ดูหนัง Lockout แหกคุกกลางอวกาศ 2012 เต็มเรื่อง

Lockout แหกคุกกลางอวกาศ 2012

Lock Out แหกคุกกลางอวกาศ มันก็หนังแอคชั่นไซไฟเอาเพลินที่ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้เท่านั้นเอง

ตอนแรกที่ได้เห็นทั้งตัวอย่างหนัง ภาพแรก อีกทั้งยังโปรโมทด้วยคำโปรยที่ว่า อำนวยการสร้างโดยผู้สร้าง Taken เชียวน่ะ ค่ายหนังที่ไม่เคยจะทำให้ผิดหวังอย่าง ยูโรป้า สังกัดฝรั่งเศสของผู้กำกับคนเก่งอย่าง ลุค เบซง ที่หนังแต่ละเรื่องของค่ายพี่แกมักจะมีอะไรแปลกๆใหม่ๆแนวๆ มานำเสนอ ล่าสุดเขาขอส่ง 2 เด็กปั้นของเขาอย่าง เจมส์ เมเทอร์ และ สตีเฟ่น เอสที. เลเจอร์ ให้มาทำหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับเอง ในหนังที่ว่าด้วยความไซไฟ อวกาศ อย่าง Lock Out ที่ได้ตัวนักแสดงมากความสามารถอย่าง กาย เพียร์ซ มารับบทนำประกบกับ แม็กกี้ เกรซ สาวสวยที่มีพ่อโคตรดุในหนังเรื่อง Taken ตัวหนังออกจะน่าสนใจขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงจะอดใจไม่ดูไหว

Lock Out  ดำเนินเรื่องราวในโลกอนาคต เรื่องราวของ แมเรียน สโนว์ (กาย เพียร์ซ) ยอดเจ้าหน้าที่มือฉมังที่แลดูจะขอหันหลังให้กับวงการไปแล้ว เขาถูกจับกุมจากการเข้าใจผิดว่า เป็นบุคคลที่ฆ่าคนบริสุทธิ์คนหนึ่ง แต่ก่อนที่เขาจะถูกจับเขาได้ทำการส่งกระเป๋าเอกสารอันเป็นปริศนาไปให้กับเพื่อของเขานาม เมซ (ทิม เพลสเตอร์) เพื่อนำเอาไปเก็บไว้ก่อน แต่ด้วยความเข้าใจผิด (อีกแล้ว) เขาดันถูกจับกุมแล้วตัวไป ดังนั้นเบ็ดเสร็จแล้ว สโนว์ ต้องรอวันประการชีวิต ในขณะเดียวกันลูกสาวประธานาธิบดีคนสวยนาม เอมิลี่ วาร์น๊อกซ์ (แม็กกี้ เกรซ) ที่ได้ออกเดินทางกับคณะผู้ติดตามเพื่อไปทำเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพของนักโทษยังสถาณที่คุมขังนอกโลกนาม เอ็ม.เอส.วัน (M.S.1) ที่มีนักโทษคดีแบบที่ว่าไม่น่าจะได้อยู่บนโลกแล้วถึงกว่า 500 คน ในสภาพแช่แข็งเอาไว้ ด้วยเหตุฉะนี้ เอมิลี่ ต้องทำวิจัยเรื่องที่ว่านักโทษหลังจากได้รับการทำให้จำศีลอาจทำให้สติ สมอง บ้าไปเลยก็ได้ เพื่อสิทธิมนุษยชนเธอต้องทำ (ทำไมแว้)

แต่มีหรือเรื่องราวจะแฮปปี้ ว่าแล้ว หนึ่งในนักโทษสุดโรคจิตนาม ฮายเดล (โจเซฟ กิลกัน) ซึ่งเป็นคนแรกที่ได้รับเข้าสัมภาษณ์ก็ก่อเรื่องจนได้ หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำการปล่อยนักโทษทั้ง 500 คนออกมา หัวหน้าใหญ่นักโทษนาม อเล็กซ์ (วินเซนท์ เรแกน) ได้ทำการจับตัวประกันทั้งหมดรวมถึง เอมิลี่ เพื่อทำการต่อรองในการเป็นอิสระของพวกเขา เรื่องราวการก่อจลาจลบนสถานคุมขังนอกโลกได้มาถึงคุณพ่อประธานาธิบดีจนได้ และการที่จะส่งทีมเข้าช่วยเหลือแบบโต้งๆเป็นความคิดที่แย่มากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงขอส่งมือดีคนเดียวเข้าไปในยานลำนั้นเพื่อชิงตัวลูกสาวของประธานาธิบดีออกมา และคนที่ได้รับหน้าที่นั้นก็คือ สโนว์ นั้นเอง เพื่อแลกกับการเป็นอิสระ ทีแรกเขาทำท่าบ่ายเบี่ยงแต่ก็ต้องมาเปลี่ยนใจเมื่อได้ทราบว่า เมซ เพื่อนของเขาที่รู้ที่เก็บกระเป๋าก็อยู่บนยานนั้นด้วย งานนี้ สโนว์ เลยต้องจำใจยอมที่จะเข้าไปชิงตัวคนสวย ข้อมูล เพื่อน ออกมาก่อนที่ ยานจะร่วงโหม่งโลกในอีก 8 ชั่วโมง มันเป็นงานง่ายๆ แค่ได้เจอนักโทษบนนั้นอีก 500 คนเอง สบายๆ แล้วพระเอกของเราจะทำภารกิจได้บรรลุไหม ตามไปชมครับ

ว่ากันตามเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรมากอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น มันเดินเป็นเส้นตรงโป๊ะชะแล้วก็จบได้เลยทีเดียว ความมันส์ของตัวหนังจะมาตอนต้นเรื่องๆ ที่ดูแล้วพระเอก สโนว์ ที่รับบทโดย กาย เพียร์ซ ทำตัวได้ยียวน กวนประสาท แสบ คำพูดคำจาต่อล้อต่อคำของเขายอดเยี่ยมจริงๆ ข้อดีของหนังเรื่องนี้อยู่ที่แกจริงๆน่ะ สำหรับคนดูแล้ว แคแรกเตอร์ แบบ สโนว์ แลจะดูคล้ายๆกับ จอห์น แมคแคลน ในซีรี่ย์ Die Hard ออกแนวกวนๆประสาทซักหน่อย ขนาดเรื่องราวยังใกล้ๆเคียงกันเลย อาจจะเรียกได้ว่า Lock Out ก็คือ Die Hard ฉบับไซไฟนั้นเอง นักแสดงนำหญิงอย่าง แม็กกี้ เกรซ ในบทบาท เอมิลี่ วาร์น๊อกซ์ ที่มาเรื่องนี้ก็ต้องอาศัยคนมาช่วยอีกครั้ง นึกไม่ออกเหมือนกันถ้ามันเป็นหนัง Taken คุณพ่อ ไบรอัน มิลค์ จะมาช่วยไหมเนี่ย ><” สำหรับนักแสดงสมทบคนอื่นๆต้องบอกว่ามาๆแล้วก็ไป แต่ที่เด่นหน่อยเห็นจะเป็น โจเซฟ กิลกัน ในบทบาทนักโทษโรคจิต ฮายเดล ที่แกน่าตาจิตได้ใจมากๆ ท่าทางก็จิตเหมือนๆกัน

ในด้านงานสร้างฉากบนยานดูน่าสนใจครับ บางส่วนให้อารมณ์แบบ Alien เหมือนกัน ยิ่งมีตอนนึงที่ เอมิลี่ จำต้องทำตัวให้กลมกลืน สโนว์ ก็เลยทำการย้อมสีผมของเธอให้เป็นสีดำพร้อมตัดผมสั้น มองๆแล้วคล้ายๆกับ ริปลี่ย์ จาก Alien ด้วยแหละ แน่นอนว่าในตัวหนังมีฉาก CGI ที่บอกได้เลยว่า ไม่เนียนครับ ไม่สวย เหมือนเป็นวิดีโอเกมส์อารมณ์ว่ายังทำไม่เสร็จมากกว่า แต่การลงทุนเรื่องภายในยานพอจะแก้ขัดใจได้ครับ ตัวเรื่องจะมันส์ๆช่วงแรกๆ พอกลางๆเรื่องจะเริ่มอืดๆ แล้วตัดจบแบบรวดเร็วตอนจบครับ อารมณ์แบบจบง่ายมากๆเลยน่ะเธอ

การมาจับทำหนังไซไฟ อวกาศ ของ เบซง และ เด็กปั้นทั้ง 2 ถือว่ายังไม่ผ่านในหลายๆด้าน แต่ก็น่าเห็นใจเหมือนกันที่ทุนสร้างเพียง 20 ล้านเหรียญสหรัฐทำออกมาได้ขนาดนี้ก็น่าจะโอเค แต่หากตั้งใจทำในส่วนเนื้อเรื่องมากกว่านี้จะเป็นอะไรที่แซ่บมากๆ

สรุปเลยแล้วกันว่า ใครอยากดูหนังแอคชั่นแบบเรื่อยๆ เรื่องนี้ก็ไม่น่าเกลียดมากนัก แต่หากไม่อยากจะดูไม่ต้องดูก็ได้ไม่เป็นไร

Spoil: สปอยล์ (ใครไม่อยากอ่านข้ามไปได้เลยครับ)

-ตอนจบแน่นอนว่าสมหวัง แต่พระเอก นางเอก ไม่ได้จูบกันตอนจบแล้วกัน

-บอกว่าตัวหนังเดินเส้นตรงก็จริง แต่ตอนใกล้จะจบจริงๆ จะมีเรื่องให้ร้องได้นิดหน่อย มันหักมุมแล้วกันประมาณว่าคนดีทั้งเรื่อง อาจไม่ใช่อย่างที่คิด

-ตัวร้ายตายง่ายชะมัด ไม่มีฉากการปะทะกันแบบใหญ่หลวงระหว่างผู้ร้ายกับพระเอกเลย

-นางเอกของเรื่องไปหากระเป๋าของพระเอกที่ส่งให้กับเพื่อนจนเจอ แล้วก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่า ทำไม