จัดได้ว่าเป็นการกลับมาที่แฟนๆหนังรุ่นเดอะรอคอย สำหรับผู้กำกับ โจ ดันเต้ ที่หลังจากหันไปทำหนังเด็กเอาใจตลาดใน The Hole แล้วไม่รอด ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะกลับมาพบกับรากเหง้าของตัวเองเรียบร้อยแล้วในผลงานใหม่อย่าง Burying the Ex ที่นำแสดงโดย แอนทอน เยลชิน จาก Star Trek ซึ่งตอนนี้หนังได้เข้าฉายในบ้านเราทุกโรงภาพยนตร์แล้วเรียบร้อย
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ “แม็กซ์” ตัดสินใจให้ “เอเวอลีน” แฟนสาวของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน เขากลับพบว่าเธอเป็นผู้หญิงงี่เง่าเจ้าบงการ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะขอเลิกกับเธอ แต่วันหนึ่งเธอกลับถูกรถชนตายไปต่อหน้าต่อตา แม็กซ์ที่โศกเศร้าดำเนินชีวิตต่อไปและเขาได้พบกับ “โอลิเวีย” ที่ทั้งน่ารักและเข้ากับเขาได้ดี แต่แล้วเรื่องตลกร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อ เอเวอลีน ได้ฟื้นขึ้นจากความตายกลายเป็นซอมบี้ โดยมีจุดหมายเดียวคือการกลับมาครองรักกับแม็กซ์ จนชั่วนิรันดร์
โดยถ้าหากใครคุ้นชินกับผลงานเก่าๆของผู้กำกับ โจ ดันเต้ ดี ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Gremlins หรือ Piranha จะพบว่าตัวหนังส่วนใหญ่ของเขาออกไปในแนวหนังสยองขวัญเกรดบี ตลกร้าย ซึ่งถ้าหากดูด้วยเทคนิค และภาพในสมัยก่อน จะนับได้ว่ามันเป็นหนึ่งในแนวหนังที่สามารถทำงานกับคนดูได้ดีที่สุดประเภทนึงเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านความตลก และ ความแหวะ จนน่าเสียดายที่เมื่อโลกพัฒนาขึ้น ตัวหนังเหล่านั้นในยุคปัจจุบันกลับเริ่มเลือนหาย มีแต่หนังประเภททำแหวะเอาจริงเอาจังเข้ามากลบกลุ่มเป้าหมายแทนที่ ซึ่ง ณ เวลานี้ เมื่อถึงคราวของผกก. โจ ดันเต้ กลับมาทวงบัลลังก์ ก็เตรียมพร้อมได้เลยว่าเขาจะนำเอาความสนุกแบบสมัยเหล่านั้น มาผสมผสานกับโทนหนังสมัยนี้กันอีกครั้งนึง และนั่นก็ดูเหมือนจะเป้นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหนังเรื่องนี้อีกด้วย
กับการที่หนังเต็มไปด้วยวิธี มุกตลก, การตัดต่อ และรวมไปถึงการถ่ายภาพ ทุกองค์ประกอบที่เรียกได้ว่าแทบจะหลุดมาจากหนังสยองขวัญเกรดบีในยุค 90 ซึ่งต้องยอมรับว่าถึงแม้เราดูๆแล้วอาจจะชวนให้นึกถึงหนังแผ่นราคาถูก หรือแม้แต่หนังเกรดบีแบบเอาจริงเอาจัง แต่เชื่อเถอะว่าทุกอย่างที่มันออกมาผู้กำกับล้วนแล้วแต่จงใจให้เป็น ซึ่งนั่นเรียกได้ว่านอกจากมันจะทำหน้าที่เป็นตัว retro ทำให้เราย้อนยุคกลับไปนึกถึงหนังสยองขวัญเก่าๆที่เราเคยกลัวในสมัยเด็กๆ มันยังทำหน้าที่ได้ดีต่อบรรดาชาวกี๊คหนังตัวยง ด้วยการวางตัวละครในเรื่องแทบทั้งหมด ให้มีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่ในวงโคจรของ โลกภาพยนตร์สยองขวัญในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นตัวพระเอกที่ต้องทำงานอยู่ในร้านขายของสยองขวัญ หรือตัวนางเอกใหม่เอง ที่ต้องทำงานอยู่ในร้านไอศครีมซึ่งตั้งชื่อเมนูตาม คาแรกเตอร์ในหนังสยองสุดคลาสสิค
โดยเรื่องราวเหล่านี้หนังเล่าเรื่องด้วยท่าทีของความเป็นหนังแนวคอมเมดี้ เกรดบี ที่ปนๆเปๆไปกับความบ้าๆบอๆ และทุกอย่างที่มาอย่างผิดที่และผิดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าหลายมุกตลกอาจจะทำให้คนดูเหวอ และตั้งตัวรับมุกมันแทบไม่ทันในช่วงแรก แต่พอเราเริ่มเข้าไปสู่โลกของตัวหนังโดยสมบูรณ์แล้ว เราจะพบได้ว่าตัวหนังเรื่องนี้มันกลับดูสนุกขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าที่ตาเราตัดสินมันในช่วงแรกเสียอีก
อีกทั้งการที่ตัวนักแสดงนำเอง ทั้งตัวของ แอนตัน เยลชิน และ แอชลี่ย์ กรีน จะสามารถสวมบทบาทคู่รักคู่บวมได้อย่างถูกโฉลกคนดู ด้านของตัวปัญหาในเรื่องที่ทำให้ ซอมบี้ ต้องกลับมาทวงรักอย่าง อเล็กซานดร้า แดดดาริโอ ก็ยังทำหน้าที่ด้วยการใช้เสน่ห์ของเธอในการมัดใจคนดูเพศชายได้อย่างเต็มหมัดไม่ต่างจากการขโมยซีนสุดซี๊ดแบบ San Andres ที่เพิ่งผ่านมา
ซึ่งเอาจริงๆมันอาจจะมีสิ่งที่น่าขัดใจอยู่บ้างเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการทิ้งโลกแห่งความเป็นจริงในตัวหนังออกไปอย่างสิ้นเชิง หรือแม้แต่ความร่อยหรอในความบ้าพลังที่อาจจะแผ่เบาเป็นจังหวะๆ แต่โดยรวมแล้วถ้าหากช่วงนี้คุณหาหนังแนวสยองขวัญ ตลกร้าย ปนโรแมนติค ที่มีลักษณะของความเป็นหนังยุค 90 ปนลูกบ้าแบบเกรดบีนิดๆ ตัว Burying the Ex จะสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอนครับ