หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังไทย , หนังประวัติศาสตร์
เรื่องย่อ : The Edge of Daybreak | พญาโศกพิโยคค่ำ (2021)
ชื่อภาพยนตร์ : The Edge of Daybreak | พญาโศกพิโยคค่ำ
แนว/ประเภท : Drama, History
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Taiki Sakpisit
บทภาพยนตร์ : Taiki Sakpisit
นักแสดง : Chalad Na Songkhla, Manatsanun Phanlerdwongsakul, Sunida Ratanakorn
วันที่ออกฉาย : 2021
กลางกระแสทางการเมืองปี 2546 ที่กำลังคุกรุ่น พลอย และลูกของเธอ ใช้เวลาคืนสุดท้ายในเซฟเฮาส์กับ ปาล สามีซึ่งเป็นนักการเมือง ก่อนที่เขาจะเดินทางลี้ภัยตามคำสั่งคณะรัฐประหารไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา เหตุการณ์เหมือนภาพฉายซ้ำช่วงปี 2516 ขณะที่พลอยในวัยเพียง 9 ปี กำลังป่วยเข้าขั้นโคม่า ปราสาท ผู้เป็นพ่อหายตัวไปอย่างไร้วี่แวว ส่วน ไพลิน แม่ของเธอที่เพิ่งฟื้นตัวจากการรักษาอาการป่วยทางจิต กลับมาพบกับหมอประจำตระกูลอีกครั้ง เกิดเป็นรักในความลับที่ชวนเสน่หา เมื่อสุริยุปราคาเข้าคืบคลานจนสะกดให้ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ เรื่องราวก็กลับพลิกผัน เงาสุริยุปราคานั้นได้กลืนกินหมอให้หายไป และคายปราสาทที่หายตัวไปให้กลับมา บาดแผลจากอดีต ก่อตัวขึ้นเป็นความมืดมิดภายในใจ ห้วงเวลาที่สุริยุปราคาพาทุกอย่างให้หยุดนิ่งไป ชะตากรรมและอนาคตของครอบครัวนี้ ถูกครอบงำไว้ด้วยความรุนแรงและความหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงเมื่อใด
IMDB : tmdb778636
คะแนน : 3.8
รับชม : 31 ครั้ง
เล่น : 11 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
‘พญาโศกพิโยคค่ำ (The Edge of Daybreak)’ ของ ไทกิ ศักดิ์พิสิษฐ์ ก็เป็นหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ไปคว้ารางวัล FIPRESCI Prize จากเวที International Film Festival Rotterdam 2021 (IFFR) จากประเทศเนเธอร์แลนด์มาได้สำเร็จ ในสายประกวด Tiger Awards Competition
ต้องบอกว่าหนังอาจเหมือนดูยาก จากความจงใจเล่าแบบวิดีโออาร์ตที่ใช้ความต่อเนื่องทางแนวคิดมากกว่าการเล่าเรื่องแบบที่เราคุ้นชิน ลำดับเวลาถูกทำลายให้พร่าเลือนราวกับปี 2516 และ 2549 หรือแม้แต่ปัจุบันกับอดีตก็ผสมปนเปกันไปราวกับเป็นเหตุการณ์ในห้วงเวลาเดียวกัน ให้สังเกตได้ผ่านเพียงคำพูดของตัวละครที่มีเพียงน้อยนิดจนต้องใช้สมาธิในการชมค่อนข้างมาก แต่อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าหนังมีการจัดวางอย่างตั้งใจในทุกส่วนไม่ใช่การเล่าแบบตามแต่ใจผู้สร้างแต่อย่างใด เพียงแต่ผู้ชมกี่มากน้อยที่จะจับหนังมาแกะและเกลาจนเข้าใจได้เท่านั้น
งานภาพขาวดำของหนังจัดเป็นอีกตัวเอกของเรื่องก็ว่าได้ โดยผู้กำกับภาพหญิงอย่าง จ๊ะเอ๋ ชนานันต์ โชติรุ่งโรจน์ ที่เคยมีผลงานใน ‘Motel Mist โรงแรมต่างดาว’ (2559) ของผู้กำกับ ปราบดา หยุ่น และโกอินเตอร์ได้ร่วมงานกับผู้กำกับ เจมส์ แฟรงโก (James Franco) ใน ‘Don’t Come Back From the Moon’ (2017) ก่อนจะไปคว้ารางวัลจากเวที Independent Spirit Awards ของอมริกาจากหนังเวียดนามเรีื่อง ‘The Third Wife’ (2019) ได้พิถีพิถันกับภาพในหนังอย่างมาก การใช้แสงและเงาที่ขับเน้นอารมณ์และความหมายในภาพทำได้อย่างวิจิตร เมื่อรวมกับความเข้มข้นของการคุมงานศิลป์ของหนังและการกำกับแล้ว หนังจึงเปิดมิิติด้านภาพที่ชวนจดจ้องและชวนค้นหาได้อย่างแยบคาย และน่าสนใจว่าชนานันต์ช่วยถ่ายทอดความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกกระทำจากความเป็นชายในเรื่องได้อย่างน่าสนใจ