หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง ลองของ 2 2008 เต็มเรื่อง
ครูพนอ (นภคปภา นาคประสิทธิ์ ) สาวสวยรวยเสน่ห์ ชีวิตครูต่างจังหวัด ของเธอ คงเหมือนกับครูทั่ว ๆ ไป แต่ความสวยความสาวของเธอ กับทำให้เธอต้องประสบเคราะห์กรรม จากคนที่มารุมรัก ถูกทำของใส่ทั้งจากครู และเหล่านักเรียนชายมัธยมในโรงเรียน เพื่อแก้มนต์ดำแก้อาถรรพณ์ ทำให้ครูพนอต้องฆ่านายพร (หมอไสยศาสตร์) และทำให้ได้เทพ 3 ตามาครอบครอง จ่าดิษ ( ต๊อก ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) เพื่อนนายพร คนเล่นของที่มีชีวิตอยู่เพื่อเดรัจฉานวิชา เข้ามาเกี่ยวข้องกับครูพนอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ เทพสามตามาครอง
IMDB : tt1424066
คะแนน : 5.5
รับชม : 10119 ครั้ง
เล่น : 4393 ครั้ง
"ภาพยนตร์ไทยไสยศาสตร์ เสียวสยอง ทุก 2 นาที" ...นี่คือ ประโยคฮุกเด็ด ที่เคยน๊อกสองตา สร้างความน่าสนใจจากคอหนังไทยมาได้พอสมควร กับหนังที่เหมือนจะถูกทำขึ้นมาให้เป็นภาคต่อ(อีกต่อหนึ่ง) จาก "คนเล่นของ" (เพิ่งเหลือบไปดูปกหลังวีซีดีเมื่อวันสองวันก่อน ...เลยรู้ว่า มีนางเอกเป็น "กระแต-ศุภักษร" นะนั่น) ...แล้วเมื่อมันดั้นฮิตขึ้นมาดื้อๆ ก็เลยเป็นเหตุที่ถูกเอามาสานต่อเป็นภาคต่อตัวจริงฉบับแท้ของ "ลองของ" อีกทีหนึ่ง!!?
ถ้าถามถึงความรู้สึกของที่มีต่อ ลองของ ภาคแรกนั้น ...ก็คิดและเห็นด้วย(กับคนส่วนใหญ่)ว่า มันเป็นหนังสยองที่ดี บทดี การแสดงของ "มะหมี่-นภคปภา" ที่สวมวิญญาณคาแรกเตอร์ "ครูพนอ" ได้ดี(จนน่าหมั่นไส้ลูกเสี่ยที่คุณก็รู้ว่าใคร...ที่ดัน..จน..ได้ดีไปแทนซึ่งๆหน้า) ...แต่ความดีนี้ ก็ไม่ได้มีผลให้ผมต้องชมชอบตาม เพราะมันก็ยังเป็นแค่หนังที่่สรรสร้างจุดหักมุมที่ตะลึงงันได้ แต่กลับไม่ได้ใจอะไรนัก ด้วยความที่มันขาย เสียวและสยอง จนเกินเลยจุดพอดี (ถึงจะไม่เป็นจริง ในทุกๆ 2 นาที...ที่
โปรยซะเว่อร์ก็ตามทีเหอะ) ...ฉะนั้นแล้ว ผมจึงไม่ได้ตื่นเต้นอะไรที่จะได้เห็นภาคสอง ตามออกมา โกยเงินอีกสักหน
"ลองของ 2" ...เล่าเรื่องในช่วงเวลาที่เกิดขึ้นหลังจาก เหตุการณ์ที่ ครูพนอ กินเนื้อของคนทำของให้ตัวเอง เพื่อถอนวิชาที่เข้าตัว... แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ แล้วยังถูกจับให้เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ...ตกอยู่ภายใต้การดูแลของพยาบาลสาว "เพ็ญ" ซึ่งดันมามีความข้องเกี่ยวกับครูพนอ ในแง่ของความสัมพันธ์ที่ไม่น่าจดจำ ...เนื่องเพราะครอบครัวของ เพ็ญ เคยเข้าใจว่า ครูพนอ เป็นตัวการที่ทำให้สามีของพี่สาว "เดือน" และพ่อของ "ต๊ะ" (อีกหนึ่งตัวละครจากภาคแรก...ผู้เคยชักนำบรรดาเพื่อนฝูงมาตายพร้อมๆกัน) ต้องผันเปลี่ยนมาคบเธอเป็นชู้รัก ...แล้วอาจเป็นคนที่มากรอกหูให้พ่อของต๊ะ ฆ่าเมียหลวงให้ตายไป เพื่อมาคบกับเธอได้อย่างสะดวกทาง
เนื่องด้วยหนี้ความแค้นที่ฝังจิตฝังใจของทุกคนมาตลอดเวลาสิบกว่าปี ...เมื่อ ต๊ะ คืนกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากหนีหายไปทำใจเรื่องแม่ เขาจึงถูกคนในครอบครัวบังคับให้เข้าร่วมพิธีปลุกวิญญาณของแม่ เพื่อแลกร่างมาเข้าสิงบนเรือนกายของ ครูพนอ โดยมีหมอผี "ดิษฐ์" เป็นผู้นำในพิธีนี้ ที่จะช่วยทำให้หนี้แค้นของทุกคนที่มีต่อ ครูพนอ จบสิ้นลงอย่างสำเร็จ
แต่แล้วมันก็เกิดความผิดพลาดขึ้นมา เมื่อร่างของครูพนอ ที่สิงสถิต "เทพสามตา" อยู่ในขณะนั้น...ไม่ยอมรับการเข้ามาของวิญญาณใหม่ ...และนั่นจึงทำให้ ดิษฐ์ ผู้ที่หมายมั่นตามล่า เทพสามตา มาเนิ่นนาน ก็หมายกลับมาฆ่า ครูพนอ ให้สิ้นชีวิตซะ ...แต่ก็มีปัญหาอยู่อย่างใน การจัดการคนที่มี เทพสามตา ซึ่งยากยิ่งที่จะเอาชนะ ต่อให้งัดของเจ๋งๆอะไรต่อมิอะไรที่ ดิษฐ์ ก็มีอยู่หลากหลาย มาสู้ก็เหอะ
การดำเนินเรื่องของ ลองของ 2 ...ไม่ได้ทำการใช้รูปแบบแถกสีข้าง สานต่อเนื่องมาจากเรื่องราวในภาคแรก ที่ถึงจะจบดีไปอย่างไร ก็ยังกล้าขุดคนที่ตายไปให้คืนชีพอีกหน (หรือจะให้แถกเนียนๆหน่อย ...ก็หาทายาทครูพนอ มารับไม้สองท่องมนต์เขมรกันต่อไป) ...แต่เลือกใช้กลวิธีที่ภาคก่อนเคยเหลือช่องโหว่บางจุดเอาไว้ แล้วมาเล่าในมุมที่เห็น ครูพนอ เป็นตัวละคร
เอก ...พลิกภาพจากการเป็นผู้กระทำอันเหี้ยมโหด มากลายเป็นคนโดนกระทำแต่แรก ที่สุดท้ายก็รอดมาเพื่อเอาคืนกันอีกหน...พูดให้เห็นภาพสักหน่อย ก็คิดเสียว่า ครูพนอ เป็น The Bride แห่ง Kill Bill นั่นแหละ (แหม! คิดไปได้)
นอกไปจากการเล่าถึงเรื่องความหลังที่ขาดหายไป ...ในบางห้วงเวลาของภาคนี้ ก็ยังมีฉากบางฉากที่ถูกทำขึ้นมาให้คาบเกี่ยวกับภาคแรก ...ส่วนตัวพลอตเรื่องของภาคสอง ก็ทำการแบ่งทอนเรื่องไสยศาสตร์ที่เน้นๆในคราวก่อน มาเบี่ยงประเด็นเล่นดรามา กับช่วงชีวิตหนึ่งของ ครูพนอ ที่เคยเป็นจุดพลิกผันให้เธอต้องกลายมาเป็นคนอำมหิตผิดมนุษย์ อย่างในภาพที่ยังจำจาก ภาคก่อน
ถ้าพูดถึงเรื่องของการสร้างเหตุและผลมาเชื่อมต่อ และสร้างความเกี่ยวเนื่องกับตัวเรื่องต้นฉบับ ...ลองของ 2 สามารถทำมันออกมาได้ดี เล่าได้ล้ำลึกกับการผูกเหตุการณ์ในภาคก่อน มาหวนให้เราคิดถึงได้สนุก ...แม้เรื่องของความแพรวพราว บิดไปหักมา แทบจะไม่มี แต่ในมุมที่หนังไม่พยายามทำให้ตัวเองสับสน ก็เป็นเรื่องดีในแง่การอยากติดตามของคนดู ที่ไม่ต้องการอะไรที่หนักๆ และผมก็เป็นคนนั้น ที่ไม่อยากจะเห็นภาคสอง เจริญรอยตามภาคแรก แบบเป๊ะๆ ทั้งในเรื่องราวอันซับซ้อน และสโลแกนที่ยังจำได้ติดใจ
ทีมงานคนทำจากภาคแรกที่ยังยกกันมาทั้งกะบิ ในชื่อ "โรนินทีม" (หนึ่งในเจ็ดคนนี้..ก็มีผู้กำกับรุ่นใหม่ฝีมือน่าจับตา อย่าง "ก้องเกียรติ โขมศิริ" เป็นโต้โผ ที่ก้่าวหน้ากว่าใครเพื่อนกับ "ไชยา" เมื่อปีก่อน) ...มีพัฒนาการ ในการเขียนบท กำกับเรื่องราวที่ค่อนข้างลงตัวกว่าภาคก่อน ...เริ่มจากการลดบทบาทของความเสียวสยอง จากถี่ๆ อันน่าสะอินสะเอียน มาเป็นห่างๆ โดยมีของให้เล่นไม่มากไม่มายเท่า แต่ก็ล้วนได้ผลกับความระทึกที่รู้สึกจับต้องได้มากขึ้น ...ส่วนโทนเรื่องที่ปล่อยให้ดรามานำมานั้น ก็พอจะมีอะไรให้ติดในห้วงระลึกของคนดูอยู่บ้าง แม้จะไม่ได้รุนแรงอะไรนัก ก็ยังนับว่าที่มีอยู่ ล้วนเป็นประเด็นสะท้อนสังคมไทยที่น่าสนใจ
แต่ก็น่าเสียดายที่ เรื่องราวในภาคสองนี้ มีความพยายามตั้งแง่สอนใจคนดูอย่างเด่นชัด น่าขัดอารมณ์เกินไปหน่อย ...มันอาจจะมาพร้อมกับคำพูดที่ดูสวยหรูน่าคิดถึง แต่ความสะดุดหูก็เกิดขึ้นเพราะความตรงไปตรงมาที่พาลให้คิดว่าการมีภาคต่อ ก็อาจเพื่อประโยชน์เข้าทางธรรมอย่างลึกซึ้งเป็นสำคัญ ...ซึ่งถ้าวิธีการสอนถูกเล่าออกมา เพียงการกระทำที่ให้ผลลัพธ์อย่างในหนังนั้น ถึงจะทำแบบแอบๆ อ้อมๆ ด้วยกลการอย่างไร มันย่อมดูหลักแหลม และคงน่าใคร่จดจำเสียมากกว่า
ถึงกระนั้น ที่่ว่ามาในส่วนเบื้องหลัง นั่นก็ไม่ใช่จุดที่ผมต้องการให้ออกมาดีเลิศอะไรนักหนา ...เพราะสิ่งน่าสนใจที่ผมมีให้ลองของ 2 มากกว่าอื่นใด ก็ต้องยกเป็นผลประโยชน์ให้ การกลับมาแสดงเป็นครูพนออีกหน ของ มะหมี่-นภคปภา อดีตผู้พลาดหวังจากรางวัลนำหญิง สุพรรณหงส์ เพราะหนังภาคแรก(ในสายตากรรมการ) บทบาทของเธอควรค่่าชิงตำแหน่ง ประกอบหญิงมากกว่า ซะอย่างงั้น ...ฉะนั้นแล้ว การกลับมาในภาคต่อ จึงถูกยกให้เป็นหนังของเธอ(แทบจะ)โดยเฉพาะเน้นๆ ...และเธอก็ยังทำได้อย่างแน่นอน ไม่มีเรื่องอันน่าผิดหวังใดๆมาลบคะแนน ความน่ากลัวชวนขยาด ที่ครูพนอเคยตั้งมาตรฐานเอาไว้ในภาคก่อน ...แค่เพียงการพร่ำพูดท่องมนต์เขมร ก็ยังคงตรึงคนดูให้รู้สึกเสมือนเป็นเหยื่อโดนเล่นของเช่นเคย
ส่วนตัวละครอื่นๆ ที่เข้ามาล้อมรอบเป็นบริวารครูพนอ อาจจะไม่ได้ถึงขั้นถูกลืมจากจอ แต่ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงในแง่น่าจดจำ... นักร้องสาวเสียงใส "แคล-แคลอรีน" ถึงจะเพิ่งเล่นหนังเป็นเรื่องแรก และทำได้ในระดับที่ไม่รู้สึกว่าเป็นหน้าใหม่ แต่ก็ไม่อาจเด่นไปกว่า มะหมี่ ที่เข้าใจและเข้าถึงบทบาทมากกว่า ...และก็ค่อนข้างน่าเสียดายอย่างมากที่หนังหาทางนำเอามืออาชีพ "ปวีณา ชารีฟสกุล" กับ "สมมาตร ไพรหิรัญ" มาใช้งานน้อย จนแทบไม่ส่งผลให้เราจะคล้อยตามความเป็นไปของคนทั้งสอง
"ลองของ 2" ... แม้ตัวผมจะยังคงคิดว่าการเล่นของในครั้งนี้ ทำได้แรงไม่เต็มที่ (พูดแบบคุณไสย ...ก็ประมาณ เสกหนังควายไม่เต็มท้อง) ...แต่ในแง่ของความสนุก ก็เป็นภาคต่อที่ทำออกมาได้ดี ค่อนข้างลงตัว ทั้งดูด้วยความระทึกใจที่มีมากกว่า ชวนให้น่าติดตามกว่าครั้งที่แล้ว หรือแค่ได้ดู มะหมี่ ก็คุ้มค่าแล้ว
สำหรับคนที่เคยได้ดูภาคแรกมา ย่อมถือว่าน่าดูในระดับหนึ่ง ...ส่วนกับคนที่อาจยังไม่ได้ดูต้นฉบับ แต่มีความอยากในครั้งนี้ ก็ขอแนะให้หาภาคแรกมาดูก่อนโดยด่วน มิฉะนั้นอาจมีมีนตึ้บๆ ...หรือแม้กระทั่งกับคนที่เคยดูภาคแรก มาแล้วดันหลงลืมซะเยอะ (เช่น ผมคนหนึ่ง) ก็ต้องขอบอกว่า เอะใจบ่อยเหลือเกิน