ดูหนัง Frantic (1988) ผวาสุดนรก เต็มเรื่อง

ถ้าพูดถึงผู้กำกับที่ทำหนังแนวลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ประเภทให้พระเอกธรรมดาคนหนึ่ง หลุดไปพัวพันกับเรื่องปริศนาโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไร เลยต้องค่อยๆ สืบหาข้อมูล ปะติดปะต่อเรื่องราว ปมคลายทีละเปลาะก่อนจะสรุปเรื่องให้คนดูได้ทราบว่าตกลงพระเอกต้องเจอกับเรื่องอะไรกันแน่

คนทำหนังแนวนี้ ที่ผมยกให้เป็นแถวหน้า ต้อง Roman Polanski เท่านั้น

ผลงานระดับคลาสสิกของเขาส่วนใหญ่ก็ออกอีหรอบนี้ทั้งสิ้นครับ ไม่ว่าจะ Rosemary’s Baby (หญิงสาวที่สงสัยว่าลูกในครรภ์เธออาจไม่ใช่คน), Chinatown (พระเอกคือนักสืบเชลยศักดิ์ที่เข้าไปพัวพันกับแผนฉ้อฉลโดยไม่รู้ตัว), Death and the Maiden (ผู้หญิงคนหนึ่งสงสัยว่าชายลึกลับที่แวะมาที่บ้านพร้อมสามีของเธอ คือคนชั่วที่เคยทำร้ายเธอเมื่อหลายปีก่อน) และ The Ninth Gate (พระเอกได้รับคำสั่งให้สืบหาหนังสือที่ว่ากันว่าเขียนขึ้นโดยซาตาน!) แต่ละเรื่องตัวเอกต้องเจอเรื่องแปลกๆ ก่อนจะค่อยๆ สืบเพื่อหาความจริง

และ Frantic ก็เป็นแนวนั้นเช่นกัน

Harrison Ford รับบทเป็น ดร.ริชาร์ด วอล์คเกอร์ ที่พาซอนดร้า ภรรยาที่น่ารัก (Betty Buckley) ไปเที่ยวพักผ่อนที่ปารีส ช่วงแรกๆ ทั้งสองก็กระหนุงกระหนิงกันดีล่ะครับ แต่แล้วจู่ๆ ซอนดร้าก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครเห็นเธอ ไม่มีใครรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น ริชาร์ดก็มืดแปดด้านล่ะครับ แจ้งความแล้วก็ไม่มีใครช่วยได้ เพราะไร้พยานและหลักฐานไม่ว่าจะชนิดไหนทั้งนั้น ทำให้ริชาร์ดต้องลงมือตามหาภรรยาในเมืองปารีสที่เขาไม่คุ้นเคย ไม่มีใครรู้จักทั้งนั้น … แล้วภรรยาของเขาหายไปไหน?

เรื่องย่อสั้นมากครับ ที่เหลือไปดูเองย่อมดีที่สุด เพราะหนังมันสนุกตรงการตามปมนี่แหละ ช่วงต้นอาจน่าเบื่อไปบ้างนะครับตอนที่ริชาร์ดกับภรรยายังอยู่ด้วยกัน แต่พอถึงวินาทีที่เธอหายไปเท่านั้นล่ะ เฮีย Roman แกสำแดงฝีมือ โปรยปมมาทีละอย่างให้พระเอกตาม คนดูก็ต้องตามพี่แกไปด้วยเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมภรรยาถึงมาหายแบบไร้ปี่ไร้ขลุ่ยไร้กลองอีแบบนี้

ใครชอบหนังแนวสืบหาปมปริศนาแบบนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ จังหวะจะโคนการเดินเรื่องถือว่าใช้ได้ น่าติดตามไม่เลว แต่ถ้าให้เทียบกับงานชิ้นคลาสสิกของเฮีย Roman อย่าง Rosemary’s Baby และ Chinatown แล้วล่ะก็ เรื่อง Frantic ยังเป็นรองอยู่มากครับ สองเรื่องนั้นถือว่าเป็นอภิมหาหนังสืบสวนลึกลับที่คอห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

แม้ Frantic จะไม่ได้คลาสสิกขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าน่าพอใจอยู่ดีครับ จุดอ่อนมันจะมีตรงที่ความยืดเยื้อไปหน่อยในหลายช่วง หนังยาวราวสองชั่วโมงน่ะครับ ถ้าตัดที่มันเกินๆ สัก 20 นาทีให้หนังกระชับคงจะมันส์กว่านี้ แต่ถึงยังไงแม้จะอืดไปบ้าง แต่คอหนังแนวนี้ก็ไม่ควรพลาดครับ

มาว่ากันที่จุดดีบ้าง ดารานั้นเลือกมาดีครับ Ford แสดงได้ไม่มีปัญหากับบทแพทย์ปัญญาชนที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อภรรยาหายตัวไป ฉากที่เขาต้องโทรไปหาลูก แล้วลูกถามว่าแม่สบายดีไหม เขาก็จำต้องโกหกว่าแม่สบายดี จากนั้นน้ำตาก็ค่อยๆ ไหลลงมา อันนี้ได้ใจผมไปเต็มๆ เลยครับ สงสารพี่เขาแบบจับใจ แล้วยังดูหมดหวังเอามากๆ ด้วย

ส่วนดาราอีกคนที่มาประกบพระเอกในครึ่งหลังคือ Emmanuelle Seigner ดาราสาวหน้าแปลกที่ตอนนี้เป็นภรรยาของพี่ Roman น่ะแหละ แต่งงานกันช่วงทำหนังเรื่องนี้แหละครับ เธอมารับบทมิเชลล์ สาวเมืองน้ำหอมลึกลับที่โผล่มาช่วยพระเอก เธอคนนี้เป็นสาวที่สวยและมีเสน่ห์มากๆ นะครับ เล่นเรื่องไหนได้ความเด่นไปทุกที เพราะเธอดูลึกลับแต่ก็น่าค้นหาไปในเวลาเดียวกัน Seigner ก็ได้เล่นหนังของเฮีย Roman แกประจำล่ะครับ ส่วนมากบทจะออกแนวสวย ลึกลับและเซ็กซี่ทั้งสิ้น

เธอเป็นหนังลึกลับตามปมที่ไม่ผิดหวังครับ ถ้าคุณทำใจรับได้กับความอืดนะครับ คุณจะสนุกกับหนังพอตัว ตื่นเต้นและลุ้นใช้ได้

แต่ดูหนังแนวนี้มากๆ ก็อดหลอนไม่ได้นะ กลัวสิครับว่าเราจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้รึเปล่า และถ้าเจอทีนี่ก็คงอึ้งไปเลยเหมือนกัน ดูแล้วก็เหมือนจะเตือนให้เราระวังนะครับ ทำอะไรให้ใจเย็นๆ ตรวจสอบอะไรต่างๆ ให้แน่นอนเสียก่อน (ใครดูแล้วคงจะเข้าใจ) ประเภทหยับของใครมาผิดหรือประมาทเพียงนิดก็อาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดได้ครับ

สอนให้เรามีสติเสมอน่ะ ว่างั้นเถอะ

และที่ลืมไม่ได้คือดนตรีประกอบโดย Ennio Morricone รายนี้ทำดีไม่มีตกครับ และยังเป็นเพลงที่หนังไทยละครไทยเอามาใช้บ่อยมาก โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครสักคนย่องเข้าไปหาหลักฐานในห้องของศัตรูน่ะ

อยากดูหนังลึกลับ เรื่องนี้ไม่เลวครับ แต่ถ้าอยากได้คลาสสิกระดับไม่มีคำว่าผิดหวัง ก็จงห้ามพลาด Rosemary’s Baby และ Chinatown