ดูหนัง Pay the Ghost เอาลูกกูคืนมา 2015 เต็มเรื่อง

พูดก็พูดครับว่าผมรอการคืนชีพของพี่ Nicolas Cage อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันครับ รออยู่ว่า National Treasure ภาค 3 จะเป็นจริงเมื่อไร เพราะข่าวก็มาๆ หายๆ ยังไม่ชัวร์สักที แล้วตอนนี้ Jon Turteltaub ยังหนีไปกำกับ Meg อีก ก็คงต้องรอกันเง่กเลยล่ะครับ (ยกเว้นจะมีการเปลี่ยนผู้กำกับเท่านั้นแหละ)

ทีนี้ในฐานะคนคุ้นเคย ถ้ามีผลงานเรื่องใหม่ๆ ออกมาผมก็พร้อมตามดูล่ะครับ แม้ทุกเรื่องจะเป็นหนังลงแผ่นก็เถอะ แต่ยังไงก็ยังอยากตามไปให้กำลังใจพี่แก และเอาเข้าจริงๆ หนังทุกเรื่องที่พี่แกเล่น เขาก็ยังแสดงได้ดีนะ

สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นแนวลึกลับผสมสยองขวัญครับ Cage รับบท ไมค์ ลอว์ฟอร์ด ศาสตราจารย์ที่พาลูกชายไปเที่ยวในเทศกาลฮาโลวีน แล้วจู่ๆ ลูกเขาก็หายไปอย่างลึกลับ เขากับภรรยาพยายามตามหาแค่ไหนก็ไม่เจอ

ทีนี้ปีต่อมาไมค์ก็ยังพยายามตามหาครับ และเขาก็ยังถูกหลอกหลอนโดยเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้มากมาย จนในที่สุดเขาก็พบตำนานว่าด้วยปีศาจที่จะออกมาลักพาเด็กๆ ไปในคืนฮาโลวีน เขาก็พยายามปะติดปะต่อเงื่อนงำทุกอย่างเพื่อหาทางช่วยลูกกลับคืนมาให้ทัน ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

ครับ เป็นไปตามคาด พี่ Cage ยังแสดงได้ดีนั่นแหละ และถ้าจะว่าไปพล็อตน่ะไม่เลวนะครับ ตัวเอกต้องไขปมปริศนาแล้วก็ตามร่องรอยของตำนานเพื่อพาลูกคืนมา การเดินเรื่องเป็นแบบนิยายที่เปิดไปทีละหน้า ส่วนหนึ่งก็เพราะหนังดัดแปลงจากนิยาย (ของ Tim Lebbon) นั่นแหละครับ

แต่แม้หลายอย่างจะน่าสน ทว่าการเดินเรื่องยังไม่น่าติดตามครับ ส่วนมากออกแนวอืดและช้าเกินไป และตามปกติถ้าหนังแนวนี้จะให้ดี มันก็ต้องเดินเรื่องเหมือนนิยายที่เปิดไปทีละหน้า ปมค่อยๆ เผยที่ละอย่าง และแก้ไปทีละเปลาะ หากทำได้มันก็จะออกมาน่าติดตามไปโดยปริยาย (แบบ Chinatown, Rosemary’s Baby หรือ The Ninth Gate)

แต่กับเรื่องนี้เดินเรื่องช้าครับ การเผยปมหรือตามปมก็ไม่ได้ชวนให้รู้สึกอยากรู้สักเท่าไร หลายช่วงนี่ออกแนวชวนเบื่อไปเลยก็มีครับ เพราะมันไม่ได้มีประเด็นที่สามารถทำให้เราเกิดความรู้สึกอยากติดตามแบบจริงๆ จังๆ ซึ่งลองว่าหนังลึกลับที่คงอารมณ์ลึกลับในใจคนดูไว้ไม่ได้นี่ รสชาติของหนังก็จืดลงไปพอตัวล่ะครับ

หรือในการเล่าตำนานมันก็ไม่ได้เร้าให้เราตื่นเต้นไปกับมัน (ผมว่า Darkness Falls ยังทำฉากเล่าตำนานออกมาได้น่าสนใจกว่านี้อีกนะ) อันนี้ก็น่าเสียดายเหมือนกันครับ เพราะถ้าหนังแนวนี้ไม่สามารถเล่าตำนานให้มันน่าขนลุกหรือน่าเชื่อได้ ความสนุกก็จะลดลงไปทันที

โดยรวมหนังยังดีได้อีกครับ จริงๆ มันคือสูตรหนังสยองลึกลับที่ให้ตัวเอกตามปมเพื่อจุดประสงค์อะไรสักอย่าง แล้วก็เอาตำนานเรื่องเล่ามาผสมเข้าไป แบบ The Ring, Shutter อะไรประมาณนั้น องค์ประกอบจริงๆ โอเค แต่การเล่าเรื่องที่ทำได้ไม่ถึง ก็ลดความน่าสนใจของหนังลงตามลำดับ

หนังกำกับโดย Uli Edel ผู้กำกับชาวเยอรมันที่มักจะทำหนังทีวีหรือซีรี่ส์ได้ดีครับ แต่หนังใหญ่เรื่องที่โดนๆ ยังไม่เยอะ เรื่องที่ผมว่าเข้าท่าในความทรงจำก็คือ Rasputin ที่ Alan Rickman นำแสดง (เรื่องนั้นก็หนังทีวีเหมือนกัน)

ในขณะที่หนังจอใหญ่อย่าง Body of Evidence (หนังร้อนของ Madonna) หรือ The Little Vampire (ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนที่มีคนชอบเต็มไปหมด) เหล่านี้ผลที่ได้ก็ไม่เวิร์กเท่าไรเหมือนกัน

เรื่องนี้ก็เข้าอีหรอบนั้นครับ ยังสนุกและเข้าท่าได้อีกเยอะ แต่ถ้าถามว่ามีอะไรที่ผมชอบไหม ผมชอบช่วงท้ายนะ ตอนไมค์ต้องบตามไปทวงลูกกับปีศาจ ฉากช่วงนั้นก็ดูหม่นมืดและบางซีนก็ออกแบบได้ลึกลับดี (อย่างฉากที่เต็มไปด้วยมือเป็นต้น)