หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง Argo (2012) อาร์โก้ แผนฉกฟ้าแลบลวงสะท้านโลก เต็มเรื่อง
ภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวดราม่าผลงานจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ และ จีเค ฟิล์มส์ “Argo” เป็นเรื่องราวที่ถูกปกปิดไว้จากความเป็นความตายในการช่วยเหลือชาวอเมริกัน 6 คน ซึ่งมีการพบเบื้องหลัง the Iran hostage crisis ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่คนทั่วไปไม่มีวันรู้มานานนับหลายทศวรรษ
IMDB : tt1024648
คะแนน : 7.7
รับชม : 4696 ครั้ง
เล่น : 1965 ครั้ง
จากเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริง ของเหตุการณ์การจับตัวเจ้าหน้าที่สถาณทูตสหรัฐในอิหร่านที่เกิดขึ้นในปี 1980 ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Argo โดยได้ เบน แอฟเฟล็ค มารับหน้าที่กำกับ และแสดงนำเอง ซึ่งบอกกันตามตรงเลยว่า แอฟเฟล็ค เป็นคนที่มีพัฒนาการดีมากในการเป็นผู้กำกับ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามของเขาน่ะครับ ที่ได้ลงมือสร้างเอง ลุยเอง ก่อนหน้านี้ที่ทำก็คือ Gone Baby Gone และ The Town ซึ่งสองเรื่องก่อนหน้านั้น ยังเป็นหนังที่เรียกได้ว่า เล็กๆแต่คุณภาพพอตัว แต่พอเขามาทำ Argo ผมเห็นได้ชัดเลยว่า มันเหนือกว่าที่เขาทำมาทั้งหมด ด้วยสเกลหนังที่ใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น ตัวละครที่ต้องมีบทสนทนาที่ลื่นไหล และความสมจริงสมจังที่เขาต้องถ่ายทอดออกมาจากทุกอณูหนัง ซึ่งแน่นอนว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ
Argo จากเรื่องราวที่บอกไว้ข้างต้น แต่จะเล่าให้ฟังอีกทีสั้นๆง่ายๆ เมื่อชาวอิหร่านมีความต้องการที่จะให้ทางสหรัฐอเมริกา ส่งตัวกษัตริย์ชาผู้หนีไปอยู่สหรัฐอเมริกา ที่เคยปกครองแบบกดขี่พวกเขามาตลอด ให้กลับมาสำเร็จโทษ แต่ทางอเมริกาก็ไม่ได้ต้องการจะส่งตัวกลับไปด้วยเหตุผลทางการเมืองระดับประเทศบางอย่าง ทีนี้หวยซวยเลยไปออกที่ เจ้าหน้าที่สถาณทูตสหรัฐ พวกเขาถูกบุกจับกุมเป็นตัวประกัน มีเพียง 6 คน ที่หนีออกมาแล้วไปกบดานที่บ้านสถาณทูตแคนาดา
ฝั่งอเมริกาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ฝ่ายซีไอเอได้วางแผนจะไปชิงตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 กลับมา เพราะว่า ทางกองทหารของอิหร่านเริ่มจะตะหงิดๆแล้วว่า “ทำไมตัวประกันมันไม่ครบคนฟ่ะ” เป็นเรื่องแล้วครับทีนี้ หากพวกทหารอิหร่านพบเจอก่อน ทั้ง 6 จะถูกทำให้ดับสิ้นชีวิตกลางที่สาธาราณะแน่นอน
แต่เพราะแผนการอันไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไร ทางเจ้าหน้าที่ซีไอเอหนุ่มนาม โทนี่ เมนเดซ (เบน แอฟเฟล็ค) จึงขออาสาชิงพวกเขากลับบ้านอย่างปลอดภัยเอง แต่เขายังไม่รับรู้วิธีที่จะไปพาพวกเขาออกมานี่ซิ แต่เดชะบุญ คืนนั้นหลังจากที่เขาได้โทรศัพท์คุยกับลูกอยู่ แล้วถามไถ่ว่าลูกทำอะไร
ลูกก็บอกว่าดูหนัง เขาจึงเปิดช่องนั้นตามลูก จากนั้น “ภารกิจสร้างหนังปลอมๆ เพื่อชิงเจ้าหน้าที่ 6 คน กลับมา” ก็เกิดขึ้นทันที
เรื่องราวได้ส่งถึงระดับทำเนียบขาว และก็ดันได้รับการอนุมัติด้วย เพราะไม่มีวิธีไหนแล้วที่จะเลวร้ายกว่านี้ โทนี่ จึงได้ออกตามหาผู้ช่ำช่องในการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งก็ได้เจอกับ จอห์น แชมเบอร์ (จอห์น กู๊ดแมน) มือเอฟเฟก และ เลสเตอร์ ซีเกล (อลัน อาร์กิน) ผู้อำนวยการสร้างหนังผู้ยิ่งใหญ่ แล้วผมที่ได้ออกมาก็คือหนังไซไฟชื่อว่า Argo ที่มีคิวจะไปหาสถาณที่ถ่ายทำใน อิหร่าน โดยที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 คนที่ อิหร่านจะต้องปลอมตัวเป็นทีมงานสร้างหนังที่เดินทางเข้ามา แล้วก็เตรียมจะเดินทางกลับไป แล้วเรื่องราวจะเป็นแบบไหน วิธีการแปลกประหลาดนี้จะไปรอดหรือไม่ ต้องติดตามครับ
หากเป็นคนที่ตามข่าวมา หรือมีอายุซักหน่อย (ราวๆ 30 ขึ้นไป) จะได้ยินข่าวคราวเรื่องนี้ และพบว่าตอนสุดท้ายแล้ว เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ได้เดินทางกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัยนั้นเอง ซึ่งอยากจะบอกว่าตัวหนังที่ แอฟเฟล็ก ถ่ายทอดออกมานั้น ละเอียดละเมียดละไมในการทำมากๆ ฉากทุกฉาก พยายามสร้างจากฉากจริงๆ ซึ่งมันยอดเยี่ยมอย่างมากมาย ในจะเหตุการณ์ชุลมุนของชาวอิหร่านที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าขนลุก และน่าทึ่งไปในที
แอฟเฟล็ค นอกจากจะทำหนังประวัติศาสตร์แล้ว เขายังแฝงเรื่องการเมือง สไตล์หนังยุค 70 และ วงการฮอลลีวูด ลงไปคลุกเคล้าเข้าหากันได้อย่างลงตัว แล้วมีสไตล์เฉพาะของเขา ตัวหนังสามารถสร้างความกดดันให้คนดูอยู่หมัด ที่ผมชอบมี 3 ตอนใหญ่ๆ ดังนี้
1.ฉากเปิดเรื่องที่ใช้สตอรี่บอร์ดในการเล่าเรื่องที่มาที่ไปของเหตุการณ์ทั้งหมด เข้าใจง่าย เก๋มากๆ
2.ฉากกลางๆเรื่อง ที่เจ้าหน้าที่สถาณทูตทั้ง 6 ไม่ชอบวิธีการที่จะพาพวกเขารอด เพราะมันดูจะเสี่ยงเกินไป พวกเขาไม่ใช่นักสร้างหนัง แต่เมื่อถึงเวลาจวนตัวแล้ว พวกเขากลับสวมบทบาทได้อย่างแนบเนียน (เพื่อความอยู่รอดอ่ะน่ะ ^^)
3.ฉากก่อนขึ้นเครื่องบิน มันเป็นอะไรที่กดดันจริงๆ เหล่าทหารตรวจตราเข้มข้นมาก สนามบินเรารู้อยู่แล้วว่าเข้มงวดมากน่ะครับ ยิ่งมาทำให้เข้มขึ้นไปอีก แล้วไหนเหล่าผู้เตรียมหลบหนีจะต้องสร้างตัวตนปลอมๆขึ้นมาอีก แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีครับ มีการเจรจา บอกเล่า จนเหล่าทหารผู้ตรวจการณ์เชื่อจริงๆว่า พวกเขาเป็นนักสร้างหนัง
จะว่าไปแล้ว การเป็นคนอเมริกัน ดูจะลำบากเหมือนกันน่ะครับ โดนจับตามองพอสมควร (ในประเทศที่เขาจับตามองน่ะ) แต่เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้ครับ ใครจะไปรู้ เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วตามในหนัง Argo น่าสงสารคนที่เขาไปทำหน้าที่แล้วไม่รู้อะไรก็โดนจับเสียจริง เฮ้อ!
เหตุการณ์ทุกอย่างหลังจากนั้นสงบลงครับ เหล่าตัวประกันที่อยู่ในสถาณทูตอเมริกาที่อิหร่าน เป็นตัวประกันถึง 444 วัน ครับ ถึงได้รับการปล่อยตัวปลอดภัย ส่วนเรื่องราวทั้งหมดทาง อเมริกาก็มอบให้กับ แคนาดา ได้รับการยกย่องไปเต็มๆครับ อ่อ! ผมลืมบอกไป เพราะที่ต้องยกย่อง เพราะพวกเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 ได้หนีไปหลบตัวในบ้านพักของ ท่านทูตแคนาดา นั้นเอง แล้วพวกเขาทั้ง 6 ก็ยังปลอมตัวเป็นคน แคนาดา ด้วยครับ
อีกสิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้มากๆคือ นักแสดงครับ เหมือน แอฟเฟล็ค จะคัดมาดีทุกคน ไม่ว่าใครจะมีบทเยอะ บทน้อย ต้องแข็งจริงๆครับ แค่ อลัน อาร์กิน และ จอห์น กูดแมน นี่ก็สุดยอดแล้ว ทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
Argo เป็นหนังที่ดีมากๆ ไม่แปลกที่จะมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ประจำปี 2013 แล้วยังไปคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ และอีกหลายสถาบัน เสียดายที่ เบน แอฟเฟล็ค ไม่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมครับ น่าเสียดายมากๆ