพยนตร์สยองมากล่าวถึงในเรื่องนี้ เป็นการพูดถึงในเชิงยกย่องนะครับ ไม่ได้นำมาเสียดสี ประชดประชันอะไร
นอกจากบทภาพยนตร์แล้วฉากต่างๆ ในเรื่องนี้ก็ยังมีการล้อกับหนังสยองขวัญคลาสสิกหลายเรื่องด้วยเช่นกันนะ มีมาให้เห็นตั้งแต่ฉากแรกที่ Casey (แสดงโดย Drew Barrymore) วิ่งหนีเจ้าฆาตกร แล้วภาพก็ถูกทำให้เป็นแบบสโลโมชั่น หรือฉากที่ Casey ถูกจับแขวนกับต้นไม้ใหญ่ มุมมองของภาพ การให้แสงก็เหมือนกับภาพยนตร์สยองคลาสสิกอีกเรื่อง ลองไปสังเกตดูนะครับ มีอีกหลายเรื่องเลยที่ถูกนำมาเลียนแบบในเชิงยกย่อง
คงไม่เขียนถึงเนื้อเรื่องอะไรให้มากความ ใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญน่าจะผ่านตากับเรื่องนี้อยู่แล้ว สำหรับสาวกหนังสยองขวัญที่เพิ่งหันมาดู มาศึกษาก็ลองไปหาหนังเรื่องนี้มาดูด้วยนะครับ อย่าชาชินกับความโหดที่หนังสยองยุคนี้ (ยุค 2000) ประเคนใส่ให้มากมายจนชาด้านกับความสนุกสนานในหนังคลาสิกเรื่องนี้ไปล่ะ