Love in Taipei | ปิ๊งรักในไทเป (2023)

แม้ว่า “Love in Taipei” จะเป็นเรื่องราวที่ชวนให้ติดตามและเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการดัดแปลงจากนิยายเรื่อง “Loveboat, Taipei” ของ Abigail Hing Wen แต่จุดแข็งหลักของเรื่องนี้กลับถูกมองข้ามเมื่อนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาวที่ออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศที่เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล แต่กลับพูดถึงการต่อสู้ดิ้นรนของคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียรุ่นแรกที่ติดอยู่ในโลกสองใบเท่านั้น แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์โรแมนติกระหว่างเธอกับชายหนุ่มสองคนมากกว่า ซึ่งมักจะเป็นแรงผลักดันให้เธอเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล ผู้กำกับ Arvin Chen นำเราเข้าสู่จิตใจของเธออย่างชาญฉลาดด้วยเทคนิคความงามที่แปลกแหวกแนวและเรื่องราวแฟนตาซี แต่ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเธอออกมาได้มากพอที่จะสัมผัสใจเรา

เอเวอร์ หว่อง (แอชลีย์ เหลียว) วัย 18 ปี รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกเสมอมาในเมืองชานเมืองเล็กๆ ของเธอที่ชื่อว่าชากริน ฟอลส์ รัฐโอไฮโอ โดยเธอเป็นนักเรียนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเพียงคนเดียวจากทั้งหมด 3 คนในโรงเรียนที่มีคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ พ่อแม่ของเธอ (แจ็คโก้ เชียง และอเล็กเซีย เกา) อพยพมาจากไต้หวันเพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับเธอในอเมริกา แต่ในขณะเดียวกัน พ่อของเธอถูกลดตำแหน่งจากหมอมาเป็นเภสัชกร หากการรับมือกับแรงกดดันจากพ่อแม่ที่มักจะกดดันให้ต้องทำงานหนักนั้นยังไม่พอ เอเวอร์ยังตัดสินใจแบกรับความเสียสละของพ่อของเธอ โดยเลือกอนาคตในสายอาชีพแพทย์แทนที่จะเลือกเต้นรำตามหัวใจของเธอ

อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อพ่อแม่ของเอเวอร์มอบของขวัญเซอร์ไพรส์ให้เธอด้วยทริปไปไทเปช่วงซัมเมอร์ก่อนจะส่งเธอไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ทัวร์ศึกษานี้เป็นโปรแกรมการเรียนรู้แบบเข้มข้น 8 สัปดาห์ ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของไต้หวัน แต่ได้รับฉายาว่า "Loveboat" เนื่องจากนักเรียนมักมีเซ็กส์กันหลังเลิกงาน เอเวอร์ต้องดำดิ่งสู่จุดจบในวันแรกของเธอ โดยได้พบกับโซฟี ฮา เพื่อนร่วมห้องที่เข้ากับคนง่าย (เชลซี จาง) และริก วู (รอสส์ บัตเลอร์) ศัตรูตัวฉกาจที่ความสมบูรณ์แบบในทุกด้านของชีวิตทำให้เธอรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นๆ คุณสามารถคาดเดาได้ทันทีว่าความสัมพันธ์จะดำเนินไปอย่างไร แต่จนกระทั่งเอเวอร์ได้พบกับซาเวียร์ เยห์ ผู้เฉื่อยชา (นิโค ฮิรากะ) และได้กลับมาพบกับป้าชู (ซินดี้ เชียง) ของเธอ โลกของเธอจึงเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง ทำให้เธอมองเห็นจุดมุ่งหมายในชีวิตของเธอได้ชัดเจนขึ้นอย่างที่เธอปรารถนา