หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังดราม่า
เรื่องย่อ : ดูหนัง Patch Adams คุณหมออิ๊อ๊ะ คนไข้ฮาเฮ 1998 เต็มเรื่อง
IMDB : tt0129290
คะแนน : 6.8
รับชม : 505 ครั้ง
เล่น : 99 ครั้ง
ช่วงปี ค.ศ. 1996 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉาย นำแสดงโดยโรบิน วิลเลียม นำเสนอเค้าโครงเรื่องราวในชีวิตจริงของนายแพทย์แพท อดัม หลังจากนั้น อย่างน้อยในเมืองไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกใช้ในฐานะสื่อการสอนถึงการเรียนรู้ระบบการแพทย์ที่ต้องการมิติความเป็นมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างการรักษาพยาบาลที่คำนึงถึงคนไข้มากกว่าตัวโรคหรืออาการ ท่าทีของหมอที่พึงมีกับผู้ป่วย รวมถึงประเด็นเรื่องความตายและการตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยระยะสุดท้าย
ฉากเปิดเรื่อง เริ่มด้วยคำบรรยายอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอกระหว่างเดินทางเพื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช ท่าทีที่ดูหม่นหมอง ไร้ความสุข แพทเลือกพาตัวเองมาที่นี่เพื่อป้องกันตนเองจากความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย เขาใช้คำว่าชีวิตของตนเหมือนบ้านที่โดนพายุโหมกระหน่ำ เหมือนมีพายุมาควบคุมจิตใจให้เขาไร้ความสุข ไม่อยากมีชีวิต เราจะเห็นสภาพความเป็นอยู่ของโรงพยาบาลในยุคนั้นที่สุมรวมไว้ด้วยคนไข้วิกลจริต ผู้ดูแลที่ต้องใช้กำลังควบคุมผู้ป่วย หมอที่พูดคุยกับคนไข้โดยเลือกดูข้อมูลในเอกสารมากกว่าการสบตาหรือสื่อสัมพันธ์รับรู้บุคคลตรงหน้า เป็นสภาพที่ชวนอึดอัดคับข้อง แต่ ณ ที่แห่งนี้ แพทได้พบคำตอบที่เป็นเหมือนแสงสว่างให้กับชีวิตของเขา เขาพบว่าคนไข้ต้องการความเข้าใจ และความเข้าใจนี้อาจไม่สอดคล้องกับความจริงซึ่งมีหลายชุด และความจริงของคนคนหนึ่งอาจจะไม่ใช่ความจริงของอีกคนก็ได้ สิ่งที่แพทพบจากประสบการณ์ของตนเองคือ เราทุกคนต่างต้องการ “การรับฟัง” แพทยังได้เรียนรู้จากที่นี่ด้วยว่า สิ่งที่ถูกมองว่าเป็นปัญหา เบื้องหลังปัญหามีคำตอบหรือทางเลือกอื่นๆ ซ่อนอยู่
วันแรกที่เขามาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ คนไข้ท่าทางดูก้าวร้าว รุกล้ำ พุ่งเข้าหาแพทพร้อมชู 4 นิ้วตรงหน้า พลางตั้งคำถามคาดคั้นคำตอบว่าเขาเห็นกี่นิ้ว แพทตอบ 4 นิ้วพร้อมท่าทีหวาดๆ ว่าจะมีอะไรตามมา สิ่งที่แพทพบคือ ท่าทางผิดหวังในคำตอบของอีกฝ่าย และแพทได้พบคำตอบในเวลาต่อมาว่า หากเรามองทะลุไปเบื้องหลังนิ้วทั้ง 4 ที่กางตรงหน้า เราอาจเห็นอะไรมากกว่า 4 นิ้ว
แพทเดินออกจากโรงพยาบาลจิตเวชพร้อมกับแรงบันดาลใจที่จะเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือคนไข้ น่าสนใจว่าคนเขียนบทสื่อประเด็นสำคัญให้ตัวเอกพบคำตอบของชีวิตในสถานที่ที่คาดไม่ถึง นั่นคือโรงพยาบาลจิตเวช แท้จริงคำตอบมีในตัวแพทอยู่แล้ว สถานที่เป็นเพียงองค์ประกอบให้คำตอบปรากฏตัวขึ้น เขามีความสุขกับการเลือกอาชีพนี้ และพบว่าชีวิตในโรงพยาบาลจิตเวช คนที่มีอำนาจกำหนดชีวิตของเขาคือตัวเขาเอง ไม่ใช่หมอที่จะมาบอกว่าเขาป่วยหรือไม่ป่วย เป็นหรือไม่เป็นคนไข้ แพทรับรู้ประสบการณ์การเป็นคนไข้ว่า ถึงจะเป็นผู้ป่วยแต่เขาก็ต้องการได้รับความเข้าใจ การรับฟัง และความเคารพ
แล้วแพทก็เดินเข้าไปเป็นนักศึกษาแพทย์ในสถาบันการแพทย์ชั้นนำ แล้วสิ่งที่เขาพบคือ
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม จริงจัง มีจารีตประเพณี วัฒนธรรมในสังคมหมอที่ต้องถือปฏิบัติ คำสั่งหรือคำอธิบายของอาจารย์แพทย์คือสิ่งที่ถูกต้อง คนไข้ถูกรับรู้และเรียกขานระหว่างหมู่แพทย์กับพยาบาลด้วยอาการเจ็บป่วย หรือหมายเลขของเตียงคนป่วย การพูดคุยถึงอาการเจ็บป่วยและการพยากรณ์โรค แพทย์สามารถพูดคุยโดยอิสระ ไม่ได้ใส่ใจกับอารมณ์ความรู้สึกของคนไข้ บรรยากาศการรักษาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม จริงจัง คนไข้แม้จะเป็นเด็กก็ต้องอยู่ในระบบระเบียบ กฎเกณฑ์ของโรงพยาบาล คือ อยู่ในความเรียบร้อย อาการเจ็บป่วย โรคคือสิ่งที่ต้องเอาชนะ ความตายคือสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เป้าหมายของแพทย์คือการเอาชนะโรคร้ายและความตายได้
แต่สิ่งที่แพทนำเข้ามาในระบบแบบแผนที่เป็นอยู่เดิม คือ เสียงหัวเราะ อารมณ์ขันที่ท้าทาย ก่อกวน และสร้างความขัดแย้งให้กับสถาบันการแพทย์ ท้าทายความคิดความเชื่อเดิมๆ ที่สถาบันแพทย์มีต่อโรค ต่อคนป่วย ทันทีที่นักศึกษาแพทย์แพท อดัม เห็นเด็กน้อยที่กำลังนอนป่วยกับอุปกรณ์สวนทวาร แพทกลับมองเห็นในฐานะตัวช่วยสร้างอารมณ์ขัน โดยการตัดปลายและนำมาคลีบหนีบจมูกเหมือนที่ตัวตลกใช้ พูดคุยเย้าแหย่สร้างเสียงหัวเราะให้เด็กๆ
แพทเข้าหาผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใส่ใจรับฟัง พูดคุยอย่างมีเมตตา และพร้อมที่จะเอื้อเฟื้อเติมเต็มความความปรารถนาสุดท้ายของผู้ป่วยระยะท้ายบรรลุผล แม้แต่กับคนไข้ที่ปิดประตูความสัมพันธ์ยากที่จะเข้าหา แต่ แพทก็มองเห็นความโหยหาและต้องการความสัมพันธ์ เขาเลือกที่จะเข้าหาโดยไม่ลดละเพราะใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของคนไข้ บทสนทนาที่แพทย์ฝึกหัดแพทสื่อสารกับบรรดาแพทย์ผู้ใหญ่ในโรงเรียน ในสภาการแพทย์ คือ หมอเห็นโรคร้าย เห็นอาการป่วยในตัวคนไข้ แล้วมองเห็นคนไข้ไหม การต่อสู้เอาชนะโรคอาจมีแพ้หรือชนะ แต่การใส่ใจคุณภาพชีวิตของคนไข้ต่างหากที่มีแต่ชัยชนะ ไม่มีใครพ่ายแพ้ ความตายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่มีประโยชน์ที่จะหลีกหนีหรือมุ่งเอาชนะจนหลงลืมตัวคนไข้
แพท อดัม แพทย์ฝึกหัดนำความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ขัน ความทะลึ่งตึงตังเข้ามาในสถาบันการแพทย์ ท้าทายบรรทัดฐานความเคารพเชื่อฟัง ความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันการแพทย์ในฐานะดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กุมชะตาชีวิตและความเจ็บป่วยของคนไข้ แพทกลับสร้างบรรยากาศหยอกล้อ จิกกัด ฉากการจัดตบแต่งสถานที่ประตูทางเข้าหอประชุมให้เป็นหว่างขาของผู้หญิง สร้างเสียงหัวเราะ หรืออาจจะสร้างความอึดอัด รับไม่ได้ ก็ขึ้นกับมุมมองที่มีต่อสถานภาพของแพทย์และสถาบันการแพทย์ของแต่ละคน ภายใต้บรรยากาศหยอกล้อ ขบขัน ตลก สนุกสนาน หมอกับคนไข้ก็ไม่ต่างกัน มีความเท่าเทียมกัน ต่างกำเนิดจากช่องคลอดของเพศแม่ เราต่างเป็นมนุษย์ที่ล้วนต้องการความสุข ความสนุกสนาน แต่ในอีกแง่ แพทก็นำพาความขัดแย้งเข้ามาในสถาบันการแพทย์ด้วย การท้าทายต่อผู้มีอำนาจในสถาบัน กลายเป็นมูลเหตุให้แพทถูกขับไล่ แต่ความเป็นภาพยนตร์สไตล์ฮอลลีวู้ด ผู้อ่านคงเดาทางได้ว่าจะลงเอยอย่างไร
ท่วงทำนองของภาพยนตร์แม้จะดูสนุกสนาน แต่คนเขียนบทอาจเข้าใจถึงจิตวิทยาในด้านอารมณ์ความรู้สึก ในเรื่องราวตัวเอกต้องเผชิญกับการสูญเสียบุคคลที่ตนรัก การได้เผชิญหน้ากับการสูญเสีย ความเศร้า ความเจ็บปวด แทบทำให้ตัวเอกต้องการเลิกราความฝัน ความปรารถนา ในเรื่อง แพทได้พบประสบการณ์ทางจิตวิญญาณราวกับการได้สื่อสารถึงความรัก ความปรารถนาดีที่ผู้จากไปส่งมอบให้ นั่นทำให้แพทได้กลับมาตั้งหลักชีวิตและสานต่อความฝันของตนได้ต่อไป
ในความทุกข์ยาก เสียงหัวเราะคือความกล้าหาญ ในความเศร้าความเจ็บปวด การยอมรับและเผชิญหน้าคือความเข้มแข็ง
นักแสดงหลักคือ โรบิน วิลเลียม ถ่ายทอดบทบาทความเป็นแพท อดัม ออกมาได้ราวกับชีวิตจริง น่าเสียดายและน่าอาลัยกับการจากไปของนักแสดงผู้นี้ ภาพยนตร์ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่เปล่งประกายของนักแสดง เหมือนกับเราทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่เปล่งประกาย และวันหนึ่งก็ค่อยๆ ดับแสง นั่นคือเรื่องธรรมดา