ดูหนัง Rogue (2007) ตำนานโหดโคตรไอ้เคี่ยม เต็มเรื่อง

     เหตุผลประการณ์เดียวที่ทำให้ผมตัดสินใจคว้าเรื่องนี้มาดู นั่นก็เพราะผมชอบดูหนังแนวนี้ครับ มันไม่ใช่หนังที่ยอดเยี่ยมสำหรับชิงรางวัลแน่นอน แต่ทำมาสำหรับคอหนังสยองขวัญแบบผมมากกว่า นั่นคือ "ความบันเทิงเริงใจขณะที่รับชม"

     หนังไม่จำเป็นต้องดีมากครับ ขอแค่ให้มันสนุกและโดนใจ แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงละ หรือถ้าไม่สนุกมาก ก็ต้องเป็นหนังที่มีอะไรน่าจดจำ เช่น Dialogue หรือว่าข้อคิดของหนังที่แทรกเข้ามาให้เราคิดตามหลังจากหนังจบ พอผมดูเรื่อง Rogue จบ ก็อิ่มอุราพอสมควรครับ เพราะหนังสนุก บันเทิง และตอบโจทย์ความเป็นหนังสยองขวัญได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจเลย

     เนื้อเรื่องก็ง่ายๆ เลยครับ มีกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ลงเรือพากันไปสำรวจเขตที่อยู่อาศัยของจระเข้น้ำเค็ม ซึ่งทริปนี้จะเป็นเหมือนทัวส์ดูธรรมชาติดูวิวทิวทัศน์ที่สวยงามพร้อมกับดูบรรดาจระเข้ไปด้วย แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อพวกเขาหันหัวเรือออกนอกเส้นทางเพื่อตามพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ เมื่อมาถึงที่หมายพวกเขาถูกจู่โจมอย่างรุนแรงใต้ท้องเรือส่งผลให้เรือกำลังจะจม คนขับจำเป็นต้องขับเรือพุ่งเขาเนินดินที่โผล่ขึ้นมากลางน้ำ ทำให้ตอนนี้พวกเขาไปไหนไม่ได้ซะแล้ว ทางเดียวที่พวกเขาจะรอดไปจากที่นี่ได้คือต้องว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งที่อยู่ตรงกันข้าม แต่มันจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรอ เมื่อจระเข้ยักษ์ขนาดมหึมาความยาวไม่ต่ำกว่า 25 ฟุต สัตว์ร้ายที่แสนดุและหวงถิ่น ตอนนี้พวกเขาอยู่ใจกลางของถิ่นหาอาหารของมัน และมันคิดว่าทุกๆคนคือเหยื่อและรองาบทุกคนที่คิดจะลงน้ำ ขณะที่พวกเขารอความช่วยเหลือเวลาก็เลยผ่านไปจนถึงเย็นระดับน้ำเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และยิ่งเวลาผ่านไปจนถึงกลางคืนน้ำก็เริ่มท่วมเนินดินพวกเขามีเวลาไม่มากก่อนที่เนินดินจะถูกน้ำท่วมจนมิด อยู่ก็ตายหนีก็ตายนาทีนี้ไม่มีใครช่วยพวกเขาได้เลย

     หนังเปิดเรื่องมาอย่างเบาๆ จะเล่าว่าเหล่าตัวละครเป็นใครมาจากไหนบ้าง แม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดให้แต่ละตัวละครมาก(ยกเว้นพระเอกที่พอจะมี Background มากกว่าคนอื่นในทัวร์) แต่กระนั้นตัวละครก็ไม่ได้บางเบาเลย ในช่วงแรกของหนังนั้นออกแนวเรื่อยๆ ปูเรื่องแบบเบาๆ ก่อนจะผลักเราตกน้ำไปตามตัวละครในช่วงที่เริ่มมีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น เช่นเรือถูกบางอย่างโจมตี หรือว่าสมาชิกในทัวร์โดนจระเข้ลากไปรับประทานต่อหน้าต่อตา นั่นทำให้บรรยากาศเบาๆ ในช่วงแรกของหนังนั้นเปลี่ยนเป็นจริงจังและดุดันขึ้นมาทันที

     ต้องขอชื่นชมผกก. Greg McLean(จากเรื่อง Wolf Creek ที่ข้าพเจ้านั่นชื่นชอบมากเป็นอันดับต้นๆ ของหนังสยองขวัญช่วงยุค 2000) ที่สามารถคุมโทนหนังออกมาได้กดดัน ระทึก และเสียวสันหลังเป็นอย่างมาก ถึงแม้เราจะไม่ค่อยเห็นตัวจระเข้บ่อยนัก ออกมาแค่ 2 ฉากเห็นจะได้(แต่โผล่มาอย่างจุใจในช่วงหลัง) แต่หนังก็กดดันมากพอสมควร เพราะเราไม่รู้เลยว่าไอ้เข้มันจะโผล่มางาบตัวละครตอนไหน แล้วมีใครบ้างที่จะโดนมันงาบ(สารภาพว่าฉากที่มันงาบ 2 ศพแรกผมอึ้งพอสมควร เพราะมันรับประทานไม่เลือกคนจริงๆ) และยิ่งฉากไต่เชือกในกลางเรื่องนั้น ยกให้เป็นฉากที่ลุ้นระทึกที่สุดในเรื่องเลย เพราะจังหวะดนตรีและมุมกล้องในฉากนี้ต้องบอกเลยว่าเนี๊ยบและกดดันคนดูเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นในแง่ความสยองและความกดดัน หนังสอบผ่านฉลุยครับ

     หนังมีปัญหาอยู่สองสามประการ อย่างแรกเลยคือบทหนังที่ค่อนข้างเขียนมาดีในช่วงแรก อย่างที่บอกว่าหนังไม่ได้ใส่ Background ให้ทุกตัวละครเยอะเท่าไหร่ แต่กระนั้นทุกตัวละครกลับน่าจดจำและไม่โดนกลืนหายไปเมื่อหนังพาเหล่าตัวละครมาเจอกับสถานการณ์คับขัน แต่สิ่งที่ทำให้หนังดูด้อยก็คือที่มาที่ไปในบางจุด เช่น จระเข้มาจากไหน แล้วทำไมถึงตัวใหญ่ขนาดนั้น หรือว่าที่มาของพลุ จนถึงตอนจบหนังก็ไม่ได้เฉลยปมในจุดนี้ให้เคลียร์กระจ่างกับคนดูเลย ปล่อยให้เราเดาและปะติดปะต่อกันเอาเอง

     ปัญหาอย่างต่อมาก็คือความสมจริง จริงๆ หนังไม่ต้องสมจริงมากก็ได้ บางจุดสามารถทำให้มันเว่อร์ๆ ได้ แต่บางที่ไม่ควรเว่อร์ก็ไม่จำเป็นต้องทำ Rogue เลือกทำข้อหลัง นั่นคือเว่อร์ในจุดที่ไม่ควรเว่อร์ หลายคนที่ดูแล้วอาจจะรู้ว่าผมหมายถึงอะไร เอาเป็นว่าตรงนี้หนังทำได้ไม่ค่อยดีครับ แต่ข้อเสียที่ว่าก็ไม่ได้ทำร้ายหนังอะไรมากมาย เพราะข้อดีของหนังมันเด่นและชูหนังมากๆ นั่นก็คือ "หนังมันส์จริง ลุ้นจริง และกดดันจริง"

     เหล่านักแสดงทั้งหลายในเรื่อง ผมว่าส่วนหนึ่งที่ทุกตัวละครดูเด่นนั่นก็เพราะการแสดงของพวกเขาด้วยส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะ Radha Mitchell ที่เล่นเป็นผู้นำทัวร์ได้สมจริงสุดๆ เธอดูมุ่งมั่นและมีความเป็นผู้นำสูงมาก อีกคนก็คือ Sam Worthington ที่มาในบทหนุ่มแสบใจดี คนนี้ก็เล่นได้เด่นไม่แพ้นางเอกเลย บางฉากนี่รัศมีผู้นำเด่นชัดมาก จนพระเอกของเรา Michael Vartan ดูจืดไปเลยทันที

     ทางด้าน CG ของหนังนั้น เนื่องจากจระเข้ของเรื่องนั้นโผล่มาค่อนข้างน้อย เราเลยเห็นตัวจระเข้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ทุกฉากที่ไอ้เข้มันปรากฎตัว(โดยเฉพาะฉากไคล์แมกซ์ 15 นาทีท้ายเรื่องที่พระเอกต้องปะฉะดะกับไอ้เข้คนเดียว) ไม่มีฉากไหนเลยที่ CG ดูลอยหรือว่าหลอกตา

     สรุปแล้ว Rogue ก็เป็นหนังสยองขวัญแนวสัตว์โลกน่ารักที่ทำออกมาได้ดี ดูแล้วคุ้มกับเวลาที่เสียไป และแน่นอนว่าข้าพเจ้าชอบเรื่องนี้มากกว่า Primeval พอสมควร แต่กระนั้นก็ยังไม่ถึงขั้นชอบมาแบบ Crawl เพราะเรื่องนั้นสุดกว่าในหลายด้าน แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้แย่เลย ดูแล้วลุ้นระทึก กดดันพอสมควร ใครชอบหนังแนวนี้ แนะนำให้ลองชิมครับ อาจจะถูกใจท่านก็เป็นได้