บิ๊กมาม่าส์ พ่อลูกครอบครัวต่อมหลุด (Catalyst Alliance Thailand)
กำหนดฉาย : 28 เมษายน 2554 เข้าฉายเฉพาะโรงภาพยนตร์เครือ SF เท่านั้น
แนว : คอมมอดี้ / เบาสมอง
นำแสดง : มาร์ติน ลอว์เรนซ์, แบรนดอน ที แจ็คสัน
กำกับ : จอห์น ไวท์เซล
มาร์ติน ลอว์เรนซ์ กลับมารับบทนักสืบเอฟบีไอ มัลคอม เทอร์เนอร์ ที่ปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์เพื่อสืบสวนคดี โดยครั้งนี้เขาได้ เทรนท์ (แบรนดอน ที แจ็คสัน) มาร่วมทีมสืบคดีที่โรงเรียนสอนการแสดงหญิงล้วน หลังจากที่เทรนด์เห็นเหตุฆาตกรรม มัลคอมต้องปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์อีกครั้ง ส่วนเทรนท์ก็ต้องปลอมตัวเป็นสาวร่างบึ้ก "คาร์เมน" เพื่อตามหาตัวฆาตกรก่อนที่ฆาตกรจะตามล่าพวกเขา
บิ๊กมาม่าส์กลับมาครั้งนี้มีผู้ช่วยตัวใหญ่เป็นลูกชายบุญธรรมนามว่า "เทรนท์" มาร์ติน ลอว์เรนซ์ กลับมารับบทนักสืบเอฟบีไอ มัลคอม เทอร์เนอร์ ที่ปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์เพื่อสืบสวนคดี โดยครั้งนี้เขาได้ เทรนท์ (แบรนดอน ที แจ็คสัน) มาร่วมทีมสืบคดีที่โรงเรียนสอนการแสดงหญิงล้วน หลังจากที่เทรนด์เห็นเหตุฆาตกรรม มัลคอมต้องปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์อีกครั้ง ส่วนเทรนท์ก็ต้องปลอมตัวเป็นสาวร่างบึ้ก "คาร์เมน" เพื่อตามหาตัวฆาตกรก่อนที่ฆาตกรจะตามล่าพวกเขา
ปี 2543 ตัวละครบิ๊กมาม่าส์ได้แจ้งเกิดสู่สายตาผู้ชมใน Big Momma's House และโกยรายได้ไปอย่างล้นหลาม ความสนุกตามมาติด ๆ กับ Big Momma's House 2 ผู้ชมตกหลุมรักตัวละครบิ๊กมาม่าส์ของมาร์ตินลอว์เรนซ์ที่เป็นเจ๊ร่างบึ้บใจสู้ที่ไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาขวางทางแม้กระทั่งอาชญากร
บิ๊กมาม่าส์เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทุกวัยไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก "ผมว่าทุกคนต้องรู้จักบิ๊กมาม่าส์ซักคนในชีวิต" ลอว์เรนซ์กล่าว "คนนั้นอาจหน้าตาไม่เหมือนบิ๊กมาม่าส์ในหนัง แต่ทุกคนต้องมีพี่สาว ป้า ยาย ที่จริงใจและมีจิตใจงดงาม และนั่นคือสิ่งที่ผมรักในตัวบิ๊กมาม่าส์" ผู้อำนวยการสร้าง เดวิด ที เฟรนด์ลี่ ที่อยู่เบื้องหลังหนัง Big Momma ทั้ง 3 ภาค เช่นเดียวกับ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ "มาร์ตินรู้จักบิ๊กมาม่าส์อย่างทะลุปรุโปร่ง และทำให้เธอเป็นเป็นตัวละครที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา บิ๊กมาม่าส์ใช้ชีวิตด้วยทัศนคติด้านบวกและพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น"
"เมื่อได้รู้จักบิ๊กมาม่าส์แล้วคุณจะรักเธอ เธอกลายเป็นไอคอนของผู้ชม" ผู้กำกับ จอห์น วิทเซลล์ จาก Big Momma's House กล่าว "บิ๊กมาม่าส์ออกความเห็นทุกเรื่อง และพร้อมจะสั่งสอนคุณถ้าจำเป็น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอตลกและน่ารัก"
ความสำเร็จของ Big Momma สองภาคแรกทำให้มีภาคที่สามตามมา แต่ลอว์เรนซ์, เฟรนด์ลี่, วิทเซลล์ และมือเขียนบท แมธทิว โฟเจล ต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในภาคใหม่ ไม่ใช่ดำเนินตามสูตรสำเร็จเดิม โดยเจาะตลาดคนดูที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายของสองภาคก่อน ซึ่งได้แก่ วัยรุ่น เฟรนด์ลี่กล่าวว่า "เราเริ่มต้นใหม่และสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนสองภาคก่อน" กลับมาคราวนี้มัลคอมจับพลัดจับผลูได้คู่หูเป็นลูกชายบุญธรรมชื่อเทรนท์ และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดนั่นคือโรงเรียนหญิงล้วน ฉากเต้นและดนตรีหลายฉากแสดงโดยลอว์เรนซ์, แจ็คสัน และกลุ่มนักแสดงดาวรุ่งมากความสามารถ
ความสัมพันธ์ระหว่างมัลคอมและเทรนท์คือศูนย์กลางของเรื่อง ตอนต้นเรื่อง มัลคอมปลื้มมากที่เทรนท์จบมัธยมปลายแล้วได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยดยุค แต่เทรนท์กลับอยากเป็นแร็ปเปอร์มากกว่า ความขัดแย้งนั้นทำให้เทรนท์ได้ก้าวเท้าเข้ามาตามรอยพ่อ นั่นคือการปลอมตัวเป็นผู้หญิง การที่เทรนท์เข้ามาร่วมวงกับบิ๊กมาม่าส์และทะเลาะกันเพราะช่องว่างระหว่างวัยไม่แค่สร้างเสียงฮาเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังต้องรับส่งอารมณ์เพราะมัลคอมต้องทำใจยอมรับการตามความฝันของเทรนท์ และยังต้องทุ่มสุดตัวเพื่อปกป้องเทรนท์ให้ปลอดภัยด้วย "ผมชอบแสดงเป็นบิ๊กมาม่าส์" ลอว์เรนซ์กล่าว "แต่บทอันน่าติดตามและการมีได้แบรนดอนมารับบทเป็นคู่หูในเรื่องต่างหากที่ทำให้ผมกลับมา มัลคอมมองว่าเทรนท์เป็นลูก แต่เทรนท์โตเป็นผู้ใหญ่และต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง ผมว่าทุกคนเข้าถึงเรื่องนี้ได้"
แจ็คสันกล่าวว่าการได้เข้ามารับบท "เทรนท์/คาร์เมน" เหมือนฝันเป็นจริง "มาร์ติน ลอว์เรนซ์ คือไอดอลของผมและผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับเขา" นักแสดงหนุ่มผู้ฝากผลงานไว้ในหนังอย่าง "Tropic Thunder" และ "Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief" กล่าว "และเมื่อถึงเวลาต้องใส่ชุดน้ำหนักเพื่อแสดงเป็นคาร์เมน มาร์ตินแนะนำผมว่า นั่งได้เมื่อไหร่ให้นั่งและทำตัวตามสบาย ปกติผมชอบวิ่งไปมา คุยกับคนโน้นคนนี้ ชุดนี้ทำให้ผมโฟกัสกับการแสดงมากขึ้น"
แจ็คสันกล่าวว่า "เทรนท์คือวัยรุ่นทั่วไปที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งในที่นี้คือการเป็นแร็ปเปอร์ นอกจากนี้เขายังมองว่าตัวเองมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ซึ่งการหลีหญิงในร่างผู้หญิงนี่มันยากนะ เขาก็เลยพยายามเรียนรู้ผู้หญิงรวมทั้งตัวเองด้วย" ความท้าทายของแจ็คสันก็คือการทำให้เทรนท์ "ฉายแวว" ออกมาจากร่างอุ้ยอ้ายของคาร์เมน
เทรนท์เรียนรู้การเป็นผู้หญิงเร็วมาก ซึ่งทำให้เขาลำบาก เพราะเขาพยายามจีบเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งด้วย ซึ่งก็คือเฮลี่ย์ (เจสสิก้า ลูคัส) นักร้องและนักแต่งเพลงแสนสวย เมื่อเป็นตัวเอง หนุ่มขี้โม้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเทรนท์หมดหวังกับการจีบเฮลี่ย์ แต่ในร่างคาร์แมน เขาเรียนรู้การปฏิบัติต่อเพศตรงข้าม ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น ความสัมพันธ์ของคาร์เมน/เทรนท์กับเฮลี่ย์ ส่งผลดีต่อเฮลี่ย์เองด้วย "เฮลี่ย์และคาร์เมนกลายเป็นเพื่อนรักกันเพราะเฮลี่ย์เห็นตัวเองในตัวคาร์เมน" ลูคัสกล่าว "คาร์เมนยังช่วยให้เฮลี่ย์ค้นพบด้านสนุกสนานของตัวเองด้วย ซึ่งถือว่าสำคัญต่อเธอ เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจ"
คาร์เมนและเฮลี่ย์ดิ้นรนให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มดาวโรงเรียน จัสมิน (พอร์เทีย ดับเบิ้ลเดย์) สาวหัวหน้ากลุ่มรู้สึกเอือมระอากับคุณสมบัติอันไม่เข้าขั้นของบิ๊กมัมม่าและคาร์เมน อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ของกลุ่มดาวโรงเรียนรวมเข้ากับความฮาของบิ๊กมัมม่าและคาร์เมน ทำให้เกิดฉากเพลงและฉากเต้นอันน่าจดจำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้หนังภาพยนตร์ชุดนี้ "เด็ก ๆ แสดงตัวตนผ่านดนตรีและการเต้น" วิทเซลล์กล่าว
อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับภาคต่อก็คือเมคอัพ และงานพลาสติคใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงจนย่นระยะเวลาการแต่งเป็นบิ๊กมาม่าส์ให้ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ลงครึ่งหนึ่ง "ความลับหนึ่งของหนังชุด Big Momma ก็คือการเตรียมงานอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงการสร้างชุดคนอ้วน การทดลองเมคอัพ การทดลองกล้อง" ผู้กำกับวิทเซลล์กล่าว สำหรับ BIG MOMMAS: LIKE FATHER, LIKE SON ภาคนี้ ทีมงานทุ่มเททำงานหินในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี และกระบวนการที่ซับซ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วขึ้นมาใหม่ โชคดีที่ได้ เวสลี่ย์ วอฟฟอร์ด จาก Big Momma's House 2 กลับมาออกแบบและทำเมคอัพให้ งานของวอฟฟอร์ดได้รับคำชมจาก Spectral Motion Inc. ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สร้างเมคอัพเอ็ฟเฟ็กต์ระดับแนวหน้าของวงการ
การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วในแอตแลนต้า ที่นั่นไม่แค่อิงที่มาของบิ๊กมาม่าส์ว่าเป็นคนใต้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แก่นเรื่องดนตรีและการแสดงของหนังแข็งแรงขึ้นด้วย "เพราะผมว่าแอตแลนต้าเป็นที่ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรื่องราวของดนตรีในหนัง" วิทเซลล์กล่าว "วัฒนธรรมและดนตรีของเมืองนั้นอบอวลอยู่ในหลายที่ และนักแสดงมากมายจากย่านนั้นก็ช่วยหนังได้อย่างมาก" การถ่ายทำส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่วิทยาลัย Agnes Scott ในเดคาทูร์ ซึ่งทีมงานใช้ถ่ายเป็นโรงเรียนที่มัลคอมและเทรนท์ไปซ่อนตัวในคราบบิ๊กมาม่าส์และคาร์เมน สถานที่ถ่ายทำอื่น ๆ ในแอตแลนตาได้แก่ เซนเทนเนียลพาร์ค, ลิตเติลไฟฟ์พอยต์ และเอนสลี่ย์พาร์ค