เมื่อปี 2008 หนัง Taken หนังที่มีทุนสร้างเพียง 26.5 ล้านเหรียญสหรัฐ กลับกลายเป็นหนังแอ็คชั่นแห่งปีได้รับคำชมล้นหลาม แถมกวาดรายได้ทั่วโลกกว่า 226 ล้านเหรียญสหรัฐ แถมหนังเรื่องนี้ยังส่งให้ เลียม นีสัน พระเอกวัยเก๋ามีงานแสดงเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบทสายลับในเรื่อง Unknow ที่มีบุคลิกคล้ายคลึงกับตัวละครในเรื่อง Taken
สำหรับ Taken ภาค 2 ไบรอัน มิลส์ (เลียม นีสัน) อดีตซีไอเอผู้มีทักษะในการแกะรอยคนร้ายและการต่อสู้
เป็นเลิศ หลังจากภาคก่อนหน้าเขาต้องลุยเดี่ยวตามล่าแก๊งค้ามนุษย์ชาวแอลบาเนียในฝรั่งเศสที่จับตัวลูกสาวของเขาไป จนสุดท้ายด้วยความแค้นเขาจัดการสังหารคนร้ายยกแก๊ง เวลาผ่านไปหลายปี ความสัมพันธ์ของ ไบรอัน กับลูกสาว (แม็กกี้ เกรซ) ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน รวมถึงอดีตภรรยา (แฟมเก้ แจนเซน) ที่มีปัญหากับสามีใหญ่ก็ทำท่าจะกลับมาคืนดีกับเขา ทว่ายังติดอยู่ที่ความเนี้ยบเกินเหตุและจู้จี้จุกจิกเกินไปทำให้ลูกสาวยังไม่เปิดใจกับเขา
ต่อมา ไบรอัน รับงานเป็นบอดี้การ์ดให้เศรษฐีในนครอิสตันบูลประเทศตุรกี จึงถือโอกาสชวนอดีตภรรยากับลูกสาวมาเที่ยวทั้งคู่โผล่มาเซอร์ไพรส์เขาโดยหารู้ไม่ว่ามีกลุ่มคนร้ายจับความเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ ทั้งหมดเป็นญาติของแก๊งค้ามนุษย์ที่ถูกไบรอันฆ่าเมื่อหลายปีก่อน ด้วยความแค้นจึงรวมตัวกันเพื่อออกตามล่า ไบรอัน กับครอบครัวไบรอัน จึงต้องหวนกลับมาทำสิ่งที่เขาถนัดอีกครั้ง
บทหนังแม้จะได้ยังคงทีมเขียนบทชุดเดิมอย่าง ลุค เบซง และ โรเบิร์ต มาร์ค คาเมน แต่หนังออกมาเป็นโทนแอ็คชั่นหนักๆแต่ลดด้านการสืบสวนสอบสวนที่เคยโดดเด่นลงไป ประเด็นการตามล้างแค้นของกลุ่มญาติคนร้ายน่าสนใจ ทว่ามุมมองของฝ่ายผู้ร้ายมืดสุดโต่งจนไม่มีอะไรให้น่าเห็นใจ แถมยังเดาเนื้อเรื่องได้ง่ายเกินไป
เมกาตัน ผู้กำกับคนใหม่ที่มารับหน้าที่ภาคต่อแทน ปีแอร์ มอเรลล์ พยายามชูฉากแอ็คชั่นซึ่งก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรเพียงแต่ก็ไม่ได้มีฉากไหนที่โดดเด่น ด้วยความที่ ไบรอัน มิลส์ เป็นสายลับยอดฝีมือ มันจึงง่ายดายจนคนดูแทบไม่ต้องลุ้นอะไร ซีนที่มีการดวลต่อสู้มือเปล่ากับมือขวาของหัวหน้าคนร้ายเมื่อดูขนาดตัวที่เล็กกับชุดวอร์มที่คนร้ายใส่ กลายเป็นว่ารู้สึกขัดตามากกว่าจะตื่นเต้น ประเด็นความสัมพันธ์ครอบครัวแม้จะพยายามเน้นแต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้ง ส่วนความไม่เป็นเหตุเป็นผลก็มีประปราย ทั้งการที่ ไบรอัน ให้ลูกสาวขว้างระเบิดเพื่อหาพิกัด การที่ไม่ขอความช่วยเหลือสถานทูตหรือตำรวจเลยแต่มุ่งมั่นที่จะฉายเดี่ยว แม้ว่าฉากการตามหาจุดที่ถูกคนร้ายจับไปด้วยหลักคณิตศาสตร์จะสร้างความฮือฮาให้กับคนดูได้ แต่เชื่อว่ามีไม่กี่คนหรอกที่สามารถเข้าใจวิธีการได้
เลียม นีลสัน เป็นศูนย์กลางของเรื่องอย่างแท้จริง โดยครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเสน่ห์ของเขาลดลงไปมากจึงไม่มีส่วนใดที่สร้างความประทับใจให้คนดูนัก ช่วงท้ายเหมือนหนังจะหาทางลงที่แตกต่าง มีการพูดเรื่องการหาทางออกของแก้แค้นได้ดี ทว่ามันกลับไม่มีผลใดๆเลย เนื่องจากฉากจบยังคงเป็นตามสูตรหนังแอ็คชั่นทั้วไป ดังนั้น หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่หนังภาคต่อที่ดีกว่าภาคแรก แต่หากคุณเคยดู Taken แล้วชอบ จนอยากที่จะติดตามความเป็นไปของซีไอเอปลดเกษียณและครอบครัวก็ลองตีตั๋วเข้าไปชมกันดู เพราะคงไม่มี Taken3 แน่ๆ