ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Red Eye (2005) เรดอาย เที่ยวบินระทึก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Red Eye (2005) เรดอาย เที่ยวบินระทึก เต็มเรื่อง - เว็บดูหนังดีดี ดูหนังออนไลน์ 2020 หนังใหม่ชนโรง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Red Eye (2005) เรดอาย เที่ยวบินระทึก เต็มเรื่อง

ดูหนัง Red Eye (2005) เรดอาย เที่ยวบินระทึก เต็มเรื่อง

 
 
 

เรื่องย่อ

ลิซ่า ไรเซิร์ต (ราเชล แม็คอดัมส์) เกลียดการขึ้นเครื่องบิน แต่ความน่าสะพรึงกลัวที่รอเธออยู่บนเที่ยวบินไฟต์ดึกเพื่อมุ่งหน้าสู่ไมอามี่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการกลัวการขึ้นเครื่องบินแต่อย่างใด

หลังจากขึ้นไปนั่งประจำที่อยู่บนเครื่องบิน ลิซ่าต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเธอนั่งติดกับ แจ็คสัน (คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ย์) ผู้ชายท่าทางมีเสน่ห์คนที่เธอเคยนั่งดื่มอยู่ด้วยกันที่อาคารผู้โดยสารในสนามบิน และเป็นคนที่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาจีบเธออยู่ชั่วขณะหนึ่งแต่หลังจากเครื่องทะยานขึ้นจากสนามบินไม่นาน แจ็คสันทิ้งหน้าฉากของตัวเอง และเปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงที่เขาขึ้นมาอยู่บนเครื่องบินลำนี้ว่าเขามีแผนที่จะสังหารเลขาธิการหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของประเทศ และลิซ่าคือกุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จของแผนการนี้ ถ้าเธอปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ พ่อของเธอจะต้องถูกสังหารโดยมือสังหารที่กำลังรอโทรศัพท์จากแจ็คสันอยู่เมื่อต้องติดอยู่ภายในเครื่องบินที่บินอยู่สูงถึง 30,000 ฟุต

ลิซ่าไม่มีที่ให้หลบหนีและไม่มีทางที่จะขอความช่วยเหลือจากใครได้โดยไม่นำชีวิตพ่อของเธอรวมไปถึงผู้โดยสารคนอื่นๆ และชีวิตของตัวเธอเองไปเสี่ยงอันตราย แต่ละไมล์ที่เครื่องบินบินไป ลิซ่ารู้ดีว่าเวลาของเธอยิ่งหมดลง เมื่อเธอพยายามหาวิธีที่จะขัดขวางผู้ชายที่จับตัวเธอไว้และหยุดแผนการฆาตกรรมในครั้งนี้ 

IMDB : tt0421239

คะแนน : 6.4

รับชม : 728 ครั้ง

เล่น : 209 ครั้ง



Red Eye (2005) เรดอาย เที่ยวบินระทึก

พอนึกถึงหนัง 'แอ็คชั่น-ทริลเลอร์' ประเภทตัวละครใช้ไหวพริบเอาตัวรอดนี่มันก็นึกออกได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไรแฮะ เช่น The Fugitive, Bourne Ultimatum, The Next Three Days, North by Northwest, The French Connection ซึ่งทั้งห้าเรื่องเป็นการใช้ไหวพริบเอาตัวรอดจากการถูกตำรวจไล่ล่า จนได้มาเจอ Red Eye ที่มีบางช่วงของหนังเป็นการชิงไหวชิงพริบที่ทันกันระหว่างนางเอกและตัวร้าย

Red Eye เล่าเรื่องของ 'ลิซ่า' (Rachel McAdams) ผู้จัดการโรงแรมคนเก่งที่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างดี เธอถูก 'แจ็ค' (Cillian Murphy) ชายหนุ่มผู้น่าคบหาที่เธอเพิ่งรู้จักบังคับให้โทรศัพท์จากบนเครื่องบินไปใช้อำนาจตำแหน่งงานสั่งเปลี่ยนห้องพักของลูกค้าประจำผู้เป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของประเทศ เพื่อที่ 'แจ็ค' จะได้ลอบสังหารลูกค้าคนดังกล่าวได้ตามแผน โดย 'แจ็ค' ได้ข่มขู่ 'ลิซ่า' ด้วยการเอาชีวิตพ่อของเธอที่รออยู่ที่บ้านเป็นตัวประกัน

หากพูดถึง 'เวส คราเวน' เครดิตสร้างชื่อเสียงของเขาล้วนแต่เป็นหนังแนวสยองขวัญทริลเลอร์ เช่น A Nightmare on Elm Street, Scream ดังนั้นการที่เขาเป็นผู้กำกับหนังทริลเลอร์แนวนี้จึงเรียกว่าเป็นการฉีกแนวกำกับของตัวเองอยู่เหมือนกัน

หนังเปิดเรื่องด้วยการปูพื้นตัวละคร 'ลิซ่า' ว่าเป็นสาวประเภท 'working woman' มุ่งมั่นจริงจังกับงานและเธอก็ทำหน้าที่ในการรับมือกับลูกค้าเขี้ยว ๆ ได้อย่างดี พร้อมกันนั้นหนังยังสร้างความลับให้คนดูด้วยรอยแผลเป็นที่เนินอกเธอ ซึ่งหนังเฉลยภายหลังว่าเกิดจากคนร้ายที่ข่มขืนเธอใช้มีดจี้ไว้ตลอดเวลา ซึ่งเธอกล่าวว่าเป็นเพราะเธอ 'จำยอม' ปมดังกล่าวจึงทำให้เธอตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าหากเจอแบบนี้อีก เธอต้อง 'สู้กลับ' ดังนั้นสิ่งที่เราจะได้รับชมใน Red Eye ก็คือการต่อสู้เอาตัวรอดของ 'ลิซ่า' ที่จะไม่จำยอมถูกข่มขู่อีกต่อไป

ช่วงแรกก่อนขึ้นเครื่องเป็นอะไรที่โรแมนติกมุ้งมิ้งน่ารักมากเลยครับ มันเริ่มต้นจาก 'แจ็ค' เนียนเข้ามาตีสนิทกับเธอ แล้วมีความรู้สึกว่าเคมีสองคนนี้เข้ากันได้ดีด้วยนะ จนนึกอยากตบกบาลคนเขียนบทว่าคิดอย่างไรให้หนังที่ขึ้นต้นโรแมนติกแบบนี้กลายเป็นหนังทริลเลอร์ไปซะอย่างนั้น

แต่พอขึ้นเครื่องเท่านั้นแหละ จาก 'แจ็ค' ชายหนุ่มแสนดีมีน้ำใจก็กลายมาเป็นตัวร้ายจิต ๆ แบบ 'สแกร์โครว์' ใน Batman Begins เลยครับ ฮ่าๆๆๆ

ช่วงบนเครื่องบินเป็นอะไรที่สนุกมาก หนังเปลี่ยนจากโรแมนติกมุ้งมิ้งมาเป็น 'ทริลเลอร์ชิงไหวชิงพริบ' ประเภทนางเอกต้องใช้สมองหาทางเอาตัวรอดจากโรคจิต ที่ผมชอบช่วงบนเครื่องบินคือตัวละครสองตัวนี้ไหวพริบมันทันกันครับ แล้วดูสนุกตื่นเต้นด้วยครับ

อย่างไรก็ตามความยอดเยี่ยมของบทหนังและความรู้สึกว่าหนังสมเหตุสมผลน่าเชื่อถือก็จบลงทันทีที่เครื่องแตะรันเวย์ เพราะมันกลายร่างจากหนังทริลเลอร์ชิงไหวชิงพริบมาเป็นหนัง 'ทริลเลอร์เต็มตัว' ประเภทตูจะสร้างแต่ฉากตื่นเต้นลุ้นระทึกไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แล้วไปจบด้วยการเป็นหนัง 'ทริลเลอร์สยองขวัญ' ตามถนัดของผู้กำกับ

ผมขอชมช่วงท้ายของหนังแล้วกันครับว่ามัน 'เป็นตัวของตัวเองมาก' อย่างที่บอกว่า 'เวส คราเวน' ผู้กำกับแกมีชื่อเสียงด้านหนังทริลเลอร์สยองขวัญอย่างเช่น 'เฟรดดี้ ครูเกอร์' ใน A Nightmare on Elm Street หรืออย่างหนังฆาตกรต่อเนื่องไล่ล่าลุ้นระทึกแบบ Scream ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่แกเห็นพล็อต Red Eye แล้วอยากจะหาทางลงให้หนังด้วย 'ลายเซ็น' ของแกเอง

ช่วงท้ายของ Red Eye ที่เริ่มต้นด้วยการเป็น 'ทริลเลอร์เต็มตัว' ผู้กำกับแกทำตามสูตรสำเร็จมาตรฐานของหนังทริลเลอร์เลยครับ ประเภทใส่ฉากตัวละครไล่ล่ากันไม่สนใจอย่างอื่นในโลกนี้ เขียนบทจงใจให้เกิดอุปสรรคเพื่อให้คนดูตื่นเต้นลุ้นไปกับตัวละคร คือถ้าเอาบันเทิงทริลเลอร์เต็มสูบมันก็เข้าเป้าล่ะครับ แต่กระนั้นผมก็ไม่แปลกใจที่หลายคนจะไม่ชอบช่วงทางลงของหนังเพราะมันให้ความรู้สึกพลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

ยิ่งเมื่อถึงบ้านของพ่อลิซ่านี่มันมาในรูปแบบลายเซ็นของบรรดาหนัง 'ทริลเลอร์สยองขวัญ' ประเภทหนีฆาตกรโรคจิตในบ้านเลยครับ เพียงแต่รอบนี้นางเอกของเราเป็นประเภทสู้คนครับ (ไม่ใช่กรี๊ด ๆ เอาแต่หนี ฮ่าๆๆ) ซึ่งผมว่า 'เวส คราเวน' ก็ยังไว้ลายอยู่ เพราะฉากโรคจิตไล่ล่าในบ้านนี่ทำออกมาได้ระทึกขวัญทีเดียวครับ แถมตัวร้ายที่เล่นโดย 'คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ย์' นี่ก็มาดให้โรคจิตสุด ๆ

ในภาพรวมแล้วก็ต้องบอกว่าผมประทับใจ Red Eye ครับ หนังสนุก เดินเรื่องอย่างรวดเร็ว ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อ มันเป็นการดูหนังเรื่องเดียวที่ได้หลากหลายอารมณ์มาก ตั้งแต่โรแมนติก-ทริลเลอร์ชิงไหวชิงพริบด้วยสมอง-ก่อนจะจบลงด้วยการเป็นหนังระทึกขวัญ

แนะนำให้คอหนัง 'แอ็คชั่น-ทริลเลอร์' ลองหามาชมกันครับ